อดีต รมว.คลัง โต้ “พิชัย” ยันลดราคาน้ำมันทำได้ โดยการปรับโครงสร้างธุรกิจพลังงาน ลดการผูกขาด ลดอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อคืนกำไรให้แก่ประชาชน ส่วนการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมระหว่างไทย-กัมพูชา ต้องยกเลิก MOU44 ก่อน
วันที่ 15 กันยายน 2567 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
แสดงความเห็นกรณีที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในที่ประชุมรัฐสภา ระหว่างการอภิปรายนโยบายรัฐบาล เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ว่า ไม่มีใครลดค่าพลังงานได้ มีรายละเอียดดังนี้
รมว.คลังลั่น : ไม่มีใครลดค่าพลังงานได้
รัฐมนตรีคลังอภิปรายในสภาว่า ไม่มีใครแก้ไขราคาพลังงานลดลงได้ เพราะประเทศไทยนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หากจะแก้ไขราคาให้ลดลงได้ก็ด้วยวิธีเดียว คือไม่เก็บภาษีเลยซึ่งเป็นไปไม่ได้
ผมขอแนะนำให้ท่านรัฐมนตรีมองเจาะลึกเข้าไปในธุรกิจพลังงาน โดยเริ่มต้นที่บริษัทพลังงานที่ท่านเคยเป็นผู้บริหารนั่นแหละ
ท่านจะพบว่าบริษัทพลังงานในไทยหลายแห่งมีสภาพเป็นธุรกิจผูกขาด ไม่ว่าโดยผลของกฎหมายหรือโดยสภาพความเป็นจริง
การเป็นธุรกิจผูกขาดนี้ เปิดช่องให้บริษัทพลังงานสามารถฉกฉวยกำไรได้สูงกว่าที่ควร โดยเฉพาะถ้าใช้วิธีการล็อบบี้ให้รัฐกำหนดกติกาที่คุ้มครองตนเองผ่านข้าราชการกระทรวงพลังงานที่หวังกันว่าภายหลังจากเกษียณอายุจะได้เข้าไปเป็นกรรมการในกลุ่มบริษัทพลังงานเหล่านี้
นอกจากนี้ การเป็นธุรกิจผูกขาดไม่จูงใจให้มีความจำเป็นต้องปรับปรุงการบริหารงานลดต้นทุนให้ต่ำสุด เพราะสามารถใช้กำไรที่เกินสมควรในการสนับสนุนภาคการเมือง ตลอดจนการใช้จ่ายเพื่อการกุศลและโครงการสังคมเพื่อสร้างการยอมรับในสถานะผูกขาดดังกล่าว
ดังนั้น วิธีทำให้ราคาพลังงานลดลงที่ทำได้ทันที อันจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้บริโภค ก็คือการปรับหรือโครงสร้างธุรกิจพลังงานเพื่อลดการผูกขาด และตัดลดอัตรากำไรให้เหลืออยู่ในระดับที่พอเหมาะสม ไม่ให้สูงจนเกินไป
ต้องใช้วิธีแก้ไขกติกาปรับจุดสมดุลการแบ่งผลประโยชน์เพื่อให้ธุรกิจพลังงานเหล่านี้คืนกำไรไปให้แก่ประชาชนมากขึ้น
ส่วนการที่จะพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในทะเลซึ่งมีอยู่มหาศาลระหว่างไทยกับกัมพูชาได้ จะกระทำได้โดยวิธีวางเรื่องข้อถกเถียงเส้นเขตแดนในทะเลวางพักไว้ นั้น รัฐบาลไทยก็จะต้องแจ้งยกเลิก MOU44 เสียก่อน