xs
xsm
sm
md
lg

"เรืองไกร" ร้อง กกต.สอบ "อุ๊งอิ๊ง" ปล่อย "ทักษิณ" ครอบงำ ซัดประเทศชาติไม่ใช่เรื่องของพ่อลูก จับพิรุธวันเดียวลาออก 20 บริษัทใน 4 จังหวัด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เรืองไกร" ร้อง กกต.สอบปมคุณสมบัติ-จริยธรรม "อุ๊งอิ๊ง" ยอมให้พ่อครอบครองฐานะนายกฯ ซัดไม่ใช่เรื่องพ่อลูก แต่เป็นเรื่องของประเทศ งงวันเดียว ลาออกจากกรรมการ 20 บริษัท ที่ตั้งอยู่ใน 4 จังหวัด 


วันนี้(4ก.ย.)นายเรืองไกร ลีกิจวัตนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี​ ใน 2 ประเด็น คือ 1. กรณีเป็นกรรมการบริษัท 20 แห่ง ของ น.ส.แพทองธาร ที่ยื่นออกลาจากกรรมการบริษัท​ ในวันที่ 15 ส.ค.ซึ่งมีผลทันที โดยตามกฎมหมายแพ่ง มาตรา 1153/1 แก้ไขเมื่อปี 2549 ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร แก้ไขเรื่องการลาออกจากกรรมการบริษัทว่า การจะลาออกให้ยื่นหนังสือไปที่บริษัท หรือจะยื่นต่อนายทะเบียนก็ได้ ส่วนการไปจดทะเบียนจะอยู่ในอีกมาตรา คือ ถ้ามีกรรมการลาออกแล้ว กรรมการที่เหลือ มีเวลาไปจดแจ้งอีก 14 วัน ดังนั้นหนังสือเอกสารที่ตนคัดมา 20 บริษัทรวมกว่า 100 หน้า มายื่นต่อ กกต. จึงมีข้อสังเกตว่า น.ส.แพทองธาร ไปยื่นลาออกที่บริษัทที่ตั้งอยู่ใน 4 จังหวัด 14 บริษัทแรกที่ กทม. 2 บริษัทที่ปทุมธานี มีสนามกอล์ฟอัลไพน์ด้วย 1 บริษัทอยู่ที่นครราชสีมา และ 3 บริษัทอยู่ลำพูน โดยยื่นด้วยตัวเองในวันที่ 15 ส.ค.ภายในวันเดียวได้อย่างไร

ต่อมาวันที่ 16 ส.ค.สภาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี​ ดังนั้นจึงเกิดคำถามว่าเดินทางไปว่ายื่นใน 4 จังหวัดในเวลาเดียวกันได้อย่างไร และถามตรงไปยังนายกรัฐมนตรี​ ว่าโชว์เอกสารการลาออกได้หรือไม่ ท่านบอกว่าไม่ใช่เรื่อง กกต.จึงต้องตรวจสอบให้ชัด


ประเด็นที่ 2 เรื่องจริยธรรม นายกรัฐมนตรี​ ยินยอม ให้นายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ บิดา มา "ครอบครอง" ตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ นี่ไม่ใช่เรื่องพ่อลูก แต่เป็นเรื่องของนายกฯ ของแผ่นดิน ตนยอมไม่ได้ เพราะอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาความแพ่ง ของ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์​ โดยตนได้คัดคำร้องในเรื่องจริยธรรม​ ข้อ 8 เรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ให้คนอื่นยินยอมรับหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องครอบงำที่จะไปร้องยุบพรรค เพราะยังอ่านคำวินิจฉัยเต็มจากศาลรัฐธรรมนูญ​ไม่ได้ แต่อันนี้มีเหตุควรแก่การยื่นตรวจสอบแล้ว

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า คำว่า "ครอบงำ" อยู่ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 แต่ไม่มีคำว่าครอบครองในกฎหมายดังกล่าว ตนจึงต้องยกคำพิพากษาศาลฎีกา และพจนานุกรม​ให้ กกต.ไปดูว่าคำว่าครอบครองหนักกว่าหรือไม่ และคำว่าครอบครองไม่สามารถร้องในมาตรา 28 เพราะไม่มีบัญญัติคำนี้ จึงไม่สามารถไปขยายความกฎหมายเองได้ แต่จะต้องไปปรับกับมาตรฐาน​ทางจริยธรรม​ ซึ่งมีกำหนดข้อห้ามไว้ 22 ข้อ ซึ่งรัฐมนตรี​ใหม่ได้มีการตรวจสอบ​แน่ ยืนยันไม่ได้ร้องแค่นายกรัฐมนตรี​เพียงคนเดียว แต่จะร้องหมดทุกฝ่าย

"ยืนยันว่าการมายื่นร้องเรียน ไม่ได้มีนัยทางการเมือง ถ้ามีเหตุผมก็ร้อง วันนี้ผมยังไม่ร้องยุบพรรคเพราะยังไม่เห็นคำวินิจฉัย มีคนถามว่าเป็นบุคคลนิรนามที่มาร้องเพื่อไทยหรือเปล่า ผมก็บอกว่าไม่ใช่ ผมไม่เคยปิดชื่อ" นายเรืองไกรกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น