"เซีย" จวกรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ไร้นโยบายแรงงาน ทวงสโลแกนรดน้ำที่ราก แต่ 1 ปีที่ผ่านมาไม่รู้แกล้งลืมหรือเกรงใจนายทุนเจ้าสัว บอกจะสร้างงานเสริม แต่โรงงานปิดไปแล้วพันกว่าแห่ง เลิกจ้าง4หมื่นราย ทวงค่าแรงขั้นต่ำ 400 จะได้ชาติไหน
วันนี้(13 ก.ย.) ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระการแถลงนดยบายรัฐบาล นายเซีย จำปาทอง ส.สพรรคประชาชน อภิปรายถึงนโยบายของรัฐบาลว่าไม่มีเรื่องแรงงาน ใน 10 นโยบายเร่งด่วน แต่ตอนที่หาเสียงนโยบายแรงงานเป็นนโยบายเรือธง ตนขอเตือนความทรงจำ และตรวจสอบนโยบายขายฝันที่ พรรคเพื่อไทยเคยให้คำมั่นสัญญากับประชาชนเอาไว้ พร้อมยกสโลแกนที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้คือ“รดน้ำที่ราก ”เคยเสนอ เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทเงินเดือนปริญญาตรีขั้นต่ำ 25,000 บาท 1 ครอบครัว 1 ซอฟเพาเวอร์ สร้างงานใหม่กว่า 20 ล้านตำแหน่ง ส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิแรงงาน เป็นต้น ยังจำได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงเทคนิคที่มาหลอกให้ผู้ใช้แรงงานลงคะแนนให้เท่านั้น
“นอกจากเงินดิจิตอล 10,000 บาทแล้วยังไม่เห็นรัฐบาลทำอะไรที่ ได้ทำตามสัญญาให้กับชาวแรงงานเลย ไม่รู้ว่าลืม แกล้งลืม หรือเกรงใจกลุ่มนายทุนเจ้าสัว และสาเหตุที่ไม่เลือกกระทรวงแรงงานไว้ในกับกำกับดูแลของพรรคเพื่อไทย เพราะไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ได้ใชหรือไม่ หรือคนมีอำนาจ ยิ่งใหญ่จากสวรรค์ชั้นไหนมาสั่ง หน้าตาคณะรัฐมนตรี ถึงออกมาเป็นเช่นนี้ แบบนี้มีแต่เจ็บ เจ๊า และเจ๊ง แต่สิ่งที่น่าเจ็บปวดคือเราได้รัฐมนตรีคนเดิมที่มาจากพรรคการเมืองที่ไม่มีนโยบายแรงงาน แม้แต่นโยบายเดียว 1 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้กับพี่น้องแรงงาน”
นายเซีย ได้เปิดข้อมูลโรงงานปิดตัวไป 1,519 แห่ง และถูกเลิกจ้าง จากการปิดโรงงานไปทั้งสิ้น 41,103 คน นี่ไม่ใช่การบริหารงานที่ควรเป็น รัฐบาลแบบไหนที่หาเสียงว่าจะสร้างงานเพิ่มขึ้น แต่บริหารงานจนมีโรงงานปิดตัวมากมาย มีแรงงานที่ถูกเลิกจ้างมากขึ้นและถูกเอารัดเอาเปรียบ ถูกลอยแพ ไม่จ่ายเงินค่าชดเชย เจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่คุ้มครองสิทธิ์ของแรงงาน ทำเหมือนสมรู้ร่วมคิดเอาเปรียบลูกจ้าง
ดังนั้น จึงอยากถามนายกรัฐมนตรีว่าเรื่องค่าแรงขั้นต่ำตกลงจะเอาอย่างไร เพราะนอกจากไม่มีในคำแถลงนโยบายแล้ว ซึ่งในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ได้มีการชี้แจงว่าจะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทโดยเร็วที่สุด แต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจึงไม่แน่ใจว่าโดยเร็วนี่เมื่อไหร่ ชาตินี้หรือชาติหน้า หรือชาติไหน ต่อมามีการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทแต่ปรับเฉพาะบางจังหวัด เฉพาะโรงแรม 4 ดาวและมีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไป และ ล่าสุดรัฐมนตรีได้ออกมาบอกว่าจะปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทแค่บางกลุ่มอาชีพ บางไซส์ของสถานประกอบการ แต่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะปรับเป็นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ บริหารแบบนี้บอกได้เลยว่า 3 ปีไม่มีเจ๊ามีแต่เจ๊งกับเจ๊ง
"ทุกครั้งที่มีการปรับค่าจ้าง หากมีเสียงวิจารณ์รัฐบาลในทางลบ ก็จะอ้างว่าเป็นมติที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง แต่พอปรับขึ้น กับเคลมว่าเป็นผลงานของตนเอง ตกลงเป็นอย่างไรกันแน่เป็นอำนาจหน้าที่ของท่าน หรือเป็นอำนาจของคณะกรรมการไตรภาคี หากเป็นอำนาจของคณะกรรมการไตรภาคี คือจริงท่านอย่าได้เสนอหน้าให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ก่อน ที่จะมีการประชุมและได้ข้อสรุปร่วมกัน ถ้า พวกท่านไม่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ได้ ควรพิจารณาตนเองด้วย ก่อนที่ประเทศจะเจ๊งไปมากกว่านี้ ค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาทจะขึ้นได้ไหม ขึ้นได้กี่โมง ค่าครองชีพขึ้นไปไกลแล้ว 1 ปีที่ผ่านมาศูนย์เปล่าไปกับคำพูดขายฝัน ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข หนำซ้ำยังปล่อยให้ปัญหาใหม่เกิดขึ้นอีกต่อเนื่องและอีก 3 ปีที่เหลือ เราจะหวังอะไรจากรัฐบาล
ส่วนเรื่องกฎหมายลาคลอดตอนนี้อยู่ในชั้นกรรมาธิการ ถ้ารัฐบาลให้ความสำคัญจริงๆ ก็ขอให้บอกลูกค้าของพรรคฝั่งรัฐบาลผ่านร่างกฎหมายด้วย ดังนั้นหวังว่านายกรัฐมนตรีจะให้คำตอบที่ชัดเจน พี่น้อง แรงงานจะได้รู้ว่าจริงใจ กับแรงงานอย่างที่เคยสัญญาไว้ ไม่เช่นนั้นอาจจะถูก พี่น้องแรงงานสาปแช่ง และเป็นตราบาปติดตัวไปตลอด หลอกลวงให้พี่น้องแรงงานลงคะแนนให้ แต่กลับไม่สนใจเมื่อมีอำนาจ หากไม่ทำตามที่สัญญาไว้พี่น้องแรงงานจะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ได้อย่างไร