ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ บ้านใหญ่ทิ้งทุ่น ลุงป้อมป่าฯแตก จับตาคลิปลับชั้น14–บ้านจันทร์ส่องหล้า โผล่ !!
หลังจาก “ก๊วนผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเปิดโอกาสให้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค จัดทัพใหม่รับภารกิจการเป็นฝ่ายค้าน
ผู้บริหารชุดใหม่ “ลุงป้อม” ยังคงรั้งตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่วนเลขาธิการพรรค เป็นมือกฎหมายอย่าง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” พร้อมแจกตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค แบบอยู่ก็อยู่ด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน เบ็ดเสร็จรวม 24 คน
เมื่อ“ไพบูลย์ นิติตะวัน” รั้งตำแหน่งแม่บ้านพรรค สัญญาณทำ “นิติสงคราม” แบบรุกหนักก็เริ่มขึ้น มีการร้องเรียนทั้ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ “ทักษิณ ชินวัตร” โดยมีนักร้องอย่าง “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” สมาชิกพรรค เป็นคนเดินเรื่อง
ตอนนี้จึงบอกได้เลยว่า ตราบใดที่พรรคเพื่อไทย ยังเป็นรัฐบาล ไม่ว่าสมัยนี้ หรือสมัยหน้า โอกาสของพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีทางไปร่วมด้วยได้ ต้องเป็นฝ่ายค้านอย่างเดียว!!
ดังนั้น บรรดาสส.ในพรรค นอกจาก “กลุ่มผู้กองธรรมนัส” ที่ถอนยวงไป 20 คนแล้ว ที่เหลืออีก 20 คน ก็เตรียมหาทางหนีทีไล่ เลือกตั้งสมัยหน้าคงไม่ได้อยู่กับลุงแน่
หลังจากนี้ พลังประชารัฐคงตกอยู่ในสภาพ “เลือดไหลไม่หยุด”
ที่ลาออกเพิ่มเติมตอนนี้ ก็คือ “กลุ่มวิรัช รัตนเศรษฐ” บ้านใหญ่โคราช โดยคนในตระกูลที่เป็นอดีตสส. ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคไปแล้ว 6 คน รวมทั้ง “อธิรัฐ รัตนเศรษฐ” อดีต รมช.คมนาคม ลูกชายคนโตของวิรัช ที่มีข่าวว่าจะใส่เสื้อสีส้ม ลงสมัครนายกอบจ.โคราช ตอนนี้จึงเหลือเพียง “วิรัช” คนเดียวที่ยังไม่ลาออก
ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คือ “กลุ่มมะขามหวาน” เพชรบูรณ์ ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” รองหัวหน้าพรรค ที่มี สส.ในมือ 5 คน ใจอยากยกขบวน กลับไปพรรคเพื่อไทย แต่ไปไม่ได้ เพราะมี “ทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์” อดีต สส.เพชรบูรณ์ น้องชาย “สส.ดำ” สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ อดีต สส.เพชรบูรณ์ ผู้มากบารมีแห่ง อ.หนองไผ่ ของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นคู่ต่อสู้ขวางอยู่
แถมตอนนี้ “ทวีศักดิ์” ยังได้รับความไว้วางใจจากบ้านจันทร์ส่องหล้า ให้เป็นเหรัญญิกพรรคเพื่อไทยด้วย
ดังนั้นเส้นทางของ “กลุ่มมะขามหวาน” น่าจะไปใส่เสื้อสีน้ำเงินของพรรคภูมิใจไทยมากกว่า แต่ที่บอกว่า “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” ก็เพราะว่าทุกวันนี้ พรรคพลังประชารัฐ ยังใช้อาคารรัชดาวัน ตึกของสันติ เป็นที่ทำการพรรคอยู่ จะไปก็ไม่ได้ จะไล่ก็ไม่กล้า
ส่วนกลุ่มกำแพงเพชร ตอนนี้แยกเป็นสองซีก ซีกหนึ่ง “ไผ่ ลิกค์” และ “เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์” หนีตาม “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” สส.พะเยา ไป ขณะที่อีกซีกคือกลุ่มของ “เสี่ยต๋อง” วราเทพ รัตนากร เหลือ 2 หน่อ คือ อนันต์ ผลอำนวย และ ปริญญา ฤกษ์หร่าย ที่คงต้องกล้ำกลืนอยู่กับลุงไปก่อน รอเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่อาจจะต้องผันตัวไปอยู่ในซุ้ม “เจ้าแม่วังบัวบาน”
ส่วนบ้านสระแก้ว ของ “กำนันกี” ขวัญเรือน เทียนทอง กับลูกสาว “ตรีนุช เทียนทอง” ก็ยังไปไม่ได้ เพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ“ลุงป้อม” มาเนิ่นนาน แถมบ้านนี้ก็ไม่ลงรอยกับบ้าน “ป๋าเหนาะ” เสนาะ เทียนทอง ที่ตอนนี้ลูกชายคือ “สรวงศ์ เทียนทอง” เป็นถึง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เลยต้องจำใจอยู่แบบกล้ำกลืนฝืนทน เหมือนกัน
ซุ้มเมืองสิงห์ ของ “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ที่รอบนี้ไม่ได้เป็น สส.บัญชีรายชื่อ แต่มี สส.สิงห์บุรี 1 คน คือ “โชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” ก็เลยขยับไปไหนยาก เพราะมีเสียงเดียว ไร้อำนาจต่อรอง
นี่เป็นภาพรวมของสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่คนในอยากออก คนนอกไม่อยากเข้า!!
ส่วนสถานการณ์นอกพรรค ขณะที่นักร้องกำลังรุกไล่ทั้ง “อุ๊งอิ๊ง-ทักษิณ” อยู่ดีๆ พลันก็มี “คลิปลับ” ที่มีเสียงคล้าย “ลุงป้อม” ออกมา 4-5 คลิป มีทั้งเรื่องที่ว่า... เป็นรองนายกฯมานาน จะขอเป็นเบอร์ 1 ของประเทศบ้าง เรื่องเงินๆ ทองๆ และการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ
ว่ากันว่า เป็นการเอาคืนแบบหวังผลถึง “ปิดสวิตช์ลุงป้อม” ที่พยายามเล่นงานสองพ่อลูกชินวัตร และคาดหมายกันว่า คลิปลับจะยังไม่หมดแค่นี้ ที่เหลืออาจจะ “โหด” กว่านี้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม ระดับ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” อย่างลุงป้อม ถ้าจะต้องปิดฉากชีวิติการเมืองแล้ว คงไม่ยอมปิดฉากในลักษณะถูกหยามศักดิ์ศรี ให้มีคำถามค้างคาใจอย่างนี้
เพื่อรักษาศักดิ์ศรี แบบ “ชาติเสือต้องไว้ลาย” ให้จับตาดูว่าหลังจากนี้จะมีคลิปตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หรือ คลิปชั้น 14 ของนักโทษเทวดา ออกมาตอบโต้ตามที่เคยแย้มๆ เป็นหนังตัวอย่างหรือไม่
++ "จิรายุ"แบเบอร์ โทรโข่งรัฐบาล แม้ "โทนี่" ดันตบรางวัล "เจ๊เพ็ญ" แต่กลัวเสียวได้ไม่คุ้มเสีย!
พลิกไปพลิกมาแต่ท้ายที่สุดแล้วน่าจะเป็น "จิรายุ ห่วงทรัพย์" อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ที่จะถูกเสนอชื่อแต่งตั้งให้เป็น “โฆษกรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง1”
ฟังว่าเดิมที "จิรายุ" ก็อยู่ในลิสต์ของพรรคเพื่อไทยมาแต่แรก ด้วยคุณสมบัติและฝีปาก ที่จัดเป็นหนึ่งใน "ตัวตึง" ของสภาฯ แต่ "โทนี่" ทักษิณ ชินวัตร ที่ชั่วโมงนี้ ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก ในรัฐบาล มีความเอนเอียงอยากจะตบรางวัลแห่งความภักดีให้ "เจ๊เพ็ญ" จักรภพ เพ็ญแข ที่มีดีกรี อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และ อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลทักษิณ เอง
ว่ากันว่า จุดเปลี่ยนที่ยูเทิร์นกลับมาเป็น “จิรายุ” ไม่ใช่ "เจ๊เพ็ญ" นั้นมีเบื้องหลังระดับคนตัดสินใจถกเถียงกันหนัก เพราะเกรง "เงื่อนไขบางประการ" ของ "เจ๊เพ็ญ" หากเสนอแต่งตั้งอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย
ขณะที่เจ้าตัว ก็รับสภาพดันไม่ไหวโดย “จักรภพ” ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ว่า “ตกลงโฆษกรัฐบาลไม่ใช่ จักรภพ เพ็ญแข นะครับ ไม่ได้ติดเงื่อนไขอะไรตามข่าว แต่ว่ากันตามยุทธศาสตร์ใหม่ ที่เพิ่งคุยกัน กองเชียร์ผู้น่ารักทั่วประเทศขอให้สบายใจว่า ผมเคลียร์คดีหมดแล้ว จึงขอแนบหนังสือจากสำนักงานอัยการสูงสุด 2 ฉบับ ที่สั่งไม่ฟ้องทั้งสองคดีมาให้อ่านกันเล่น ยังเต็มที่ครับ”
เมื่อ “จักรภพ” เป็นไม่ได้ ตำแหน่งโทรโข่งของรัฐบาลจึงตกมาที่ “จิรายุ” ซึ่งทำหน้าที่โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง ให้กับ “สุทิน คลังแสง” อดีต รมว.กลาโหม มาก่อนหน้านี้ โดยเจ้าตัวได้ยื่นใบลาออกจากกรรมการรัฐวิสาหกิจ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่งตัวเตรียมพร้อมไว้แล้ว
พร้อมๆกันกับมีข่าวว่า "แพทองธาร ชินวัตร" นายกรัฐมนตรี ได้เรียก “จิรายุ” เข้าพบ โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชม. ซึ่งคาดว่าน่าจะพูดคุยถึงตำแหน่งโฆษกฯ เพราะเป็นตำแหน่งที่ต้องทำงานใกล้ชิดกับนายกฯ นั่นเอง
สำหรับการแต่งตั้งตำแหน่งโฆษกรัฐบาล จะมีการนำรายชื่อเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกอย่างเป็นทางการ ในวันอังคารที่ 17 ก.ย.นี้
ส่วนรองโฆษกรัฐบาล ในสัดส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล คาดกันว่าพรรคภูมิใจไทย จะเสนอชื่อ "คารม พลพรกลาง" ทำหน้าที่เหมือนเดิม ส่วนโควตาพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่อีกหนึ่งตำแหน่ง น่าจะเป็นโควตาของ “กลุ่มผู้กอง" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
