”ภูมิธรรม“ โต้วาทกรรม 3 นายของฝ่ายค้าน อย่าใช้คำเสียดสีด้อยค่า ให้เกิดความเข้าใจผิด แต่ควรทำงานอย่างสร้างสรรค์ บอก ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต-ยาเสพติด เป็นเรื่องสำคัญขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละครอบครัว
วันนี้(13 ก.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวานนี้ (12 ก.ย.) ว่าประชาชนสะท้อนต้องการให้แก้ปัญหายาเสพติด ก่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ในส่วนของกระทรวงกลาโหม ทหารก็ดำเนินการอยู่แล้ว และในวันจันทร์ที่ 16 ก.ย. ที่ตนจะเข้าทำงานที่กระทรวงกลาโหมเป็นวันแรก ในเวลา 10.00 น. จะมีการหารือกันเพื่อเดินหน้าอย่างเต็มที่ แต่ในส่วนของดิจิทัลวอลเล็ต เชื่อว่าประชาชนยังคงมีความปรารถนา เพราะเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับปากท้องประชาชน ซึ่งทั้งสองส่วนมีความสำคัญ ส่วนจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละครอบครัว ส่วนใครที่ไม่มีปัญหายาเสพติดอาจจะสนใจดิจิทัลวอลเล็ต ย้ำทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องสำคัญแล้วแต่สภาพแวดล้อม รัฐบาลก็ต้องดำเนินการ ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตเฟสสอง สำหรับคนทั่วไป ยังไม่อยากให้มองไปไกลขนาดนั้น อยากให้ติดตามดิจิทัลวอลเล็ตในเฟสหนึ่งก่อน เพื่อติดตามปัญหาข้อบกพร่อง ยืนยันพยายามทำทุกอย่างให้ครบวงจร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เฟสสองจะได้ภายในสิ้นปีนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าขอให้ติดตามการดำเนินงานจากโครงการในเฟสหนึ่งก่อน หลังเสร็จแล้วก็จะดำเนินการเฟสสองอย่างต่อเนื่องโดยเร็วที่สุด เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านอภิปรายในสภาว่านโยบายของรัฐบาลเอื้อ 3 นาย(นายใหญ่-นายทุน-นายหน้า) นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงแล้วอย่างมีเหตุมีผล และสิ่งที่นายกฯ เรียกร้องคือคนรุ่นใหม่ทำตัวเป็นแบบอย่าง ไม่ใช้วาทกรรมเสียดสีด้อยค่า ดังนั้นคนรุ่นใหม่อยากสร้างการเมืองแบบใหม่ ควรหลีกหนีวาทกรรมเหล่านี้ วันนี้ประเทศวิกฤตมีมากทั้งอุทกภัยและชีวิตความเป็นอยู่ อยากให้มีการเสนอแนะการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังจริงใจ ไม่ควรใช้สำนวนเยาะเย้ยถากถาง แล้วตัดทอนนำเสนอผ่านโซเชียลมีเดียจนเกิดปัญหาความเข้าใจผิด เหมือนที่เกิดขึ้น จึงอยากขอร้องคนรุ่นใหม่ช่วยสร้างสิ่งที่ดีสำหรับคนรุ่นต่อไปดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่การฟ้องร้องนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม มองว่า หากเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องให้กระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ ถ้ามัวแต่ไปให้ความสนใจและหยิบไปขยายความก็จะไปเข้าทางของผู้ที่ปล่อยออกมา พร้อมย้ำพรรคเพื่อไทยก็มี 10 ล้านเสียง เป็นเสียงของประชาชนเช่นกัน ฝ่ายค้านอย่าใช้เสียงที่ได้ กว่า 10 ล้าน มาด้อยค่าคนอื่น เพราะทุกสิ่งมีคุณค่า ต้องเคารพและยอมรับในความแตกต่าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ขอให้พิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำ ดีกว่าพิสูจน์ตัวเองด้วยสำนวนโวหาร
เมื่อถามว่า ข้อกล่าวหาเรื่องการเป็นนายกฯ ตัวจริงที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้งนายภูมิธรรม กล่าวว่า ใครพูดได้ก็พูด ประชาชนจะตัดสินเองว่าใครหมกมุ่น ไม่สามารถก้าวข้ามได้ในบางเรื่อง
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะอยู่ครบเทอมซึ่งเหลือเวลาอีก 3 ปีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยืนยันว่ามีความมั่นใจ แต่ตนคิดว่าสื่อไม่ควรถาม แต่ควรจะถามถึงสิ่งที่จะทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆนั้นคืออะไร และสื่อมวลชนสามารถเสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์
ส่วนบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีเรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ยังต้องหารือพูดคุย และรับฟังคำแนะนำกัน