xs
xsm
sm
md
lg

พปชร.ซัดกันเอง “ชัยมงคล” อัดรัฐบาลตระบัดสัตย์ หุงข้าวด้วยกันแต่กินคนเดียว “อรรถกร” ลุกประท้วง ชี้เสียดสี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พปชร.ซัดกันเอง “ชัยมงคล” อัดนโยบายรัฐบาลเปรียบ ครม. เหมือน “เหล้าเก่าในขวดใหม่” เขียนฉลากเพิ่มเติม ซัดภาพจำรัฐบาลตระบัดสัตย์ หุงข้าวด้วยกัน แต่กินคนเดียว พรรคที่โหวตให้ 39 เสียง ถูกผลักเป็นฝ่ายค้าน เชิญพรรคงดออกเสียงร่วมรัฐบาล จวกชนชั้นนำเปิดบ่อนเพื่อชนชั้นนำ ให้คนไทยทำงานแจกไพ่-รับแขก ไม่อยากเห็นรบ.ชนชั้นสูง ด้าน “อรรถกร” ลุกประท้วงเสียดสี เย้ยหากเป็น 2 เดือนที่แล้ว คงเห็นด้วยกับนโยบายฉบับนี้


วันนี้ (12 ก.ย.) ในการประชุมรัฐสภา ในวาระการแถลงนโยบายรัฐบาล นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นอภิปรายนโยบายของคณะรัฐมนตรี ว่า ประโยคที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และประโยคที่บอกว่า “คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี ความหวังของคนไทยเริ่มเรืองรอง” แต่เมื่อเห็นรายชื่อคณะรัฐมนตรี ทำให้ความหวังเหล่านั้นเริ่มลางเลือน เพราะประกอบไปด้วยคนเก่า 70-80% เพิ่มเติมคนใหม่มาบ้าง เปรียบเสมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ เขียนฉลากเพิ่มเติม มีทั้งพ่อแทนลูก หรือลูกแทนพ่อ น้องแทนพี่ ซึ่งคนที่เข้ามาแทนกันไม่ใช่ว่าไม่ใช่คนไม่ดี เขาอาจเป็นคนดี แต่จะสามารถบริหารราชการแผ่นดิน ที่มีเดิมพันด้วยประชาชนคนไทย 70 กว่าล้านคน ได้หรือไม่

องค์ประกอบคณะรัฐมนตรีชุดนี้ มาจากหลายสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ที่มาจากผลพวงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่มีจุดยืนว่า อำนาจรัฐต้องมาจากปลายกระบอกปืน มาจากรัฐมนตรีอาชีพ ที่เลือกจะเป็นรัฐมนตรีมา 17-18 สมัย ส่วนคนใหม่นั้น ก็สืบทอดโดยสายเลือด สื่อมวลชนจึงขนานนามคณะรัฐมนตรีชุดนี้ว่า ญาติกาบ้าง ผู้สืบสันดานบ้าง ทำให้เห็นทางของนโยบายรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งไม่ได้เห็นว่าจะสามารถหวังผลประการใด และหากได้ทำตามที่อ่านคำการแถลงนโยบายในรัฐสภาแห่งนี้ ประเทศชาติจะเจริญรุ่งเรืองในวันพรุ่งนี้เลย แต่ตนไม่แปลกใจเพราะนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ไม่ต่างจากชุดที่แล้ว และมีต้นทางมาจากพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน เช่น เรื่องยาเสพติดก็เขียนเหมือนกันว่าจะต้องจัดการ รวมถึงพูดคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการยึดทรัพย์บำบัดผู้เสพ ซึ่งผลดำเนินการของรัฐบาลชุดที่แล้ว ไตรมาสที่สอง มีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเพิ่มขึ้น 29.9% ซึ่งหมายความว่าเป็นการบริหารงานรัฐที่ล้มเหลวในการปราบปรามยาเสพติด

นอกจากนี้ นโยบายเรือธงและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่บอกจะสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น คนไทยจะมีรายได้เพิ่มสามารถเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีการจ้างงานซึ่งคนไทยจะไปเป็นคนแจกไพ่ เป็นแรงงาน เป็นคนต้อนรับ แต่คนรวยมีไม่เกิน 10 ตระกูล แต่คนจนจะมีนับ 10 ล้านคน ซึ่งนโยบายเช่นนี้เปรียบเสมือนทำให้เห็นว่าเป็นนโยบายจากกลุ่มชนชั้นนำ เพื่อชนชั้นนำและเพื่อทุนขนาดใหญ่ ดังนั้น จึงไร้ความหวังจากพฤติกรรมที่ทำ แต่หากอ่านตามนโยบายที่เขียนไว้ตนขอชื่นชม


ขณะที่เรื่องของพลังงานที่ต้องการให้ลดราคาทั้งค่าไฟค่าน้ำ ฝากถึงนายกรัฐมนตรี ว่า กรุณาดูเอ็มโอยู ปี 44 ซึ่งบอกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับประเทศเพื่อนบ้าน และข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์และหลักฐานต่างๆ ได้บ่งชี้ว่าไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน แต่เป็นแผ่นดินไทย ซึ่งเราไปทำเอ็มโอยูและสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน และดินแดนที่จะเสียเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ มีปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งใครไปเซ็นกับใครไว้ตามไปแก้ไขไปยกเลิกด้วย ทั้งนี้ ขอให้จำคำพูดของตนไว้ให้ดีในแผ่นดินรัชกาลนี้ คนไทยจะไม่ยอมเสียดินแดน ไม่ว่าจะทางพื้นดิน หรือพื้นน้ำแ ม้แต่ตารางนิ้วเดียว หากทำให้เสียดินแดนเขาจะตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติคนทรยศต่อแผ่นดิน

“นโยบายเรือธงที่พูดกันมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วการแจกเงิน 10,000 บาท จะเป็นเงินสดหรือไม่ แต่มีการวางแผนไว้ดีอย่างไร เพื่อที่จะไม่ไปส่งเสริมสินค้าจากต่างชาติที่มีราคาถูกที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทย จนกระทั่งทำลาย sme ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยเจ๊งระเนระนาด เรื่องเหล่านี้ไม่ได้ทำโดยการอ่านตามตัวอักษร แต่อยากเห็นการกระทำที่เป็นจริง เมื่อมองที่ของรัฐบาลวันนี้ ภาพที่ประชาชนรับรู้ คือ “การตระบัดสัตย์” มีที่ไหนพรรคที่ยกมือให้ 39 เสียง ให้ไปเป็นฝ่ายค้านเปรียบเสมือนไปหุงข้าวด้วยกัน แต่เมื่อเวลาข้าวสุก ข้าพเจ้าขอกินคนเดียว แต่พรรคที่งดออกเสียงเชิญมาเป็นรัฐบาล” นายชัยมงคล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายชัยมงคล อภิปราย นายอรรถกร ศิริลัทยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็น สส. ฝั่งร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส. พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วง ว่า ขอประท้วงผู้อภิปราย ในข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อที่ 45 ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อนสมาชิกผิดข้อบังคับตั้งแต่การเสียดสีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งตนแปลกใจเพราะหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน คงเห็นด้วยกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งเป็นของรัฐบาล แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรในวันนี้ กลับเปลี่ยนใจจึงฝากให้ประธานในที่ประชุมกำชับให้สมาชิกปฏิบัติการข้อบังคับอย่างเคร่งครัดด้วย

จากนั้น นายชัยมงคล ได้กล่าวอภิปรายเพิ่มเติมว่า ตนทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล นักการเมืองไม่สนใจว่าเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ขอแต่ทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างน้อยข้อเสนอแนะแนวทางที่ตนพูดไปเป็นประโยชน์เพื่อประชาชนไม่ใช่เป็นประโยชน์ส่วนตัว

”ผมไม่อยากเห็นรัฐบาลชุดนี้ เป็นรัฐบาลที่มาจากชนชั้นสูงเพื่อคนชั้นสูง และอาศัยมือของประชาชนในคาบประชาธิปไตย แล้วอ้างประชาชนมากอบโกยผลประโยชน์อย่างตะกละตะกลาม และมูมมาม”

ขณะที่ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงนายชัยมงคล โดยขอให้ได้ถอนคำพูดเรื่อง “การกอบโกย ชนชั้นสูง” เพราะมีการพูดเสียดสี ถือผิดข้อบังคับข้อที่สี่ 45

ด้าน นายมงคล สุระสัจจะ ประธานในที่ประชุมได้สอบถามนายชัยมงคล ว่า จะถอนคำพูดหรือไม่ โดย นายชัยมงคล ได้ตอบกลับว่า หากท่านประธานต้องการให้ถอนตนก็จะถอน เพื่อความสบายใจของเพื่อนสมาชิกในที่นี้


กำลังโหลดความคิดเห็น