“รมว.นฤมล” ประกาศภารกิจ 3 เดือนแรก ต้องเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เผย เตรียมรายงานสถานการณ์น้ำใน ครม.นัดแรก เร่งศึกษาคลองระบายน้ำเลี่ยงเมือง แก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย
วันนี้ (16 ก.ย.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร และ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวภายหลังการประชุมมอบนโยบายให้กับหน่วยงานในสังกัด ว่า นโยบายของรัฐบาลมี 3 นโยบายหลักที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องแรกคือ การดูแลปรับปรุงภาคการเกษตรให้มีรายได้สูงขึ้นตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงต่อรัฐสภา “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้”
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่ 2 การแก้ปัญหาที่ดินในทุกมิติ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะยกระดับให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีที่ทำกิน และเข้าถึงแหล่งเงินทุน และเรื่องที่ 3 คือ การบริหารจัดการน้ำอย่างครบวงจร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ส่วนงานที่เกี่ยวข้องมากที่สุด คือ กรมชลประทาน เราจะต้องประสานงานร่วมกับกระทรวงอื่นๆ เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิผล และลดปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซากได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเรื่องของ Green Economy ที่นายกรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวข้อง ทั้ง BCG และกฎหมาย EUDR ที่การยางแห่งประเทศไทย ก็จะนำไปปฏิบัติ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2568 ถ้าทำได้ทัน EUDR จะเป็นโอกาสของภาคการเกษตรไทย เพราะคงจะมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ทำได้ เพราะฉะนั้นแหล่งที่มาของสินค้า เช่น ยางที่เราเป็นผู้ส่งออกหลัก จะสามารถส่งออกไปยังประเทศในยุโรปได้
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อถึงการแบ่งงานให้กับรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คน ว่า มีการหารือกันแล้ว แต่ยังไม่ได้แบ่งงานอย่างเป็นทางการ โดยตนเองจะทำงานต่อเนื่องจากการเป็นผู้แทนการค้าไทย เน้นการตลาดนำการผลิต ส่วนรัฐมนตรีทั้ง 2 คน จะช่วยเรื่องนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร สอดคล้องกับภารกิจใน 3 เดือนแรกที่ต้องการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องกับเกษตรกรแบบเป็นรูปธรรม โดยจะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้น
ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวต่อถึงการประชุม ครม.นัดแรก จะรายงานสถานการณ์น้ำให้ที่ประชุมรับทราบ โดยการแก้ปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ได้ทำตามหน้าที่อยู่แล้ว โดยกรมปศุสัตว์ กรมการข้าว จะช่วยเยียวยาพี่น้องเกษตรกร กรมพัฒนาที่ดินที่จะเข้าไปช่วยเหลือปรับพื้นที่ ส่วนกรมชลประทานจะช่วยสูบน้ำออก ทุกคนมีแผนเตรียมการเต็มที่ ซึ่งวันนี้เวลา 14.00 น.จะรายงานต่อนายกรัฐมนตรี ในการประชุมเตรียมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม และจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ด้วย
ส่วนการแจ้งเตือนภัยต่อประชาชนนั้น ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า กรมชลประทานได้ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งจะต้องประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานท้องถิ่นให้ช่วยประชาสัมพันธ์ แต่มีประชาชนจำนวนหนึ่งยังห่วงทรัพย์สิน และยังไม่ได้อพยพออก โดยเราไม่สามารถบังคับเขาได้ นายกรัฐมนตรีก็ได้หารือถึงวิธีการให้พี่น้องประชาชนสบายใจเรื่องการดูแลทรัพย์สิน โดยทุกหน่วยงานจะต้องเข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ทำงานตามคำเตือนของภาครัฐ
สำหรับสถานการณ์น้ำมีการคาดการณ์และพยากรณ์ตลอด โดยกรมอุตุนิยมวิทยา มีแผนรองรับทุกอย่าง ส่วนการบริหารน้ำอย่างครบวงจรในจังหวัดเชียงราย ไม่เคยเกิดเหตุอุทกภัยเช่นนี้มากว่า 30 ปีแล้ว โดยขณะนี้กรมชลประทานอยู่ระหว่างการศึกษาการทำคลองระบายน้ำเลี่ยงเมือง เพื่อแก้ปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ศ.ดร.นฤมล ว่า ได้ปรึกษากับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรือไม่ ซึ่ง นางนฤมล กล่าวย้ำกับผู้สื่อข่าวถึง 2 ครั้ง ว่า “ปรึกษากับปลัดกระทรวงเกษตรฯ ค่ะ”
