วันนี้(13 ก.ย.)นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชนและ สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวอภิปรายนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162ว่า จากการแถลงนโยบาย เร่งด่วน 10 ประการ ของนายกรัฐมนตรี ทำให้มองเห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจในการแก้ไขปัญหา ของประเทศได้อย่างเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดและ ยั่งยืน ทั้งนี้ ตนผมไม่อยากเห็นนโยบายที่แถลง ในวันนี้เป็นนโยบาย ที่ไม่ตอบโจทย์ในการพัฒนาประเทศ และ ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง เป็นนโยบาย ที่เป็นไม้หลักปักขี้เลน กลัวว่า แถลงนโยบายแล้วทำไม่ได้ โดยเฉพาะนโยบายที่รัฐบาลจะผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้าน และ รถ ช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ โดยตนอยากจะเห็นการแก้ไขปัญหาหนี้สินของครู ข้าราชการอื่น ๆ และประชาชนทั้งประเทศอย่างจริงจัง
นายปรีดา กล่าวต่อว่า ตนได้ศึกษานโยบายข้อ 8 ที่ระบุว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่าย ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านการสกัดกั้น การควบคุมการลักลอบนำเข้า และตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างจริงจังเด็ดขาด การค้นหาผู้เสพติดในชุมชนเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาตลอดจนการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติดการฝึกอาชีพการศึกษา การฟื้นฟูสภาพสังคม รวมทั้งระบบติดตามดูแลช่วยเหลือไม่กลับไปสู่วงจรยาเสพติดอีก เพื่อคืนคนคุณภาพกลับสู่สังคม
“ผมศึกษานโยบายนี้แล้วดีใจ มีความสุขใจที่จะได้เห็นประเทศไทยจะปลอดยาเสพติด ลูกหลานเยาวชนนักเรียนนักศึกษา จะมีชีวิตที่ดีขึ้น มีอนาคตที่สดใสเป็นคนดีของสังคม มีอาชีพที่มั่นคง เพราะในปัจจุบันระบาดทุกย่อมหญ้า มีทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ภูมิภาคและประเทศ เมื่อยาเสพติดมากเข้า จะเกิดอาการประสาทหลอน เป็นปัญหาของสังคม ผู้รับผิดชอบ ตั้งแต่ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล อสม. องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้บริหารระดับสูง ตั้งแต่อำเภอ ถึงระดับประเทศ ก็รู้ข้อมูลดี ชาวบ้านหมดที่พึ่งแล้ว ผมในฐานะผู้แทนราษฎรได้รับฟังชาวบ้านพูดให้ฟังว่าร้านขายยาบ้าที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอคือ โรงพัก คนขายคือตำรวจ เท็จจริงอย่างไร ท่านนายกรัฐมนตรี รีบดำเนินการแก้ไขโดยด่วน จากอดีตที่ผ่านมารัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหายาเสพติด วันนี้รัฐบาลนี้ให้สัญญาประชาคมแล้ว ตนจะติดตามการทำงานของท่านอย่างใกล้ชิด”
นายปรีดา กล่าว
นายปรีดา กล่าวต่อว่า รัฐบาลนี้ไม่มีนโยบายด้านการศึกษา ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาชาติประชากรตั้งแต่แรกเกิดจนถึงตาย ต้องได้รับการศึกษาอย่างดี มีคุณภาพ และเท่าเทียมกันทั้งประเทศ คุณภาพของประชาชนในประเทศ ทั้งหลายก็คงทราบเป็นอย่างดีว่าเป็นอย่างไร ท่านจะปล่อยให้ประเทศล้าหลังหรือท่านต้องการเห็นประชาชนเป็นคนดีมีคุณธรรมหรือไม่พรรคครูไทยเพื่อประชาชน รู้สึกผิดหวังที่ท่านไม่ใส่ใจในการพัฒนาคน ไม่ใส่ใจคุณภาพชีวิตของประชาชนของนักเรียน นักศึกษา วิชาที่ประชาชนต้องการที่สุดที่จะให้บรรจุไว้ในหลักสูตรก็คือ วิชาหน้าที่พลเมือง วิชาศีลธรรม วิชาประวัติศาสตร์
“รัฐควรจะเน้นย้ำเรื่องสุขภาพของนักเรียน คือเรื่องอาหารกลางวัน นมโรงเรียน รัฐควรจะยกเครื่องใหม่ คือ เด็กนักเรียนจะต้องมีอาหารเช้า อาหารกลางวัน และนมโรงเรียน โดยรัฐจัดให้ฟรีตั้งแต่อนุบาลจนถึง ม.6 โดยจัดอาหารเช้า 30 บาทต่อหัว กลางวัน 30 บาทต่อหัว และนมโรงเรียน 10 บาทต่อหัว รวมแล้วต่อคน 70 บาทต่อวัน นักเรียนทุกสังกัดในประเทศ ขณะนี้มีประมาณ 10 ล้านคน เปิดเรียน 200 วัน คูณด้วยเงิน 70 บาทต่อคน คูณด้วย 10 ล้านคน เราจะใช้งบประมาณในการดูแลสุขภาพนักเรียนประมาณ 140,000 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น”นายปรีดา กล่าว
นายปรีดา กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลควรใส่ใจด้านการศึกษาให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะขณะนี้มีการร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ ซึ่งประชาชนและครูก็รออยู่ว่าพระราชบัญญัติฉบับนี้จะดำเนินการแก้ไขอย่างไรซึ่งควรที่จะนำเสนอเข้ารัฐสภาได้พิจารณาแก้ไขและโดยด่วน