วันนี้(13 ก.ย.)นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ สำนักงานเทศบาลตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยอุทกภัยประกอบด้วยถุงยังชีพจำนวน 500 ชุดรวมถึงสิ่งของช่วยเหลืออื่นๆอาทิน้ำดื่มข้าวสารอาหารแห้งและหญ้าเลี้ยงสัตว์พระราชทานเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ โดย กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำที่ค้างอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและสนับสนุนเครื่องจักร เครื่องมือ รถบรรทุกน้ำ กำจัดดินโคลนและขยะที่ติดค้างตามชุมชนต่าง ๆ ตลอดจนล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน อีกทั้งได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำปิง พร้อมเฝ้าระวังระดับน้ำจากปริมาณฝนที่อาจจะตกลงมาอีกอย่างใกล้ชิด สำหรับสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เขตเทศบาลเมืองเชียงใหม่และพื้นที่เศรษฐกิจ ระดับน้ำในแม่น้ำปิงและลำน้ำสาขาลดลงต่อเนื่อง ขณะที่ อ.แม่อาย และ อ.ฝาง ลำน้ำสาขาระดับน้ำลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้วทั้งหมด โดยปริมาณน้ำดังกล่าวได้ไหลลงสู่แม่น้ำกกและออกสู่แม่น้ำโขงตามลำดับ
จากนั้น รมช.อัครา และคณะเดินทางต่อไปยังวัดพรหมวิหาร 96 หมู่ 10 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและมอบถุงยังชีพจำนวน 1,500 ชุด ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน “ยางิ”ในช่วงวันที่ 9-11 กันยายน 2567 ที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดย โครงการชลประทานเชียงราย กรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำแม่น้ำสายลงสู่คลองระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อระบายลงสู่ลำน้ำมะ ลำน้ำรวก ออกสู่แม่น้ำโขงตามลำดับ รวมถึงนำเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ รถบรรทุกน้ำ เข้าช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เพื่อวางแผนแนวทางในการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป
นอกจากนี้ ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รายงานสถานการณ์ภัยพิบัติด้านการเกษตร (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ก.ย. 67) ว่า ในช่วงวันที่ 13-17 ก.ย. 2567 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวติดตามสถานการณ์และระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มอีกด้วย
