xs
xsm
sm
md
lg

กยท. เปิดเวทีประชุมวิชาการยางพารา มุ่งเป้า “ติดอาวุธนักวิจัย” ตอบโจทย์ นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กยท. พัฒนาอุตสาหกรรมยางไทยไม่หยุด จัดใหญ่ประชุมวิชาการ ครั้งที่ 2 ปี 2567 ระหว่าง 16-18 ก.ย. 2567 ที่ จ.อุดรธานี ระดมพลนักวิจัย ร่วมจัดการสวนยางยั่งยืนสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราอย่างยั่งยืน หนุนติดอาวุธนักวิจัย เสริมแกร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายตลาดเพิ่ม ตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”ของกระทรวงเกษตรฯ

เมื่อวันที่ 17 ก.ย. การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จัดให้มีการประชุมวิชาการยางพารา ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 ภายใต้หัวข้อ “การจัดการสวนยางยั่งยืนสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราอย่างยั่งยืน” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานบอร์ด กยท. กล่าวมอบนโยบายด้านการบริหารจัดการงานวิจัย สู่การสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และ ดร.กฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง เป็นประธานเปิดการประชุม ณ โรงแรมเวลาดี จ.อุดรธานี

ดร.กฤษดา สังข์สิงห์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยยาง ประธานเปิดการประชุมวิชาการยางพารา กล่าวว่า กยท. เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนางานวิจัยด้านยางพาราสู่นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่จะสร้างประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่อุปทานยาง ตั้งแต่เกษตรกรชาวสวนยางไปจนถึงผู้ประกอบกิจการยางพาราทุกระดับ เพื่อผลักดันวงการอุตสาหกรรมยางพาราไทยก้าวสู่อุตสาหกรรมแห่งความยั่งยืน โดย กยท.จัดประชุมวิชาการยางพารา ครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน ภายใต้หัวข้อ“การจัดการสวนยางยั่งยืนสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราอย่างยั่งยืน” ซึ่งเปิดโอกาสให้นักวิจัยยางพาราที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก กยท.ได้แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดทิศทางบริหารจัดการงานวิจัย สู่การสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งระบบ พร้อมทั้งเปิดเวทีให้นักวิจัยได้นำเสนอผลงานวิจัยที่สิ้นสุดแล้วและพร้อมต่อยอดเป็นต้นแบบนวัตกรรมที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชาวสวนยางต่อไปในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ กยท.ขับเคลื่อนมาต่อเนื่องอย่างจริงจัง

ด้าน ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ได้ให้แนวคิดผ่านเวทีนี้ว่า “กยท. ต้องขยายช่องทางการตลาด โดยสร้างแพลตฟอร์มซื้อขายสินค้าเกษตร รวมถึงการบริหารจัดการด้านการผลิต การแปรรูป โลจิสติกส์ การจำหน่ายสินค้ายางพารา และการสร้างศูนย์กระจายสินค้า โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการผลิตยาง EUDR ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสด้านการตลาดให้กับประเทศไทย นอกจากนี้ ต้องผลักดัน กยท. ให้ก้าวสู่องค์กรที่ทันสมัย โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาบริหารจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มนักวิจัยของ กยท.ที่องค์กรต้องติดอาวุธ เช่น การอบรมเพิ่มทักษะและความรู้ เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะ นำไปสู่การพัฒนางานวิจัยยางพาราของประเทศ”

การประชุมวิชาการยางพาราครั้งนี้ มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สำคัญโดยผู้เชี่ยวชาญด้านยางพารา อาทิ การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำของสถาบันวิจัยยาง ความสัมพันธ์ของดิน ธาตุอาหารพืช และการจัดการปุ๋ย ตลอดจนการตรวจจำแนกยางแผ่นดิบไทยกับยางที่ลักลอบนำเข้า นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่ศึกษาดูงานการจัดการสวนยางยั่งยืน ตาม BCG Model โครงการสืบสานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโคกหนองนา Model ร่วมยาง โครงการขับเคลื่อนเพื่อเพิ่มศักยภาพตามหลัก GAP และเทคโนโลยีพันธุ์ยาง RRIT 3904 ณ ศูนย์วิจัยยางหนองคาย อีกด้วย












กำลังโหลดความคิดเห็น