อดีตรองโฆษก ปชป. บุกกองปราบฯ ทวงถามความคืบหน้าตรวจพิสูจน์กล้องวงจรปิด มัดผู้ต้องหา คดี อธิบดีศาลลวนลาม เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังค์ จี้เรียกบุคคลรู้เห็นมาเป็นพยาน
วันนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์สาวที่ถูกอธิบดีผู้พิพากษาศาลคนหนึ่งลวนลาม หมายจะข่มขืน บนขบวนรถไฟ สายกรุงเทพ- เชียงใหม่ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงหัวหน้าพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 4 กองปราบปราม เพื่อขอทราบความคืบหน้าคดี หลังจากที่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา และในวันที่ 24 ก.ค.พนักงานสอบสวนได้นำผู้เสียหาย พร้อมกับทนายความลงพื้นที่สถานีรถไฟกลางบางซื่อ เพื่อพิสูจน์ทราบและเก็บพยานหลักฐานที่เกิดเหตุ ที่บริเวณขนวนตู้รถนอนชั้น 2 ที่เกิดเหตุ
ซึ่งจาการตรวจสอบพบพยานหลักฐานสำคัญ คือ กล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุในวันดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการติดต่อกับผู้ครอบครองเพื่อขอดูภาพย้อนหลังในวันเกิดเหตุ แต่จากการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับความคืบหน้าในการสอบสวนแล้ว ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งถือเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ติดตั้งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ว่า กล้องวงจรปิดดังกล่าวสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ ในวันเกิดเหตุขณะเกิดเหตุไว้ได้หรือไม่อย่างไร
นายเชาว์ ทนายความของผู้เสียหาย จึงเดินทางมายื่นสือเพื่อขอทราบผลการตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ว่า สามารถบันทึกภาพความเคลื่อนไหวในวันเกิดเหตุและขณะเกิดเหตุได้หรือไม่ หรือมีข้อขัดข้องประการใด และขอให้หมายเรียกพยานบุคคลที่รู้เห็นและใกล้ชิดกับเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุมาให้การเป็นพยานในคดีนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการ หรือ กต. ได้มีมติพักราชการอธิบดีผู้พิพากษาศาลรายนี้ หลังตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง