กรมการปกครอง ทิ้งทวน ก่อน "อธิบดีฯ"โยกไปนั่งปลัดฯ จัดซื้อบัตรประจำตัวประชาชน "Smart Card" เพิ่มเติมอีก 3.6 ล้านบัตร งบกว่า 47 ล้าน เฉพาะเจาะจง ลอตใหม่ปี 67 หลังมีกระแสข่าว จำนวนบัตรในระดับภูมิภาคไม่เพียงพอ แถมใช้งบปี 67 จัดซื้อไปแล้วกว่า 166 ล้าน 8.5 ล้านบัตร
วันนี้ (2 ก.ย.2567) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้า ในโครงการจัดซื้อและจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567
ภายหลังกรมการปกครอง ยุคนายอรรถษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้รับจัดสรรงบประมาณ เป็นเงิน 166,505,600 บาท เพื่อดำเนินการจัดซื้อและจัดทำบัตร Smart Card ราคาต่อหน่วยบัตรละ 19.581 บาท จำนวน 8,503,426 บัตร และอยู่ระหว่างดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่เดือน มี.ค.2567
ต่อมา กรมการปกครอง มีแผนจัดซื้อบัตร Smart Card เพิ่มเติม จำนวน 3,600,000 บัตร ภายหลังมีกระแสข่าว จำนวนบัตร Smart Card ในระดับภูมิภาคไม่เพียงพอ
ล่าสุด ส่วนบัตรประจำตัวประชาชน สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง มท. ได้ออกประกาศให้ บริษัท จันวาณิชย์ ซีเคียวริตี้ พริ้นท์ติ้ง จำกัด ที่เสนอวงเงิน จำนวน 47,957,400 บาท เท่าราคากลาง ราคาต่อหน่วย 13.3215 บาท
เป็นผู้ชนะการเสนอราคาซื้อบัตรประจำตัวประชาชนที่ออกด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบอเนกประสงค์ (Smart Card) จำนวน 3,600,000 บัตร (เพิ่้มเติม) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง
ทั้งนี้ยังประกาศให้ บริษัท คอนโทรล ดาต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ชนะโครงการจัดซื้อวัสดุพิมพ์และเครือบบัตร Smart Card สำหรับใช้กับเครื่องพิมพ์บัตร ยี่ห้อ FARGO รุ่น HDP 5000e จำนวน 3 รายการ วงเงิน 5,270,673 บาท เท่ากับราคากลางเช่นกัน
นอกจากนั้น สำนักบริการทะเบียน ปค. ยังออกประกาศ จัดจ้างเพื่อตรียมข้อมูล บัตรประจำตัวประชาชน (Pre- Perdonalizstion) ราคากลาง วงเงิน 5,102,055.60 บาท ราคาต่อหน่วย 0.60 บาท จำนวน 8,503,426 บัตร
ที่ผ่านมา ปค.ได้ดำเนินการคู่ขนาดกับการให้บริการระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID)
ประชาชนสามารถแสดงภาพบัตรประชาชนบนเครื่องมือสื่อสารผ่านแอปพลิเคชั่น ThaID (ไทยดี) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการพิสูจน์และยืนยันตัวตน (Digital ID) รวมถึงการเปรียบเทียบภาพใบหน้า (Face Verification System) ทางดิจิทัล
เป็นไปตาม พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา รองรับผู้ใช้งาน 60 ล้านคน โดยประชาชนสามารถลงทะเบียนด้วยตนเอง ไม่ต้องเดินทางไปลงทะเบียน ณ สำนักทะเบียนแต่อย่างใด.