“เกรียงยศ สุดลาภา” เปิดงานสัมมนาหาแนวทางแก้ไขปัญหาการจัดตั้งนิติบุคคลของหมู่บ้านจัดสรร ชี้เป็นปัญหาทั่วไปที่ทุกคนพบได้ กฎหมายจัดสรรที่ดินต้องอัพเดตหลังออกกฎหมายมากกว่า 24 ปีเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ด้าน “ทินกร ปลอดภัย” เผยรับเรื่องร้องเรียนจำนวนมากจากการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้าน เตรียมตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
วันที่ 8 กันยายน 2567 นายเกรียงยศ สุดลาภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษเป็นประธานในพิธีสัมมนา เรื่อง ปัญหาและแนวทางการแก้ไขการจัดตั้งนิติบุคคลของหมู่บ้านจัดสรรในเขตกรุงเทพ ณ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า
โดยมีนายทินกร ปลอดภัย เลขานุการ คณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ พร้อมด้วย นายสมเกียรติ ขุนบุญจันทร์, นายสุเทพ บรรจง, นายณรงค์ เกียรติเสรีกุล, นายอรรถวิทย์ เซะวิเศษ, นายรณชัย สังฆมิตกล, นายหวังจันทร์ ยิ้มวิไล, นายอดุลย์ เซะวิเศษ, นายประทีป มุสิกชาติ คณะทำงานรองประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ และนายสุขสันต์ แสงศรี ร่วมในการสัมมนา
นายทินกร ปลอดภัย ในฐานะผู้จัดการสัมมนา ได้เปิดเผยว่า ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาที่ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด
หนึ่งในปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง คือ เรื่องของการจัดตั้งนิติบุคคลในหมู่บ้านจัดสรร หรือมีการจัดตั้งนิติบุคคลดังกล่าวแล้วแต่ไม่ได้รับการถ่ายโอนสาธารณูปโภคพื้นฐาน ส่วนกลางของหมู่บ้านจัดสรรเพื่อการบริหารของนิติบุคคล
จากข้อร้องเรียนดังกล่าวส่งผลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น กรุงเทพมหานคร ไม่สามารถใช้งบประมาณ และทรัพยากรในการแก้ไขปัญหาและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ได้ เนื่องจากยังติดขัดในเรื่องของระเบียบ และกฎหมายที่ให้อำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
การจัดสัมมนาในวันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และหลังจากวันนี้แล้วจะมีการตั้งคณะทำงานในการดูแลเรื่องข้อกฎหมายให้แก่พี่น้องประชาชนในเบื้องต้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นของพี่น้องประชาชนต่อไป
ด้านนายเกรียงยศ สุดลาภาเปิดเผยว่า จากประสบการณ์ของตนที่ผ่านมาทั้งในบทบาทอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงรองประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ
ตนจึงได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของหมู่บ้านจัดสรร ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของหมู่บ้าน นิติบุคคลของหมู่บ้าน และผู้มีส่วนสำคัญที่สุดคือลูกบ้าน ถึงปัญหาในการจัดตั้งนิติบุคคลของหมู่บ้านจัดสรร หรือการบริหารจัดการสาธารณูปโภคพื้นฐาน และส่วนกลางในหมู่บ้านจัดสรร
ในลำดับแรกพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 จวบจนถึงวันนี้เป็นระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 24 ปี ทำให้บริบทของสังคม และรูปแบบของปัญหาที่หมู่บ้านจัดสรรต้องเผชิญมีการแตกต่างกันออกไป
โดยตนขอยกตัวอย่างถึงหมู่บ้านของตน ที่ประสบปัญหาในการจัดตั้งนิติบุคคลของหมู่บ้านเช่นเดียวกันกับพี่น้องประชาชน ต้องมีทั้งการร้องเรียนและฟ้องร้องกับศาลปกครอง กรมที่ดิน และกรุงเทพมหานคร และปัจจุบันเรื่องยังไม่เสร็จเรียบร้อย ซึ่งเป็นระยะถึง 15 ปี
โดยต้องแก้ไขปัญหาโดยการจัดตั้งสมาคมลูกบ้านขึ้นทดแทน ที่ยกเรื่องราวของตนขึ้นเป็นตัวอย่าง เนื่องจากจะสะท้อนให้เห็นว่า เรื่องปัญหาของหมู่บ้านจัดสรร และนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เป็นเรื่องที่ทุก ๆ คนสามารถประสบได้ทั้งสิ้น
การจัดการสัมมนาในวันนี้จะเป็นการรวบรวมทั้งปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหา แม้ไม่อาจได้ข้อสรุปทุกประเด็น แต่ถือเป็นก้าวแรกของการรวบรวมประเด็นต่าง ๆ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป
สุดท้ายนี้ตนขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนที่ร่วมงานสัมมนาในวันนี้ว่า โอกาสนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สะท้อนปัญหาและร่วมกับวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเบื้องต้นร่วมกัน
ทั้งนี้ในการสัมมนาในวันนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรหลายท่าน ได้แก่ นายถาวร เสนเนียม นายสถานียุติธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ, นายทินกร ปลอดภัย เลขานุการคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ, นายสุพจน์ เพ็งประพันธ์ เจ้าพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร, นายสงกรานต์ คงประเสริฐ หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบึงกุ่ม, นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ อดีตผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายวรเดช ราชสงค์ ทนายความ
