ปชป.เลือดยังคงไหล “เอิร์ธ” ลาออกจากสมาชิกพรรค หลังมีมติร่วม รบ.พท. ลั่น หมดความเชื่อมั่นพรรค 3 ข้อ ขณะที่เลือดเก่าอีกหลายรายทยอยออกเช่นกัน
วันนี้ (30 ส.ค) นายพงศกร ขวัญเมือง หรือ เอิร์ธ ลูกชาย พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผุ้ว่าฯ กทม. ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ประกาศลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หลังพรรค ปชป. มีมติพรรคเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีใจความว่า ผมมีความเชื่อว่า นโยบายสาธารณะที่ดี สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราได้ ผมจึงตั้งใจหาความรู้ ตั้งใจผลักดันด้วยวิธีการต่างๆ จนสามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ในหลายๆ นโยบาย แต่ก็มีอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสวัสดิการความเป็นอยู่ การรักษาพยาบาล หรือสิทธิความเสมอภาค ที่ต้องอาศัย นโยบายระดับประเทศในการผลักดัน ผมจึงอยากทำร่วมกับพรรคที่ผมมั่นใจ คือพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเหตุผลดังนี้
1. ความมีส่วนร่วม พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่สมาชิกพรรคทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายพรรค โดยเฉพาะกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรค ที่มีการเลือกตั้งโดยตรงจากสมาชิกพรรคทั้งประเทศ ซึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีความยึดโยง ทั้งนโยบาย แนวทางพรรค และอุดมการณ์กับสมาชิกพรรคที่มีแนวความคิดที่เหมือนกันอย่างแท้จริง
2. ความเสมอภาค พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ พรรคที่ทุกคนสามารถขึ้นมามีบทบาทได้ ด้วยความที่พรรคมีกลไกดั่งข้อแรก ทุกคน ไม่จำเป็นต้องรวยหรือมีทุน ก็สามารถขึ้นมาเป็นผู้นำพรรคได้ นโยบายต่างๆ ย่อมไม่ถูกครอบงำโดยนายทุน ทำให้นโยบายสามารถ ผลักดันได้อย่างเต็มที่
3. อุดมการณ์ พรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์ 10 ข้อ ที่สำคัญยิ่ง โดยเฉพาะข้อแรก คือ “พรรคจะดำเนินการเมืองโดยวิถีทางอันบริสุทธิ์”
“จึงเห็นว่า หลายครั้งที่พรรคเพียงแค่ถูกตั้งข้อสงสัยต่างๆ พรรคจะมีการแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการแสดงสปิริตนักการเมือง ลาออก หรือถอนตัวจากการบริหาร เพราะนั่นคือสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการทำให้เป็นบรรทัดฐานที่ต้องการให้ประเทศไทยมีนักการเมืองที่ดี ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการลงสมัครครั้งแรกในชีวิต ในตอนนั้น ต้องยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้รับความนิยมเหมือนแต่ก่อน ถึงขั้นที่อาจจะนิยมน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยซ้ำ แต่ในวันนั้นผมก็ไม่ได้ลังเล และได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคด้วยตนเอง เพราะเชื่อมั่นในความเป็นสถาบันของพรรค ที่มีหลักการและทำให้เชื่อว่าหากได้รับเลือกตั้งหรือไม่ได้รับเลือกตั้งก็ตาม ก็ยังสามารถทำตามนโยบายตามความตั้งใจผ่านพรรคประชาธิปัตย์ได้
แต่ในวันนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำให้ผมมีความเชื่อมั่นในสิ่งทั้ง 3 อย่างนี้ ผมจึงไม่เชื่อมั่นว่า การทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์จะทำให้ผมสามารถใช้ความรู้ ความตั้งใจและความสามารถทำประเทศให้ดีขึ้นได้ ผมจึงขอยุติการร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ครับ“ นายพงศกร ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา นายเกียรติ สิทธิอมร อดีต สส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชป. และอดีตประธานผู้แทนการค้าไทยและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจของพรรค ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. หลังการเข้าบริหารพรรคของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดปัจจุบัน เช่นเดียวกับ นายเรวัต อารีรอบ นายก อบต.ภูเก็ต และอดีต สส.ภูเก็ต ก็เพิ่งลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ที่ผ่านมา