“หมอวรงค์” เตือน “ธรรมนัส” ใจเย็น ปมวิจารณ์ลงพื้นที่น้ำท่วมหลังพ้นตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ แล้ว ยัน กม.ชี้ ครม.รักษาการต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีหลัง ครม.ใหม่ถวายสัตย์ฯ เผยที่ปรึกษา “ธรรมนัส” แค่ลงบันทึกประจำวัน ไม่ได้แจ้งความหมิ่นประมาทตามที่ปั่นกระแส
วันนี้ (11 ก.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งความดำเนินคดี นพ.วรงค์ ฐานหมิ่นประมาท กรณีวิพากษ์วิจารณ์ทำตัวไม่เหมาะสม แทรกแซงข้าราชการและฝ่ายบริหาร ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมที่จังหวัดชัยนาท และ พระนครศรีอยุธยา หลังจากพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วว่า ร.อ.ธรรมนัส ต้องใจเย็นๆ คุณทำงานใหญ่คุณต้องใจใหญ่ เพราะสิ่งที่ตนโพสต์ในเฟซบุ๊ก คือ การเตือนคุณ และยืนยันว่า การตีความในกฎหมายการเป็นรัฐมนตรีรักษาการของคุณได้สิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย. 2567 ซึ่งเป็นวันที่คณะรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ แล้ว เพราะฉะนั้นคุณไม่มีอำนาจหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจดูน้ำท่วมในวันที่ 8 ก.ย. 2567 และแม้จะอ้างว่าการลงพื้นที่เพราะมีเหตุน้ำท่วมซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน กฎหมายได้ให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำหน้าที่ แม้ยังไม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแต่สามารถลงพื้นที่ได้ เพราะฉะนั้นร.อ.ธรรมนัส มีความหมิ่นเหม่ทำผิดรัฐธรรมนูญแน่นอน
นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 168 ระบุว่า เมื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการหยุดปฏิบัติหน้าที่ เท่ากับว่า วันที่ 6 ก.ย. 2567 ร.อ.ธรรมนัส ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็ต้องไปตีความคำว่าบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งคำนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา คือ วันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ถึงจะบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นวันที่ 6-12 ก.ย. 2567 ถ้ามีความจำเป็นเร่งด่วนเช่น น้ำท่วม รัฐธรรมนูญมาตรา 162 วรรคสองระบุเรื่องนี้ ว่า ให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำหน้าที่ไปก่อนได้ เท่ากับว่า น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ ที่ไปดูเหตุการณ์น้ำท่วมนั้นทำได้แล้ว เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีบทบาทหน้าที่แล้ว ซึ่งตนจะไม่ฟ้อง แต่แค่เตือนเท่านั้นเอง
“ที่บอกว่าไปแจ้งความดำเนินคดีกับผมข้อหาหมิ่นประมาทไม่จริง ย้ำว่า เป็นการปั่นกระแส เพราะเมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) ที่ปรึกษาร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่า ไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีกับพี่หมอนะ แค่ไปลงบันทึกประจำวันเฉยๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าดำเนินคดีฟ้องหมิ่นประมาทผม ผมฟ้องกลับ”