วันนี้ (16 ก.ย.) ที่กรมชลประทาน ได้มีการประชุมมอบนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ร่วมประชุมทางระบบออนไลน์กว่า 4,000 คนจากทั่งประเทศ
โดย ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนงานเพื่อภาคการเกษตร นโยบายหลักๆ ของรัฐบาล นำโดยนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร จะเห็นได้ว่า มีนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเราอยู่ 3 นโยบาย เช่น การส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรมต่อเนื่องมาจากรัฐบาลที่แล้วก็ยังดำรงนโยบายนี้ต่อไป กระทรวงเกษตรฯ ก็ต้องรับนโยบายนี้มาดำเนินการต่อ รวมถึงการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินที่อยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นจำนวนมาก และปัจจุบันการจัดการบริหารน้ำก็เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขปัญหาในระยะยาวนอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแล้ว ก็ต้องมีการช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งเรื่องนี้จะไม่ใช่เฉพาะกระทรวงเกษตรฯเพียงที่เดียว แต่จะต้องบริหารจัดการเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย ในการที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง
นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายด้านการเกษตร ที่จะสานต่อจากนโยบายเดิมอีก 9 นโยบาย คือ
1. สร้างวิธีการทำงานสู่การปฏิบัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์บริการเกษตรพิรุณราช รวมถึงขยายครอบครัวเกษตร บูรณาการงานอย่างเข้มเเข็ง และสานต่อการกิจการกำกับดูเเลสินค้าเกษตรทั้งพืช ประมง และปศุสัตว์
2. เร่งรัดจัดที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร ขยายผลโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งทุน และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานในเขตปฏิรูปที่ดิน
3. บริหารจัดการน้ำ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง และการเติมน้ำในเขื่อน
4. ยกระดับสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง ต่อยอดโครงการ 1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตร และส่งเสริมการสร้างอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้
5. ยกระดับศักยภาพของเกษตรกร โดยให้สถาบันเกษตรกรเข้มแข็ง ส่งเสริมการทำธุรกิจสหภรณ์การเภษตรให้สามามารถเข้าถึงแหล่งทุน รวมถึงส่งเสริมเกษตรกร สถาบันเภษตรกรเป็นผู้ให้บริการการการเกษตร
6. จัดการทรัพยากรทางการเกษตร ทำการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วย BCG / CARBON CREDIT / EUDR / CBAM และส่งเสริมฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของดิน
7. รับมือกับภัยธรรมชาติ วางแผนและมีมาตรการเชิงรุก เพื่อรับมือตั้งแต่การป้องกันแก้ไข และฟื้นฟู ภัยแล้งหรือภัยพิบัติทางธธรรรมชาติทุกชนิด
8.สานต่อการทำสงครามสินค้าเกษตรเถื่อน ปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย
และ 9. อำนวยความสะดวกด้านการเกษตร พัฒนาระบบการประกันภัยภาคการเกษตร รวมถึงผลักดันนโยบายตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้
”ครอบครัวเกษตรกรของพวกเรามีอยู่ประมาณ 29 ล้านคน ข้าราชการ และก็ลูกจ้างของกระทรวงเกษตรฯ เราก็ถือว่า เป็นครอบครัวเราด้วย และเราจะขยายครอบครัวไปยังหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีหน้าที่ในการทำการตลาดให้กับภาคการเกษตร และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุน นอกจากนี้ เราจะต้องเข้าไปประสานขอความร่วมมือจากเขา และภาคเอกชนที่ทำเรื่องเกษตรแปรรูปส่งออกสินค้าเกษตรทั้งหลาย เราจะถือว่า พวกเขาเป็นครอบครัวเกษตรกับพวกเราทั้งหมด เราจะร่วมงานกับเขาเพื่อที่จะให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ของกระทรวงเกษตรฯทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น รายได้สูงขึ้น และลดค่าใช้จ่าย เราต้องประสานงานกับพวกเขาทั้งหมด เพื่อที่จะมาช่วยพี่น้องเกษตรกรของเรา” ศ.ดร.นฤมล กล่าว
ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ขอฝากกรมที่เกี่ยวข้องให้ประสานความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงด้วย เรื่องของการกำกับ ตรวจสอบ ควบคุมสินค้าด้านการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นทางด้านพืช ประมง และกรมปศุสัตว์ ให้กำจัดสินค้าผิดกฎหมายทั้งหมด อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญก็คือเร่งรัดจัดสรรที่ทำกินให้กับพี่น้องเกษตรกร ซึ่ง ส.ป.ก.ดำเนินการอยู่แล้ว เราจะยกระดับ ไม่ว่าจะต้องเป็นการแก้กฎหมายในระดับ พ.ร.บ. หรือระดับกระทรวงเพื่อที่เกษตรกรจะมีสิทธิที่มั่นคงมากขึ้น และถ้าเป็นไปได้ยกระดับให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อที่จะสามารถนำไปแปรเป็นทุนในการทำมาหากินด้วย