“วันนอร์” ยังไม่เห็นหมายขอตัว “พิศาล” จากศาล คดีตากใบ ย้ำ ศาลดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุมได้ แต่ต้องไม่เกิดผลเสียกับการประชุมสภา ปัดตอบ “พิศาล” ทำเรื่องลาประชุมบ่อย ด้าน เลขาฯ สภา ย้ำ เป็นเรื่องของ ปธ.สภา บรรจุวาระขอตัว สส.ดำเนินคดี
วันนี้ (17 ก.ย.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ศาลนราธิวาส มีหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานสภา เพื่อขอให้ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาค 4 ฐานะจำเลยที่ 1 ในคดีตากใบ สละสิทธิ์ความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ 125 หลังจากที่ศาลมีหนังสือขออนุญาตจับกุมไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้สภายังไม่ได้รับหนังสือขอตัวจากศาล แต่หากมีหนังสือขอมาแล้วจะให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 วรรคสองหรือวรรคสามหรือไม่ ซึ่งต้องรีบพิจารณาโดยเร็ว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยว่า ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 นั้น ยังมีวรรคสี่ ที่กำหนดให้ศาลพิจารณาคดีในระหว่างสมัยประชุมได้ แต่ต้องไม่เป็นการขัดขวางหรือต้องไม่เกิดความเสียหายต่อการที่สมาชิกจะมาประชุม ดังนั้น ศาลจึงดำเนินคดีสมาชิกในสมัยประชุมหรือนอกสมัยประชุมก็ได้ เพื่อให้เห็นว่าอำนาจนิติบัญญัติและตุลาการแยกปฏิบัติได้ ดังนั้น การปฏิบัติแล้วแต่ศาลจะปฏิบัติอย่างไร
“มีตัวอย่างคดีการล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา พบว่า นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นจำเลย ศาลได้ดำเนินคดีระหว่างสมัยประชุม แต่ไม่ได้ดำเนินคดีหรือจับกุม และนายอดิศร ส่งทนายไปแทน ดังนั้น อยู่ที่ดุลพินิจของศาล ซึ่งศาลหากศาลขอตัวกับสภา ในสมัยประชุม ต้องบรรจุวาระพิจารณา ทั้งนี้ ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญ 2560 ศาลยังไม่เคยขอตัวมา” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีดังกล่าาวต้องฟังนโยบายจากพรรคเพื่อไทยหรือรัฐบาลหรือไม่ ประธานสภา กล่าวว่า ไม่มีนโยบายจากไหน สภาต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเรื่องนี้อยู่ในรัฐธรรมนูญและข้อบังคับสภา ระบุว่า หากศาลส่งมาต้องบรรจุในวาระและพิจารณา ซึ่งข้อบังคับเป็นของเก่า แต่รัฐธรรมนูญ วรรคท้ายบอกว่าศาลทำได้ รวมถึงการจับกุมด้วย
เมื่อถามถึงการลาประชุมของ พล.อ.พิศาล ที่พบว่า มีจำนวนบ่อยครั้ง ประธานสภา กล่าวว่า หนังสือจะส่งแค่สำนักงาน แต่ยังไม่มาถึงตน หากมีเหตุผลสามารถลาไปได้ เป็นสิทธิของ สส. ส่วนจำนวนกี่ครั้งนั้น ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ลาอย่างไร ลาป่วย ลากิจ ลาภารกิจได้กี่วัน
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภา ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ในกรณีที่จะดำเนินคดีในสมัยประชุมศาลต้องขออนุญาตสภา เพราะเป็นไปตามหลักความคุ้มกันของ สส. และเมื่อมีหนังสือเป็นหมายเรียกสำนักประชุมจะกราบเรียนประธานสภา เพื่อบรรจุวาระขออนุญาตดำเนินคดีกับ สส. ส่วนการอนุญาตหือไม่เป็นดุลพินิจของสภา ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีกรณีที่ สส.แสดงความบริสุทธิ์ไม่ประสงค์ใช้ความคุ้มกัน แต่ปกติสภาจะไม่อนุญาต เพราะมองในภาพรวมของสถาบันนิติบัญญัติ ที่ต้องมีหลักประกันในการปฎิบัติหน้าที่ เรียนกว่า หลักความคุ้มกัน จะไม่อนุญาต แม้จะสละสิทธิ์
์
“รัฐธรรมนูญ มาตา 125 ระบุว่า ในระหว่างสมัยประชุม ต้องขออนุญาต และบรรจุวาระ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่ที่ประชุมจะเลื่อนวาระมาพิจารณาหรือไม่ ส่วนกรณีที่ปิดสมัยประชุมไปแล้ว ไม่ต้องขออนุญาตเพราะหลักการคุ้มกันกำหนดให้ทำในระหว่างสมัยประชุม หากทำหนังสือมาช่วงสมัยประชุมแต่ปิดสมัยประชุมไปแล้วนั้นจะบรรจุว่าไม่มีความจำเป็นต้องบรรจุ เพราะปิดสมัยประชุม จากนั้นจะแจ้งศาลให้ทำหมายเรียกไปยังตัวบุคคลโดยตรง” ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงสิทธิการลาประชุม เลขาธิการสภา กล่าวว่า สส.ขาดประชุมหรือลา ต้องมีหนังสือแบบฟอร์มระบุเหตุผล การอนุญาตนั้น ประธานสภาจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจว่ามีเหตุผลสมควรจะอนุญาต ปกติใช้หลักความยืดหยุ่น หากวันประชุมแต่ไม่ได้มา มาแจ้งภายหลังได้ โดยปกติแล้วสำนักงานจะมีรายละเอียดการลาของ สส.แจ้งให้ประธานสภา ทราบตามกรอบเวลา ส่วน พล.อ.พิศาล ทำหนังสือลามากครั้งหรือไม่ เรื่องอยู่ที่สำนักงานบริหารงานกลาง