อดีตรองโฆษก ปชป. งัดไลน์ กก.บห.ปชป. สวน "ประมวล" มีแผนขับจากพรรคจริง ไม่ได้ป้ายสี ย้ำหากมีใครต้องถูกขับ คนแรกคือ "เฉลิมชัย" เหตุตระบัดสัตย์ ลั่นเดินหน้ารักษาความจริง-อุดมการณ์พรรค
วันนี้ (15ก.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ ข้อความลง Facebook เรื่อง เปิดแชท กก.บห.ปชป. มัดวางแผนขับ "เชาว์" ออกจากพรรค มีเนื้อหาระบุว่าจากกรณีที่ นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ตนออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า มีความพยายามจากผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ให้ขับตัวเองออกจากพรรค ว่า ผู้บริหารพรรคภายใต้การนำของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ไม่มีนโยบายและไม่เคยมีความคิดที่จะขับไล่สมาชิกพรรคที่มีความเห็นต่าง ตรงกันข้ามหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค พร้อมเปิดใจรับฟังทุกเสียงของสมาชิกพรรค เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานและพัฒนาฟื้นฟูพรรคให้กลับมาเติบใหญ่อีกครั้งหนึ่ง และกล่าวอีกว่า สำหรับที่มีการอ้างว่า ส.ส.ในพรรคเป็นผู้นำความไปแจ้งว่า มีการสั่งการให้ดำเนินการขับสมาชิกพรรคคนใดนั้น ขอให้ระบุชื่อออกมาตนจะได้สอบถามความเป็นมา แต่เท่าที่พูดคุยกับ ส.ส.หลายคนก็ไม่เคยได้ยินข่าว อย่างไรก็ตามในวันประชุม ส.ส.ประจำสัปดาห์ วันที่ 17 ก.ย.นี้ ตนจะนำเรื่องไปสอบถาม ส.ส.อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ตนอยากให้สมาชิกพรรคทุกคนมาร่วมกันทำงานสร้างสรรค์พรรคไปด้วยกัน การแสดงความคิดเห็นในเชิงให้ร้ายป้ายสีกับคนในพรรค ก่อให้เกิดความร้าวฉาน แตกแยก ควรยุติได้แล้ว เพราะไม่เกิดผลดีกับพรรคและสมาชิกส่วนใหญ่ที่ตั้งใจทำงานกอบกู้ฟื้นฟูพรรคในวันนี้
นายเชาว์ ระบุว่า ความจริงแล้วไม่อยากตอบโต้อะไรกับนายประมวลแต่ถ้าไม่ชี้แจงก็จะทำให้ตนเสียหาย อาจมีคนเข้าใจผิดหาว่าตนกุเรื่องขึ้นมาใส่ความกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะไม่เป็นธรรมกับตน ขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าสิ่งที่ผมพูดออกไปนั้นเป็นเรื่องจริง และ มิใช่เป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงให้ร้ายป้ายสีกับคนในพรรคก่อเกิดความร้าวฉานแตกแยก เพราะหากเกิดกรณีที่ผู้บริหารพรรคมีความพยายามกำจัดคนเห็นต่างโดยการใช้มติพรรคที่ตนเองกุมเสียงเบ็ดเสร็จ ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรเกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นสถาบันทางการเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยสูง
ตนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์มาหลายสิบปี ในฐานะสมาชิกมีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์การบริหารพรรค เพราะมันเจ็บปวดกับความถดถอยที่เกิดขึ้น แปลกใจว่าทำไมการที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวหัวหน้าพรรค มันถึงขั้นที่จะต้องขับออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งถ้าดูตามข้อบังคับพรรคแล้วไม่เห็นผิดตรงไหน ไม่ได้มีพฤติกรรมที่จะให้ร้ายพรรค แต่มีเจตนาดีที่อยากเห็นทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์มีการพัฒนาก้าวหน้าไม่ใช่อยู่เพื่อหวังร่วมรัฐบาลหรือรวมกันเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม มองคนเห็นต่างเป็นศัตรูไปเสียหมด จึงมีความพยายามในการล่ารายชื่อสมาชิกพรรคเพื่อขับผมออกจากสมาชิกพรรคมาตลอด ไม่ใช่เฉพาะครั้งนี้ เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ผมจึงท้าพิสูจน์ด้วยการเปิดข้อความแซทไลน์ กลุ่ม ผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ชื่อกลุ่ม “กกบห. 9 ธค. 66 “ ช่วงระหว่างวันที่ 7 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2567 มีพยานหลักฐานชัดว่า ผู้บริหารพรรคท่านหนึ่ง เสนอว่า….“ ผมว่าเราต้องนัดประชุม กกบห เพื่อลงมติขับ เชาว์ ออกจากสมาชิกพรรค ปชปโดยด่วนครับ เพราะสร้างความเสียหายให้พรรคมาโดยตลอด” ตามสำเนาภาพถ่ายข้อความ ที่ให้ดูนี้ เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า สิ่งที่นายประมวลออกมาชี้แจงว่าผู้บริหารพรรคภายใต้การนำของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ไม่มีนโยบายและไม่เคยมีความคิดที่จะขับไล่สมาชิกพรรคที่มีความเห็นต่าง จึงเชื่อถือไม่ได้ แม้แต่น้อย ส่วนที่ท่านต้องการให้ผมเปิดชื่อสส. คนที่โทรมาแจ้งข่าวให้ผมทราบ ว่า ผู้บริหารพรรคคนหนึ่งมีความพยายามที่จะขับตนออกจากพรรคนั้น ขอยืนยันว่า เป็นเรื่องจริง แต่ เพื่อมารยาท ผมก็ต้องขอปกปิดชื่อสส. ท่านนี้ไว้ มีให้ท่านต้องเสียหาย
"ผมขอย้ำอีกครั้งว่า หากจะมีใครต้องถูกขับออกจากพรรคจริง ๆ คน ๆ นั้นควรเป็นนายเฉลิมช้ย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ที่ตระบัดสัตย์บอกจะเลิกเล่นการเมือง หันหลังให้การเมือง แต่สิ่งที่ทำคือการหันหลังให้กับอุดมการณ์พรรค รับตำแน่งหัวหน้าพรรค นำพรรคเข้าร่วมรัฐบาล จนผลสำรวจออกมาตบหน้าว่าคนภาคใต้ส่วนใหญ่เขาตัดขาดจากพรรคที่เคยครองใจคนใต้มายาวนานหลายสิบปีแล้ว ส่วนผมพูดจริงทุกคำยึดมั่นตามคำขวัญของพรรค สัจจังเวอมตะวาจา คำจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และจะสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันเพื่อรักษาความจริง และอุดทมการณ์พรรคต่อไป" นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย
