xs
xsm
sm
md
lg

ใหญ่ๆไม่! เรื่อง"ขี้หมา" อนุทินเต็มที่ แค่ "ศึกดวลกระบี่" ถึงกับขน 50 วอลเปเปอร์ปากแจ๋วนอกสภารุม 1 ! ** ได้เวลารัฐนาวา “อุ๊งอิ๊ง” ฝ่าคลื่นลม ต้องเผชิญทั้งลุงบ้านป่าฯ นักร้อง กระทั่งพรรคร่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนุทิน ชาญวีรกูล-ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ -แพทองธาร ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ ใหญ่ๆไม่! เรื่อง"ขี้หมา" อนุทินเต็มที่ แค่ "ศึกดวลกระบี่" ถึงกับขน 50 วอลเปเปอร์ปากแจ๋วนอกสภารุม 1 !

ทำเอาผู้พบเห็นตกอกตกใจ เมื่อ "เสี่ยหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนอยู่ท่ามกลางการรายล้อมของ สส.กว่า 50 คน

คนระดับนี้ ขนวอลเปเปอร์มาขนาดนี้ เล่นใหญ่เบอร์นี้ คนก็ต้องคิดว่า เป็นเรื่องใหญ่เรื่องโตระดับประเทศ เป็นเรื่องเคลื่อนไหว เพื่อผลประโยชน์ของชาติ

พุทโธ่! ที่ไหนได้ เป็นเรื่องของ สส.ในพื้นที่จ.กระบี่ ดวลฝีปากกันแล้วพาดพิงมาถึงท่านหัวหน้าอนุทิน แค่นั้น

แค่.. "ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนที่ทำงานในพื้นที่กระบี่ อภิปรายร่าง พ.ร.บ. งบ 68 แล้วพาดพิงถึง สส.กระบี่ ของพรรคภูมิใจไทย

จากนั้น "สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง" ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย ก็เสือกกระบี่เข้ามาปะทะ กล่าวหาด้อยค่ากันไปมา เรื่อง"ไม่ทำอะไรเลย" โดยอีกฝ่ายอ้างว่ามีเอกสารส่งหนังสือถึงหัวหน้าพรรค

ดวลเดือดกันในสภา จนอีกต่างฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่าย "ใส่ร้ายป้ายสี" ถึงขั้นจะเรียกร้องให้สอบจริยธรรม เล่นเอาท่านประธาน "วันมูหะมัดนอร์มะทา" ปวดเฮด

เรื่องไร้สาระแท้ๆ เพียงเพราะ สส.ภูมิใจไทย รับไม่ได้กับฝีปาก สส.พรรคประชาชน เสียหน้าที่ถูกหาว่า 4 ปีไม่ทำงานอะไร เกรงงวดหน้าจะเสีย จะเสื่อมคะแนนนิยม ถึงกับขนกันมาเป็นกองทัพโต้คนๆ เดียว

“ประเสริฐพงษ์” ระบุในโปรไฟล์ตัวเองว่า เป็น ส.ส.คนธรรมดา จากอดีตพรรคอนาคตใหม่ สู่พรรคก้าวไกล ทำงานทั้งในและนอกสภา มา 4 ปี

ส่วน “สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง” ได้รับการเลือกตั้งเป็นสส.ในนามพรรคภูมิใจไทยมาแล้ว 2 สมัย

เรื่องของผลงาน ก็เป็นเรื่องของประชาชนที่จะต้องตัดสินกันในพื้นที่ คนกระบี่ รู้ดีว่าไผเป็นไผ !

งานนี้ไม่ต้องส่งเสียงเชียร์ฝ่ายใด ทำใจให้เป็นกลาง ใครจะดวลกระบี่กับใคร ก็ว่ากันไป

ความเคลื่อนไหวนี้ของ "เสี่ยหนู" และลูกพรรควอลเปเปอร์ เล่นใหญ่ทั้งที่เป็นเรื่อง"ขี้หมา" จึงนำพาขบวนรถทัวร์มาลงรัวๆ
ความเห็นชาวโซเชียลฯ ทิ่มตรงๆว่า ตอนเขาอภิปรายในสภา ทำไม่ท่านรองนายกฯ ถึงไม่โต้แย้ง ออกนอกสภามาพูดเพื่อ!? 50 รุม1 แมนมาก , นักเลงปากดีนอกสภา , เบี่ยงเบน กลบเกลื่อน ? มีคนถอดเทปแล้ว สส.ส้ม ไม่ได้พูดกล่าวหาเลย ไอ้คนโวยวาย ก็เพื่อนบอกมาอีกที คอยดูความหน้าแหกของแก๊งหนูผี!

นี่แค่ตัวอย่างบางตอนของขบวนรถทัวร์ ถ้า "อนุทิน" อยากจะรู้ว่าชาวประชาเขาคิดยังไง ก็ไถคอมเมนต์ ดูได้ทุกสื่อที่ข่าวนี้กระจายไปได้เลย

นอกจากนี้ ประเด็นที่ชาวโซเชียลฯ ไม่ได้พูดถึงแต่สำคัญ นั่นคือ แทนที่จะเล่นโชว์พาว เป็นนักเลงปากแจ๋วนอกสภา มิสู้ ไปทำเรื่องเพื่อชาติ เพื่อประชาชนบ้าง เกณฑ์บรรดาสส.วอลเปเปอร์ ทั้งหลายเหล่าน็ ไปลงพื้นที่ช่วยราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วม นี่สิเรื่องใหญ่

ของแบบนี้หน้าที่ของรองนายกฯ และรมว.มหาดไทยโดยตรง"เสี่ยหนู" มิใช่หรือ !?

แพทองธาร ชินวัตร - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ- เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
++ ได้เวลารัฐนาวา “อุ๊งอิ๊ง” ฝ่าคลื่นลม ต้องเผชิญทั้งลุงบ้านป่าฯ นักร้อง กระทั่งพรรคร่วม

รัฐนาวา “แพทองธาร ชินวัตร ”จัดทัพไพร่พลเรียบร้อย เตรียมออกจากท่าฝ่าคลื่นลม ท่ามกลางกระแสดรามา... ครอบครัว ครองงำ และ ครอบครอง...

วันวาน “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เข้าตึกชินวัตร 3 ถึงกับออกปากว่า... สงสารนายกฯบ้างๆ อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และจะตั้งใจทำงานเต็มที่ บางทีเรื่องเล็กๆ อย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากเลย อย่าฟ้องเยอะนักเลย มันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว

ขณะที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่เป็นแบ็กอัพ เป็นที่ปรึกษา คอยให้คำแนะนำ“นายกฯอุ๊งอิ๊ง” ผู้รับการส่งผ่าน “ดีเอ็นเอ” ก็เจอร้องเรียนว่า ครอบงำ ครอบครอง รวมทั้งเรื่อง “ป่วยทิพย์” ที่ชั้น 14 ซึ่งตอนนี้คดีอยู่ในมือป.ป.ช. ยังต้องลุ้นจะออกหัวออกก้อย

ตอนนี้แม้แต่จะเข้าตึกชินวัตร 3 ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคเพื่อไทย ยังต้องมุดชั้นใต้ดินเข้าไปเลย เพราะไม่อยากเจอสื่อฯ

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การตั้ง“ครม.แพทองธาร1” เที่ยวนี้ “ทักษิณ” ได้สร้างศัตรูเพิ่มขึ้นอีกหลายคน โดยเฉพาะ คนบ้านป่ารอยต่อฯ ที่นำโดย“ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้านเต็มตัว

บ้านป่ารอยต่อฯหลังจากนี้ นอกจากนักการเมือง อดีตนายทหาร อดีตนายตำรวจ ที่เข้านอกออกในอยู่เป็นประจำ ยังมีโจทก์ของ “ทักษิณ” เพิ่มขึ้นมาด้วย

บ้านป่าฯ จะกลายเป็นที่ชุมนุมของ “คนเพิ่งแพ้”

คนพวกนี้คงไม่ได้เข้าไปชิม “ผัดซีอิ๊ว” ฝีมือลุงป้อม แต่จะเข้าไปสุมหัว หาทางโค่น “ทักษิณ”และรัฐบาล เพราะลำพังตัวเองคงทำอะไรไม่ได้มากนัก จึงมาอาศัยแรงและบารมีของลุง ในฐานะที่มี“ศัตรู”คนเดียวกัน

นี่ขนาดรัฐบาลยังไม่ได้แถลงนโยบาย ยังไม่ได้เริ่มบริหารเลย แต่ “อุ๊งอิ๊ง” ก็โดนนักร้องอย่าง “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม”ยื่นร้องต่อกกต. ไปแล้ว 2 เรื่อง

หนึ่ง เป็นเรื่องการลาออกจากการเป็นเป็นกรรมการบริษัท 20 แห่ง ว่าเป็นการลาออกย้อนหลัง หลังจากที่สภาฯ โหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วหรือเปล่า เพราะ 20 บริษัทนั้น อยู่ใน 4 จังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ ปทุมธานี นครราชสีมา และลำพูน ซึ่งการลาออกต้องไปยื่นด้วยตัวเอง แล้วไปยื่นได้อย่างไร ภายในวันเดียว จึงขอให้ กกต.ตรวจสอบให้ชัด

สอง เป็นเรื่อง “มาตรฐานจริยธรรม” นายกฯอุ๊งอิ๊ง ยินยอมให้ ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดามา "ครอบครอง" ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
นอกจาก “เรืองไกร” แล้วยังมีมือกฎหมายอย่าง “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ที่คอยมอนิเตอร์หาจุดผิดพลาดของรัฐบาล ซึ่งคนนี้ก็มองข้ามในฝีไม้ลายมือไม่ได้เช่นกัน

นั่นเป็นศึกนอกที่มี “ลุงป้อมแอนด์เดอะแก๊ง” เป็นศูนย์กลางมรสุม

ขณะที่ “ศึกใน” ซึ่งหมายถึงพรรคร่วมรัฐบาล ก็อย่าได้ดูเบาทีเดียวเชียว

สองพรรคที่น่ากลัว คือ พรรคภูมิใจไทย กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ โดยพรรคภูมิใจไทย แม้จะไม่ใช่ศัตรูโดยตรง แต่ลึกๆแล้ว “ทักษิณ” ก็ไม่ได้โอเคกับสถานะของค่ายสีน้ำเงิน ซึ่งมี “ครูใหญ่บุรีรัมย์” อยู่เบื้องหลัง เพราะในตอนนี้ เป็นพรรคที่มีอำนาจต่อรองเยอะไปหน่อย

รัฐบาลปัจจุบันมีราวๆ 320 เสียง หากพรรคภูมิใจไทยเล่นแง่ ถอนตัว เสียงจะลดฮวบเหลือแค่ 250 ทันที ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปริ่มน้ำ
“พรรคภูมิใจไทย” มีหลายเรื่องที่ต้องการขับเคลื่อน และหากถูกขัดใจ ก็พร้อมจะเล่นเกมเขย่า ทางใดทางหนึ่ง เหมือนกับตอนที่พรรคเพื่อไทย จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แล้วถูกเบรก

จะเห็นว่ารอบนี้ พรรคภูมิใจไทย ชิงแถลงนโยบายของตัวเองก่อนแต่หัววัน เสมือนหนึ่งต้องการจะบอกว่า เป็นเรื่องที่ค่ายสีน้ำเงินจะทำ และใครห้ามขวาง

แน่นอนว่า แต้มต่อตรงนี้ จะทำให้พรรคเพื่อไทยปวดหัว และหงุดหงิด และเมื่อไหร่ที่เกิดการขบเหลี่ยม จะเป็นช่องให้ฝ่ายที่รอโค่น เข้ามาผสมโรงได้

ขณะที่ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” พื้นเพเดิมเป็นศัตรูกับระบอบทักษิณมาก่อน วันนี้ที่จูบปากกัน เพราะผลประโยชน์ร่วม

“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ทำตัวเป็นเอกเทศ และพร้อมชนกับบางเรื่อง ที่พรรคเพื่อไทยทำ ซึ่งตัวเองไม่เห็นด้วย

มิตรในวันนี้ พร้อมเปลี่ยนเป็นศัตรูในวันหน้า โดยเฉพาะเมื่อมีอดีตพันธมิตร อย่าง “ลุงป้อม”รอเป็นแนวร่วม

ทั้ง ภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ ต่างมีความสัมพันธ์อันดีกับพลังประชารัฐ ในซีก “ลุงป้อม” กันทั้งนั้น หากเกิดเรื่องสามารถจูนกันติดง่าย

แน่นอนว่า “ทักษิณ” สามารถกุมสภาพ รวบรวมกลุ่มก้อนต่างๆ จากพรรคต่างๆ มากองกันในรัฐบาล คล้ายกับสมัยพรรคไทยรักไทย ทำให้หลายพรรคสิ้นฤทธิ์สิ้นแรง แต่อย่าลืมว่า มันไม่ได้มาด้วยใจ แต่มาด้วยผลประโยชน์ ที่ลงตัวเท่านั้น
พรรคเพื่อไทยและทักษิณ เหมือนจะมีอำนาจ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า “อุ๊งอิ๊ง” ก็ยืนอยู่ในความเสี่ยงที่“ทักษิณ”ต้องระวัง

หากเกิดการขัดแข้งขัดขา แล้วภูมิใจไทย กับ รวมไทยสร้างชาติ ถอนยวงออกจากรัฐบาลเมื่อไร กระดานการเมืองเปลี่ยนทันที
ในวันที่ไม่มีปัญหา “อุ๊งอิ๊ง” และ “ทักษิณ” จะบริหารอย่างราบรื่น ด้วยอำนาจที่แทบจะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่นายหญิงหรือ นายใหญ่ ก้าวพลาดทางการเมือง วันนั้นจะเกิดเรื่องถึงพังได้


กำลังโหลดความคิดเห็น