ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ คนรอบตัว “ลุงหยุม” ชักชวนคนเข้าป่าฯ “เจ๊ปอง”-“พี่ดี้-นิติพงษ์” ก็มา! มะรุมมะตุ้มทำพีอาร์โปรโมตลุง?!
ความเคลื่อนไหวที่บ้านพักสวัสดิการของกองทัพบกที่ตั้งของมูลนิธิ “ป่ารอยต่อ” ของ“ลุงหยุม”หรือ “ลุงป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ใช้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองแทนการดูแลป่าฯ มีรายงานว่า โมงยามนี้ แม้พรรคถูกถีบกระเด็นออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และมีข่าวกองทัพจะทวงคืนพื้นที่ แต่หัวกระไดยังคงไม่แห้ง ปรากฏมีคนผลุบเข้า ผลุบออก มากหน้าหลายตา
ฟังว่า ที่เป็นเช่นนี้ เพราะคนรอบตัวที่ห้อมล้อมมะรุมมะตุ้ม “พลเอกประวิตร” ต่างชักชวนเรียกระดมคนเข้าป่าฯ
อย่างวันก่อน มีคนเห็น “เจ๊ปอง” อัญชะลี ไพรีรัก ผู้ประกาศข่าวปากกล้า มุดเข้าป่ากะเขาด้วยเช่นกัน เห็นว่า คนรอบตัว “ลุงหยุม”เชื้อเชิญเจ๊ ให้เข้ามาเพื่อให้คำแนะนำพลเอกประวิตร ควรต้องเดินแผนประชาสัมพันธ์พรรคยังไง !?
งานนี้ต้องเป็น “เจ๊ปอง” เพราะด้วยผลงานเป็นกระบอกเสียงแทบจะเป็นคนเดียวที่เชียร์ลุง ตอนที่ลุงโดนสารพัดมรสุมการเมืองจากฝ่ายตรงข้าม กระทั่งคุมอารมณ์ไม่อยู่ หยุมหัวนักข่าว ทัวร์ลงกระหน่ำ ก็เป็น เจ๊ปอง ที่โชว์ลีลา “หวานเจี๊ยบ” ทำคอนเทนต์ให้พลเอกประวิตร ยังดูดีสวนกระแส
ตามเจ๊ปองมาติดๆ มีคนเห็นคนนำพา “พี่ดี้” นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดังยุค 90 ผู้อยู่เบื้องหลังนักร้องดังยุคนั้นของค่ายแกรมมี่ ก็เข้าป่า โดยในแผนของคนรอบตัวลุงต้องการมันสมองของพี่ดี้ แต่งเพลงให้ลุง และพรรคพลังประชารัฐ คาดหวังจะใช้เพลงเป็นสื่อ เชื่อว่าจะเรียกเรตติ้งคะแนนนิยมของพรรคให้กลับมาได้
พรายกระซิบยังบอกด้วยว่า นอกจาก “เจ๊ปอง-พี่ดี้” เพื่อบรรลุในแผนพีอาร์ลุง โปรโมตพรรค รอบใหม่ยังมีบุคคลที่ถูกเชิญเข้าป่าอีกหลายคน
ขณะเดียวกัน คนรอบตัวลุงป้อมเอง ตอนนี้ไอเดียบรรเจิดมาก วันทั้งวันคอยป้อยอคำหวาน เสนอแผนประชาสัมพันธ์ให้ลุงพิจารณาอย่างชนิดบรรยากาศครึกครื้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตอนทำศึกเลือกตั้ง
โบราณว่า วิกฤตเป็นโอกาส ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐ วิกฤตหนัก หัวหน้าพรรคร่อแร่ หรือว่าคนรอบตัวลุงที่แห่แหนกันมาเสนอแผนต่างๆ จะเห็นช่วงนี้เป็นโอกาส !?
เพราะแผนการต่างๆ จะพีอาร์ หรือ โปรโมต ฟื้นฟูภาพลักษณ์ต้องไม่ลืมว่า ล้วนต้องใช้เงิน ใช้ทอง !
ของพรรค์นี้คนรอบตัวรู้ดี จับจุดลุงถูก เรื่องอื่นลุงไม่รู้ๆๆๆ แต่ถ้าเรื่อง “อวยยศ” สร้างวิมานในอากาศให้ลุงเหาะเหินเดินบนก้อนเมฆ ฝันว่าจะไขว่คว้าเก้าอี้นายกฯ มาครองได้... รับประกันลุงควักจ่ายมือเป็นระวิง!.
++ “เทวดาชั้น14” เมิน “เสรีพิศุทธิ์” ไม่สนแบล็กเมล์
หลังจาก “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ประกาศถอนตัวจากรัฐบาล พร้อมโชว์แชตไลน์ ทิ้งบอมบ์ ว่าเคยไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนักโทษเด็ดขาด ที่บนชั้น14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ขณะนอนพักรักษาตัวภายนอกเรือนจำ ถึง 2 ครั้ง โดยผ่าน “คนกลาง” ที่เป็นคนจัดคิวให้เข้าพบ
ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 พ.ย.66 และอีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ.67 พร้อมเตรียมเเฉ อาการเจ็บป่วยของ “ทักษิณ” ผ่านการให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ช. ก่อนประกาศกร้าวว่า คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะต้องรับผิดชอบ หรือพูดง่ายๆว่า ต้องเข้าคุก!!
เรื่องนี้เป็นประเด็นร้อน ถึงขนาดทำให้ “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกมายืนยันว่า ไม่เคยอนุญาตให้ “เสรีพิศุทธิ์” เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” แต่อย่างใด เพราะในบรรดารายชื่อผู้ที่สามารถเข้าเยี่ยม ตามที่ระบุไว้ 10 รายชื่อนั้น มีเพียงญาติ และทนายความ โดยกรมราชทัณฑ์ มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย และควบคุมให้เป็นไปตามระเบียบ
เมื่อข้อมูลของทั้งสองฝ่ายไม่ตรงกัน น่าจะทำให้งานไปงอกที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งตอนนี้กำลังทำการตรวจสอบ ตามที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร้องเรียนมาว่า การกระทำของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รพ.ตำรวจ และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีให้ “ทักษิณ” พักรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 นานถึง 181 วันนั้น ขัดต่อหลักความเสมอภาค และเป็นการเลือกปฏิบัติ อันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคล อันอาจเป็นการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
หลังรับเรื่องร้องเรียน ทางป.ป.ช.ได้ขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่รพ.ตำรวจ ว่า “ทักษิณ” มีความเป็นอยู่อย่างไร ป่วยหนักจริงหรือไม่ เพราะเมื่อได้รับการพักโทษก็ออกมาเดินปร๋อ ...แต่ได้รับคำตอบจาก รพ.ตำรวจว่า... กล้องเสีย!!
ขณะที่ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม บอกว่าทางกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม พร้อมที่จะรับฟังข้อมูลจาก “เสรีพิศุทธ์” อยู่แล้ว และตอนนี้ กรมราชทัณฑ์ ก็ได้ไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. ถึงเรื่องดังกล่าว
ส่วนการเข้าเยี่ยม “ทักษิณ” 2 ครั้งนั้น ก็เป็นไปตามที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงไปแล้ว สำหรับเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดบนชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่ป.ป.ช. ยังไม่ได้รับไฟล์ภาพนั้น ก็ต้องไปถามทางป.ป.ช. กับรพ.ตำรวจ เพราะเป็นหน่วยงานภายใน และ ไม่ได้เป็นหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม
“ทวี สอดส่อง” บอกว่าแม้ผู้ต้องขังจะอยู่ระหว่างการดูแลของกรมราชทัณฑ์ แต่กระทรวงยุติธรรม ไม่สามารถไปติดกล้องวงจรปิด ในหน่วยงานราชการอื่นได้
กล้องจะเสีย หรือไม่เสีย กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไม่เกี่ยว
จะว่าไปแล้ว เรื่อง“ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนักโทษเทวดา อยู่ชั้น 14 นั้น ไม่ปกติธรรมดาอยู่แล้ว
ต้องไม่ลืมว่าวันที่ “ทักษิณ” กลับมาเหยียบแผ่นดินไทยนั้น อยู่ในช่วงรัฐบาล “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี และถ้าลุงตู่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง ไม่ใช่แค่ตีหน้ายักษ์ทำ“ขึงขัง”กับนักโทษคนนี้ แล้ว“ทักษิณ” จะเป็นเทวดา อยู่บนชั้น 14 ได้ตั้ง 181 วันหรือ
โดยเฉพาะในช่วงการจัดตั้งรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นพรรคของ “ลุงตู่” กับ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ หัวหน้าใหญ่ กปปส. ที่ประกาศวางมือทางการเมืองแล้ว แต่ให้ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” บุตรบุญธรรม มาขับเคลื่อนแทน ก็เข้าร่วม แถม “สว.สายลุงตู่” ยังช่วยโหวตหนุนจน “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เป็นนายกรัฐมนตรี
ว่ากันว่า“ทักษิณ” ใช้ชั้น 14 เป็น“วอร์รูม”ในการตั้งรัฐบาล คนที่ไปพบ”ทักษิณ” ที่ชั้น 14 จึงไม่ได้ไปเพื่อเยี่ยมคนป่วย
ส่วนใครไปบ้าง คงไม่ต้องลงชื่อเข้าเยี่ยม ตามที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า
คำถามจึงย้อนกลับมาที่ “เสรีพิศุทธ์” ว่า ที่ไปชั้น 14 ถึง 2 ครั้งนั้น ไปทำอะไร ไปเยี่ยมคนป่วยหรือ
การออกมาประกาศตัดขาดกับ “ทักษิณ” พร้อมขู่ว่าจะแฉอะไร ต่อมิอะไรนั้น จะทำจริงหรือแค่ “ต่อรอง”เก้าอี้รัฐมนตรี ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า “เสรีพิศุทธ์” ต้องการเป็นรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่ “ทักษิณ” ก็เมินเฉย ไม่โต้ตอบหรือแฉกลับด้วย แถมการจัดตั้ง“ครม.แพทองธาร 1” ก็ลงตัวเรียบร้อย เตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 4 กันยายนนี้ โดยไม่มีชื่อ “เสรีพิศุทธ์” ร่วมในครม.
ก็ต้องติดตามกันว่าหลังจากนี้ “เสรีพิศุทธ์” จะออกมาแฉอะไร หรือจะอยู่นิ่งเฉย ยอมทำใจ ปล่อยให้เรื่องเงียบไปเอง เพราะรู้อยู่แล้วว่า งานนี้ “หยิกเล็บ ก็เจ็บเนื้อ”!!
