xs
xsm
sm
md
lg

“ตำรวจผู้ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(7 ก.ย.) ที่โรงเรียนเซนต์นิโกลาส จ.พิษณุโลก ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง การป้องกันการทุจริตทางการเงิน โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพลในฐานะที่ปรึกษาการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ กล่าวว่า งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการที่โรงเรียนเซนต์นิโกลาส จังหวัดพิษณุโลก เกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตทางการเงิน ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของตำรวจในการเป็น "ตำรวจผู้ฟื้นฟูศรัทธาประชาชน" ซึ่งเป็นวลีที่สะท้อนถึงการทำงานของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการเป็นแบบอย่างในการต่อต้านการทุจริตทางการเงินและเสริมสร้างการบริหารที่โปร่งใสและยึดหลักธรรมาภิบาล ในงานนี้ เขาได้นำเสนอแนวทางและนโยบายในการจัดการขบวนการทุจริตทางการเงินที่รุนแรง และมุ่งเน้นย้ำถึงการใช้กฎหมายและการบังคับใช้นโยบายอย่างเข้มงวดเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อหน่วยงานตำรวจและระบบการศึกษา

“การนำหลักการทำดีได้ดีและความยุติธรรมมาใช้ในการบริหารและการตัดสินใจทางการเงินในโรงเรียน, พล.ต.ต.จรูญเกียรติได้สร้างต้นแบบให้กับผู้บริหารทางการศึกษาและผู้นำชุมชนในการบริหารจัดการที่ยึดมั่นในความถูกต้องและโปร่งใส ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการทุจริตเท่านั้นแต่ยังช่วยให้ชุมชนมีศรัทธาในระบบการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมาย. จากบทบาทนี้พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ได้ยกระดับความเชื่อมั่นของประชาชนต่อหน่วยงานตำรวจในฐานะที่เป็นผู้ปกป้องและฟื้นฟูความยุติธรรมในสังคม” ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา กล่าว

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าถึงชุมชนทางการศึกษาในกลุ่มโรงเรียนเอกชนเครือคาทอลิกในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน โดยนำผลงานปราบปรามขบวนการทุจริตทั่วประเทศขึ้นเผยแพร่เพื่อเสริมสร้างคณะครูและนักเรียนให้มีทัศนคติที่ดีเกิดความตระหนักร่วมกันต่อต้านการทุจริตทางการเงิน โดยเน้นย้ำหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ บนหลักการที่ว่า “ทำดีได้ดี ความยุติธรรม ไม่ต้องร้องขอ”

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ยังได้ประกาศใช้ยาแรงจัดการขบวนการทุจริตทางการเงินระดับโรงเรียนทั้งโรงเรียนรัฐและเอกชน ลงลุยประกาศใช้ยาแรงกวาดล้างขบวนการทุจริตการเงินเบียดบังงบประมาณและเงินบริจาคเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้บริหารทางการศึกษา ฟอกเงิน ปลอมแปลงเอกสาร ขาดคุณธรรม ขาดความโปร่งใส เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องเพราะผู้บริหารใช้อำนาจลงนามคนเดียวในการถอนเงิน โอนเงิน จึงต้องแก้ไขปัญหาแบบนี้โดยใช้ระบบคณะกรรมการเข้ามาร่วมบริหารจัดการอนุมัติทำธุรกรรมทางการเงิน

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังได้ประกาศด้วยว่า ที่ผ่านมา การระดมกวาดล้างจับกุมขบวนการทุจริตมักจะเจอกับกลุ่มอิทธิพลทางการเมืองแต่ไม่สามารถทำอะไรกับตำรวจได้เพราะในทุกครั้งจะทำงานเป็นกองกำลังผสมหลายหน่วยงาน เช่น สำนักงาน ป.ป.ท. สำนักงาน ป.ป.ช. สำนักงาน ป.ป.ง. และ สตง. เป็นต้น ทำให้การแทรกแซงจะทำได้โดยยากและผู้ใหญ่ในฝ่ายการเมืองมักจะไม่ค่อยเอาภาพลักษณ์ชื่อเสียงของตนเองเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการกระทำความผิดของขบวนการทุจริตทั้งหลาย จึงเตือนให้ผู้ที่เคยทำการทุจริตและผู้ที่คิดจะทำการทุจริตทางการเงินต้องหยุดทำและหันมาต่อต้านการทุจริตทางการเงิน ด้วยหลักธรรมาภิบาล หลักคุณธรรม ความโปร่งใสตรวจสอบได้เพราะถ้าวงล้อแห่งกรรมทำงานมันจะทำลายผู้ก่อกรรมและทำลายทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงครอบครัว ญาติพี่น้องหรือลูกน้องบริวารทั้งหลาย

ในขณะที่ การบรรยายของวิทยากรพิเศษ โดยนายภาณุวัฒน์ สร้อยศรีสุข นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ภาค 6) ต่อการบรรยายที่สอดคล้องในหัวข้อเกี่ยวกับแนวทางป้องกันการทุจริตทางการเงินของโรงเรียน โดยจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ตนเองได้รับจากการทำงานจากตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายส่วนใหญ่ พบว่า การทุจริตทางการเงิน มีสาเหตุหลัก ๆ มาจาก ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่นั่นเองที่เห็นยอดจำนวนเงินเข้าออกบัญชี หรือแม้แต่ช่องทางในการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ รวมถึงสาเหตุหลักมาจากการเกิดความโลภที่อยู่ในจิตใจ โดยมักมีข้ออ้างกับตนเองเกี่ยวสภาวะทางการเงินของตนเอง (การบริหารเงินที่ไม่ได้วางแผนไว้จนเกิดยอดค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เกินตัวมากขึ้น) ทั้งการกล่าวอ้างกับตนเองเพื่อให้ผลประโยชน์แก่ครอบครัวของตน

นายภาณุวัฒน์ สร้อยศรีสุข กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ข้อคิดในเรื่องที่เจ้าหน้าที่ทางฝ่ายการเงิน หรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารโรงเรียนในส่วนรวมคือ “ก่อนที่ท่านจะกระทำความผิดในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตนั้น ท่านอย่าคิดเฉพาะสิ่งที่ตนจะได้รับ ท่านอย่าลืมส่วนผู้คนที่อยู่ข้างหลังของท่านบริวารแวดล้อมตัวท่านว่าจะเป็นอย่างไร” และ ในกระบวนการสืบสวน สอบสวนของสำนักงาน ป.ป.ท. นั้นทุกเส้นทางการเงินที่เกิดการทุจริต ถึงแม้ว่าผู้กระทำความผิดจะลบร่องรอยแล้วก็ตาม แต่ทุกอาชญากรรมมักทิ้งเบาะแสให้ตามสืบได้เสมอจากพยานหลักฐาน สภาพแวดล้อมที่มาของหลักฐานนั่นเอง
 
นอกจากนี้ ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ ยังได้กล่าวด้วยว่า งานสัมมนาที่โรงเรียนเซนต์นิโกลาส จังหวัดพิษณุโลก นี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังค่านิยมด้านคุณธรรมและการต่อต้านการทุจริตในสังคมไทย การมีผู้นำอย่าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้วรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับปัญหาการทุจริต และใช้ตำแหน่งและอำนาจในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสังคมเสริมสร้างทัศนคติที่ดีให้แก่บุคลากรทางการศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อันสะท้อนถึงมิติใหม่ภารกิจงานของตำรวจผู้ฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน

ที่ปรึกษาการจัดงานสัมมนาครั้งนี้ กล่าวต่อว่า การดำเนินการของเขาแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีระบบการตรวจสอบและมาตรการที่โปร่งใสในการจัดการทางการเงินของโรงเรียน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการทุจริตเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมว่ามีการดูแลจัดการทรัพยากรทางการศึกษาอย่างเหมาะสม การที่ผู้นำทางการศึกษาและผู้บริหารทางการศึกษาได้ร่วมกันและให้ความรู้เกี่ยวกับการต่อสู้กับการทุจริตเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสังคมที่มีธรรมาภิบาล และเป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนที่จะเป็นผู้นำในอนาคต

“การใช้หลักธรรมาภิบาลและคุณธรรมในการจัดการทางการเงินควรเป็นหัวใจหลักในการบริหารจัดการทุกหน่วยงาน เพื่อให้สังคมไทยมีการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นธรรม การทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสัมฤทธิผลในการต่อต้านการทุจริต และเป็นการปกป้องทรัพยากรของประเทศจากการถูกลักลอบนำไปใช้ในทางที่ผิด” ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น