xs
xsm
sm
md
lg

ดิจิทัลฯผ่อนส่ง รัฐบาลใกล้จนมุม!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภูมิธรรม เวชยชัย
เมืองไทย 360 องศา

ตอนนี้หากบอกว่า นโยบาย “ดิจิทัลวอลเล็ต” ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย นำโดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร “ไม่ตรงปก” อย่างชัดเจนแล้ว อีกทั้งในอนาคตยิ่งไม่มีความแน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ จะมีการ “แจกเงิน” ได้ครบถ้วนหรือไม่ หรืออาจถึงขั้น “ไม่มีเงินแจก” กันเลยก็ได้

อย่างไรก็ดี ต้องทบทวนคำพูดของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรับมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ถือว่าเป็นระดับแกนนำคนสำคัญ หรืออาจเรียกว่าเป็น “ผู้จัดการรัฐบาล” ที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จะเริ่มแจกเงินสดรอบแรกให้กับกลุ่มเปราะบาง ราว 14-15 ล้านคน จากนั้นจะแจกให้กลุ่มที่ลงทะเบียนเอาไว้ราว 30 ล้านคน โดยจะแบ่งจ่ายเป็นสองงวด คือในปี 68 จะจ่ายเป็นเงินสดจำนวน 5 พันบาท ส่วนที่เหลืออีก 5 พันบาท จะแจกเป็นเงินดิจิทัล แต่งวดหลังนี้ยังไม่ระบุวันเวลาแน่ชัด บอกว่าต้องรอแถลงอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า หลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายการทำงานแล้ว กระทรงการคลัง จะเสนอโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ในวันที่ 17 ก.ย.67 เพื่อขออนุมัติทันที เพื่อเร่งจ่ายเงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด โดยจะจ่ายภายในสิ้นเดือนก.ย. ก้อนแรก 1.4 แสนล้านบาท จะจ่ายเป็นเงินสดโอนเข้าบัญชีโดยตรงให้กับผู้มีสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการก่อนกว่า 14 ล้านคน

ส่วนที่เหลือจะเป็นการจ่ายเงินแก่ผู้ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งจะได้รับเงิน แบ่งเป็น 2 รอบ โดยใช้งบประมาณปี 2568 คือ รอบแรกหากระบบเสร็จไม่ทัน จะได้รับเงินสดภายในสิ้นปีนี้ก่อน 5,000 บาท แต่หากเสร็จทัน จะได้เป็นดิจิทัลวอลเล็ต ส่วนที่เหลืออีก 5,000 บาท จะจ่ายให้ในปีหน้า โดยตั้งใจจะทำให้เป็นดิจิทัลวอลเล็ต

เขากล่าวว่า ได้ฝากกรมการค้าภายใน ช่วยรวบรวมร้านค้ามารองรับ เพราะเป้าหมายของโครงการ ไม่ได้ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการนำพาประเทศเข้าสู่ระบบดิจิทัล และเตรียมพร้อมให้ประชาชนเรียนรู้เข้าสู่โครงสร้างการเงินใหม่

“ยืนยันว่า โครงการเงินดิจิทัล วอลเล็ต เป็นโครงการสำคัญ เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล จึงต้องเดินหน้าแน่นอน แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพื่อให้ทุกคนสบายใจ ซึ่งได้ปรับมาให้เงินสด 10,000 บาททั้งหมด แก่กลุ่มเปราะบาง 14 ล้านคน ซึ่งจะใช้ที่ไหนก็ได้ ซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ไม่มีสินค้าต้องห้าม เป็นไปตามเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แม้จะเป็นเงินสด แต่ยังช่วยหมุนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดก้อนแรก 1.4 แสนล้านบาท ลงไปในตลาด ก็จะช่วยกระตุ้นและทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน จากนั้น จะมีเงินก้อนสองลงต่อเนื่องไปอีกเป็น 1-2 แสนล้านบาท ก็ยิ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ” นายภูมิธรรมกล่าว

สำหรับรายละเอียดการดำเนินโครงการทั้งหมด ให้รอการแถลงจากกระทรวงการคลัง ตนพูดได้เพียงเท่านี้ เพราะตอนนี้ ไม่ได้รับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจแล้ว แต่ได้ไปดูงานด้านความมั่นคง

คำพูดข้างต้นของ นายภูมิธรรม เวชยชัย ดังกล่าว แม้จะบอกว่าให้รอรายละเอียดจากการแถลงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือไม่ก็ต้องรอการแถลงนโยบายรัฐบาล โดยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่เริ่มวันที่ 12 กันยายนนี้ แต่หากพิจารณาจากจำนวนเงินที่กำหนดเอาไว้สำหรับแจกจำนวน 45 ล้านคน ใช้เงินงบประมาณจำนวนราว 4.5 แสนล้านบาท และหากบอกว่าเตรียมไว้แจกจำนวน 1.4 แสนล้านบาท เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 จำนวน 1.22 แสนล้านบาท หรือบวกกับงบที่ตัดเอามาจากเงินที่ต้องจ่ายหนี้ให้กับแบงก์รัฐอีกจำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท มันก็ยังขาดอีกเกือบ 3 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงไม่น้อยทีเดียว

จะด้วยเหตุนี้หรือเปล่าที่ทำให้มีการเดาทางเอาไว้ล่วงหน้าว่าจะต้องมีการ “ปรับ” วิธีการแจกกันใหม่ โดยเป็นการ “ผ่อนแจก” เป็นสองสามงวด ความหมายก็คือ ยังหาเงินมาได้ไม่ครบจำนวน 4.5 แสนล้านบาทนั่นเอง เวลานี้รวบรวมเอาได้ ไม่ว่าจะเค้นจะขู่มาจากไหนก็ตามก็ยังรวมกันได้แค่ราว ไม่เกิน 1.8 แสนล้านบาทเท่านั้น จึงต้องจ่ายงวดแรกให้กับกลุ่มเปราะบางจำนวน 14 ล้านคนไปก่อน

จากนั้นในงวดที่สองและสามที่จะเริ่มทยอยแจกตั้งแต่สิ้นปีนี้ โดยจะใช้งบประมาณปี 68 ทุกอย่างมันก็ยังไม่ชัวร์ เพราะยังหาที่มาของเงินส่วนที่เหลืออีกจำนวนมหาศาลยังไม่ได้ ทำให้เวลานี้เหมือนกับว่า “แจกไป คิดไป” นั่นแหละ

นอกจากนี้การ “พลิก” กลับมาเป็น “แจกเงินสด” ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็น “ดิจิทัลวอลเล็ต” แล้ว อีกทั้งยังผิดไปจากวัตถุประสงค์เดิมที่เคยกำหนดเงื่อนไข ว่าจะต้องซื้อจากร้านค้าแบบไหน มีระยะรัศมีกี่กิโลเมตร แต่เมื่อเปลี่ยนแบบนี้มันก็ไม่สามารถควบคุมได้ “พายุหมุน” ที่เคยวาดเอาไว้ มันก็คงไม่หมุนแรงขนาดนั้นแน่นอน

การเปลี่ยนแปลงแบบที่เห็นดังกล่าวถือว่า “ไม่ตรงปก” ไม่ตรงกับที่เคยรับปากหาเสียงเอาไว้ ว่า “แจกงวดเดียว” รวดเดียว แม้ว่าสังคมและบรรดากูรูทางเศรษฐกิจจะเคยคัดค้านและคาดเดาเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่า มันเป็นไปได้ยากและไม่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ตรงกันข้ามทำให้เพิ่มภาระหนี้จนเกือบ “ติดเพดาน” และทำให้ไม่มีเนื้อที่ทางงบประมาณที่กันไว้สำหรับภัยพิบัติฉุกเฉิน หรือเหตุการณ์วิกฤตที่ไม่คาดฝัน ถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมาก

ขณะเดียวกันการ “แบ่งแจกเป็นงวด” แบบนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าทุกอย่างยังไม่มีความชัวร์ โดยเฉพาะ “ห้าพันสุดท้าย” มีความเสี่ยงสูงที่อาจไม่ได้รับแจก เพราะอย่างที่บอกก็คือ ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหน เพราะเวลานี้มีอยู่แค่ไม่เกิน 1.8 แสนล้านบาท ยังห่างไกลเป้าหมายรวม 4.5 แสนล้านบาท ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือ “กู้เพิ่ม” เหมือนกับกรณีที่ใช้วิธี เพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 เหมือนกับก่อนหน้านี้สำหรับงบปี 67 ที่ผ่านมา แต่มันก็ไม่ง่าย เพราะจะมีเสียงโวยวายมากกว่าเดิม และไม่สมเหตุสมผล

ดังนั้นหากบอกว่า นโยบาย “ดิจิทัล วอลเล็ต” ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยกำลังใกล้ถึงทางตันหรือจนมุม ก็คงไม่ผิดนัก เพราะสิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ก็คือ ยังหาเงินให้ครบจำนวนคนที่รับแจกไม่ได้ นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการแจกเป็นเงินสดงวดแรก 14 ล้านคน แล้วในงวดต่อไปมันก็ต้องมีเสียงเรียกร้องให้แจกเป็นเงินสด เพราะมีอิสระในการใช้จ่ายมากกว่า และที่สำคัญมีโอกาสสูงมากที่จะไม่มีเงินแจกนั่นแหละ!!



กำลังโหลดความคิดเห็น