ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ คลิป "ลุงหยุม" ฝีมือAI! หรือมือดีปล่อย? "หมาแก่" โดดงับไม่นำสืบ หรือจะเสียหมาอีกแว้วว!
เป็นเรื่องขึ้นมาพลันเมื่อ "หมาแก่" ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ นำคลิปเสียงซึ่งคล้ายคลึงกับเสียงสนทนาของ "ลุงหยุม" หรือ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับคณะบุคคล และบุคคล ต่างกรรมต่างวาระ ทั้งการประกาศขอเป็น "เบอร์1" เก้าอี้นายกฯ ที่หมายปอง ระเบิดอารมณ์เหวี่ยงเรื่องเงินๆ ทองๆ สนทนาประสามินิฮาร์ต กับคนใกล้ชิด ไปจนถึงเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย มาเปิดในรายการ
ได้ชื่อว่า "คลิปหลุด" ไม่ว่าเรื่องอะไร เปิดเมื่อไหร่ ย่อมเป็น “ไวรัล” ว่อนเน็ตเมื่อนั้น โดยคนก็ลืมคิดไปว่า เจตนาที่นำคลิปมาเปิดในรายการไม่รู้ "หมาแก่" คืออัลไร ?
แน่นอนว่า สิ่งที่ตามมา เกิดเป็นประเด็นให้คอการเมืองมีเรื่องให้เร้าใจให้ติดตาม เรตติ้งรายการกระฉูด แต่ “หมาแก่”ได้กลั่นกรองตรวจสอบคลิปมาดีหรือยัง ? นั่นเป็นคำถาม
เพราะ ถ้าเป็นตามยุคสมัยที่ใช้ AI กันได้ แม้แต่แก๊งคอลเซนเตอร์ ยังใช้ AI ปลอมเสียงมาหลอกเหยื่อได้
หรือใน Tiktok เราได้เห็นคลิป “ลุงป้อม” ร้องเพลงข้ามกำแพง กับ “ลุงโทนี่” ทักษิณ ชินวัตร AI ก็จัดให้อย่างเนียนกริบ!
งานนี้หากนำสืบออกมาปรากฏ "ไม่ใช่" นี่หมาแก่ ได้เสียหมาอีกแน่
มาลองย้อนไปฟังชัดๆ 3 คลิปเสียง ‘ลุง’ จากรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ของ "หมาแก่" ที่ถอดความมาให้แล้ว
คลิปที่1 อ้างว่า มาจากการตั้งวงสนทนาของผู้ชาย รวม 4 คน โดย 1 ใน 4 บอกกับคนที่เหลือว่า “ผมเป็นรอง ทำงานให้กับท่านนายกฯมานาน ทำสำเร็จหลายเรื่อง ต่อไปนี้ผมอยากจะขอให้ประชาชนให้ผมได้ลองนั่งเบอร์ 1 ดูบ้างนะ ผมจะขอ”
จากนั้นเป็น คลิปที่ 2 ซึ่งมาจากการสนทนาของผู้ชาย 2 คน คล้าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และ “โอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ที่ลุงระเบิดอารมณ์เหวี่ยงใส่อีกฝ่าย
ดังตัวอย่างบางตอน ..ลุงโวย “จะให้กูออกจากหัวหน้าพรรคเหรอ...ไม่มีออกเลยนะ มึงจำไว้”
อีกฝ่าย “ผมไม่ได้พูดครับนาย ผมไม่ได้พูด”
ลุงทวงตังค์ “แล้วแบ่งเงิน แบ่งทองกันยังไง”... “ผมไม่ทราบครับนาย”
“อ้าว แล้วมึงรับเงินมาแล้วไม่จ่ายไง” “ครับ” “ห้ะ...บอกว่า แล้วเงินจ่ายที่ไหน บอกว่าเอามาให้กูจ่ายไง ห้ะ แล้วไง”
คลิปต่อมาสั้นๆ เป็นเสียงสนทนาระหว่างลุง กับ "มาดาม" คนใกล้ชิดด้วยสำเนียงภาษาบ่งบอกความสัมพันธ์แบบ มินิฮาร์ต
สำหรับอีกคลิป เป็นเสียงสนทนาของผู้ชาย 2 คน คล้ายเป็นการรายงานให้อีกฝ่ายทราบ เรื่องการจัดทัพของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งคลิปนี้ “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกมายอมรับว่า เป็นเสียงของตัวเอง สมัย พล.อ.ประวิตร กำกับดูแลฝ่ายความมั่นคง และดูแลกระทรวงมหาดไทย
คลิปทั้งหมดต้องใช้วิจารณาณในการรับชม และ แยกแยะวิเคราะห์ ซึ่งต้องบอกว่า ขมวดปมขย่ม "ลุงป้อม" ล้วนๆ
ร้อนถึง “พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย” โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ต้องเคลื่อนไหว ว่า เรื่องนี้ได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค และ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคแล้ว ลุงยืนยันว่า "ไม่ใช่เสียง" พูดคุยของตัวเอง เพราะไม่ได้เคยมีการพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวตามที่คลิปเผยแพร่ออกมา
ดังนั้นเชื่อมั่นว่า เป็นคลิปเสียงปลอม ที่ทำขึ้นจากเทคโนโลยี AI
การนำคลิปเสียงออกมาสู่สาธารณะครั้งนี้ "หมาแก่" ควรมีการตรวจสอบก่อนเผยแพร่ และวอนให้สื่ออย่าตกเป็นเครื่องมือคนที่ไร้จริยธรรม สร้างเรื่องมาเพื่อ "ดิสเครดิต" ทำลายความเชื่อมั่นพรรคพลังประชารัฐ เป็นการใช้วิธีชั่วร้าย มาทำลายกัน
สรุปว่างานนี้จริงหรือเท็จ คงต้องรอการพิสูจน์ ไม่ใครก็ใคร จะได้เสียหมากันแน่ พ่วงด้วยคดี นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เป็นของแถม
แว่วว่า "เด็จพี่" พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ทราบเรื่องราวของคลิปจะขอโดดแจมไปด้วย วันนี้(12 ก.ย.) จะไปยื่น ป.ป.ช.เอาผิดทางกฎหมายและจริยธรรมต่อ ‘พล.อ.ประวิตร’ และตามด้วย การยื่นสอบเส้นทางการเงินลุง ในวันจันทร์หน้า เป็นสถานีต่อไป
บันเทิงละงานนี้
++ “นายกเบี้ยว” บ้านใหญ่ธัญบุรี โดนกกต.ฟันอาญา 2 ข้อหา ส่อหมดอนาคตการเมือง
ถึงมาช้า แต่ก็มาจนได้ อาฟเตอร์ช็อก หลังการเลือกตั้งนายกอบจ. ปทุมธานี ที่แสนจะวุ่นวาย
การเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.67 อันเนื่องจาก “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.ปทุมธานี ลาออกจากตำแหน่ง ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่
“บิ๊กแจ๊ส” ที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ถึงขั้นติดรูปคู่ ขึ้นป้ายในห้องทำงานว่า “มีวันนี้ เพราะพี่ให้” แต่สุดท้ายก็มาแตกคอ จึงต้องลงสมัครในนามอิสระ ขณะที่พรรคเพื่อไทย โดดไปให้การสนับสนุน “ลุงชาญ” ชาญ พวงเพ็ชร์ อดีตนายกอบจ. บ้านใหญ่ เครือข่ายเยอะ
วันนับคะแนนเลือกตั้ง ลุ้นกันใจหายใจคว่ำ ชนิดที่ “สองพ่อลูกอยู่บำรุง” ยังโดนหางเลขไปด้วย ... สุดท้าย “ชาญ พวงเพ็ชร์” ได้ 203,032 คะแนน เฉือนชนะ “บิ๊กแจ๊ส” ที่ได้ 201,212 คะแนน
กกต.ได้แต่ประกาศคะแนน... ผ่านไป 2-3 สัปดาห์แล้วก็ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง
ระหว่างนั้นก็มีการวิจารณ์กันให้แซด ว่า “ชาญ พวงเพ็ชร” ชนะ แต่จะได้บริหารหรือเปล่า เพราะมีคดีเกี่ยวกับถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชน เมื่อคราวน้ำท่วมใหญ่ ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 54 ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ส่งศาลฯประทับรับฟ้อง ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
แต่แล้วเมื่อวันที่ 27 ส.ค. 67 กกต.มีมติเอกฉันท์ สั่งให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ใหม่ โดยให้ “ใบเหลือง” แก่ “ชาญ พวงเพ็ชร์” จากกรณีมีเรื่องร้องเรียนว่ามีการจัดเลี้ยง และมหรสพ เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้ตัวเอง เป็นเหตุอันควรเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ครั้งนี้มิได้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม
ความจริง “ลุงชาญ”ไม่ได้จัดงานเลี้ยง หรือจัดมหรสพ แต่คนที่จัดคือ “นายกเบี้ยว” กฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่จัดงานฉลองอุปสมบทให้กับ“สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์” ลูกชาย จ้าง "ลําไย ไหทองคำ" มาเด้งคอนเสิร์ต วันนั้น “ทักษิณ ชินวัตร” ก็ควง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปร่วมงาน มีการพบปะพูดคุยกับผู้ที่มาร่วมงาน รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย
แม้ “ลุงชาญ”จะไม่ได้ไปร่วมงานนี้ แต่คนในพื้นที่ก็รู้กันดีว่า “นายกเบี้ยว” และทีมของนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี เป็นทีมเดียวกับ “ลุงชาญ” การจัดเลี้ยง จัดมหรสพ แถมยังมี ทักษิณ และอุ๊งอิ๊ง ไปพบปะพูดคุยกับผู้ที่มาร่วมงาน จึงถือว่าเป็นการกระตุ้นคะแนนนิยมให้กับ“ลุงชาญ” และเป็นน้ำหนักที่ทำให้ กกต.เห็นว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีส่วนทำให้การเลือกตั้ง เป็นไปโดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม จึงแจก “ใบเหลือง” ลุงชาญ
ช่วงนั้นก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว “นายกเบี้ยว” คนจัดงาน ยังลอยนวล ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยหรือ
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) สำนักงาน กกต. ได้มีหนังสือลงวันที่ 9 ก.ย.67 ส่งไปถึงสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดปทุมธานี แจ้งให้ดำเนินคดีอาญา แก่ "นายกเบี้ยว" กฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี 2 ข้อหา
คือ ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงต่างๆ และ จัดเลี้ยง หรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด ตามมาตรา 65 (3) และ (4) พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ซึ่งมีผลทำให้การเลือกตั้งนายกอบจ.ปทุมธานี ที่ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ได้รับเลือกตั้งมา ไม่สุจริตและเที่ยงธรรม
สำหรับ 2 ข้อหาดังกล่าว จะมีโทษตาม มาตรา 126 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น มีกำหนด 20 ปี
งานนี้ถ้า “นายกเบี้ยว” ดินไม่หลุด ก็หมดอนาคตการเมือง หรืออย่างเก่งก็เป็นได้แค่คนเชิดหุ่นอยู่หลังฉาก อย่างที่กำลังฮิตกันอยู่