“ธนกร” ลุยฟังเสียงชาวปักษ์ใต้ ปลื้มเยาวชนหาดใหญ่ มองการเมืองเห็นต่างได้ แต่ไม่แตกแยก หนุนยึดมั่นชาติ-สถาบันฯ ร่วมพัฒนาประเทศ ลั่นรักษามารยาทพรรคร่วม แต่ละเว้นปัญหาปชช.ไม่ได้ ขอพูดตรง หวัง สะกิดรัฐบาล เร่งแก้ความเดือดร้อนชาวบ้านด่วน
เมื่อวันที่ 15 ก.ย.67 ที่ จ.สงขลา นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎรเป็นประธาน พิธีเปิดการสัมมนา เรื่อง "การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์" กล่าวว่า กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติ ตามรัฐธรรมนูญให้มีหน้าที่และอำนาจ
พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องที่เกี่ยวกับการพัฒนาการเมือง ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชน การส่งเสริมและเผยแพร่การเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้เยาวชนและประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง แนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการรณรงค์หาเสียงในอนาคต ซึ่งจะส่งผลให้ภาคประชาชนตื่นตัวติดตามสถานการณ์ทางการเมือง มีส่วนร่วมในการตัดสินใจทางการเมือง และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐทุกระดับ
ทั้งนี้นายธนกร ระบุว่า ช่วงวันเสาร์ ที่14 กย.ก็ได้พบปะพูดคุยกับเยาวชน คนรุ่นใหม่ สภานักเรียนจังหวัดสงขลา ได้แสดงความคิดเห็นถึงการพัฒนาประเทศว่าจำเป็นต้องให้คนทุกรุ่นร่วมมือกัน แม้มีความเห็นที่แตกต่างทางการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องไม่แตกแยก ซึ่งในกลุ่มสภานักเรียนทั้งในจังหวัดสงขลาและ ภาคใต้ ต่างเห็นตรงกันกับแนวทางการเมือง ที่มีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ต้องเอาชาติบ้านเมืองมาก่อน ไม่แตกแยก เมื่อได้ฟังแล้วตนก็รู้สึกดีใจ ที่เยาวชนคนรุ่นใหม่คิดได้แบบนี้ ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักชาติ ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องที่ดีมาก
”บทบาทในสภา ผมก็จะเข้มข้นมากยิ่งขึ้นมีการเสนอแนะรัฐบาล สะท้อนปัญหาจากการลงพื้นที่รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม แม้ว่าเราจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เข้าใจมารยาททางการเมืองดีแต่ปัญหาของพี่น้องประชาชนจะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน ซึ่งผมก็มีหน้าที่ สะท้อนไปยังสภาผู้แทนราษฎร ไปยังรัฐบาล โดยจะลงพื้นที่ไปกับสส.เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ต่างจังหวัดให้มากขึ้น“ นายธนกร กล่าว
นอกจากนี้ ตนพร้อมนายศาสตรา ศรีปาน สส.สงขลา พรรครวมไทยสร้างชาติ และคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ได้ไปรับฟังผู้ประกอบด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ บอกว่า เมืองหาดใหญ่ แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ทะลักเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก ทำให้เศรษฐกิจคึกคักขึ้นมาก แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร อยากให้รัฐบาลเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่างๆ ควรเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67-68 ให้รวดเร็ว เพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมให้เมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาและ 14 จังหวัดภาคใต้เป็นเมืองท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น