"แพทองธาร" ลั่น น้ำไม่ท่วม กรุงเทพฯ เหตุ ปริมาณน้ำไม่เยอะเหมือนปี 54 บอกน้ำเริ่มลดขอโฟกัส เรื่องเยียวยาชาวบ้าน ลั่น แถลงนโยบายต่อสภาแล้ว คงทำอะไรได้มากขึ้น
วันนี้ (30ส.ค.) เมื่อเวลา 13.45 น. ที่จ.สุโขทัย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ได้ประสบอุทกภัย ว่า จากการลงพื้นที่ตนได้พูดคุยกับ พี่น้องประชาชนหลายคนก็ทราบถึงความลำบากในหลายวันที่ผ่านมา แต่ตอนนี้สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ น้ำก็เริ่มลดแล้ว แต่ตอนนี้อยากให้โฟกัสเรื่องของการเยียวยาพี่น้องประชาชนต่อไป เพราะน้ำท่วมแต่ละครั้งก็เกิดความศูนย์เสียและลำบากกันเยอะ
เมื่อถามถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่รายงานว่า มวลน้ำที่ไหลลงมาไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับพื้นที่ภาคกลางและกรุงเทพฯใช่หรือไม่ น.ส แพทองธารกล่าวว่า ตอนนี้เขื่อนด้านบน ทั้งเขื่อนสิริกิต์ และ เขื่อนภูมิพล สามารถรองรับน้ำได้เพียงพอแน่นอน ฉะนั้นในส่วนของพื้นที่ กรุงเทพฯ ไม่มีปัญหา และในส่วนของการคาดการณ์เรื่องพายุก็ไม่มีเข้ามา ดังนั้นพื้นที่ กรุงเทพฯจึงปลอดภัยแล้ว ในขณะที่ภาคเหนือตอนนี้ก็เริ่มดีขึ้น รวมถึงจากการที่ได้พูดคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็ได้ทราบว่า ตอนนี้ทางภาคเหนือเต็มที่ 7 วัน ทุกอย่างก็จะเริ่มเคลียคลาย หรือบางจังหวัดอาจจะแค่ 3-5 วัน
เมื่อถามว่าภาพรวมของสถานการณ์น้ำในปีนี้คงไม่เหมือนกับในปี 54 ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่น่ากลัวเหมือนปี 54 แน่นอน เพราะปี 54 เป็นปีที่น้ำเยอะและมีพายุเข้ามาในช่วงเดือน ต.ค. ปี 54 ถึง 5 ลูก แต่ตอนนี้มีการคาดการณ์ว่าพายุจะเข้ามาในประเทศ 2 ลูก หรืออาจจะไม่มีเลย
เมื่อถามว่าในเดือน ก.ย. ถึง ต.ค. อาจจะมีปริมาณฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นได้มีการเตรียมการไว้อย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้มีการเตรียมรับมือพอสมควร ในส่วนของฝั่งชลประทานก็ไม่ได้มีความกังวลใจเหมือนในปี 54 เพราะเคยได้รับมือมาแล้ว และปีนี้ปริมาณน้ำฝนก็ไม่เยอะเหมือนปี 54
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หากมีการแถลงนโยบายต่อสภาเรียบร้อยแล้ว คงต้องมีการดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะจากการลงพื้นที่มาก็เห็นว่าประชาชนเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างจริงจัง อะไรที่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้ก็ขอให้ช่วยกันเพราะผลประโยชน์อยู่ที่ประชาชน นอกจากนี้ก็มีอีกหลายอย่างที่คิดไว้ หากขั้นตอนการตั้งคณะรัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อยก็จะพยายามเริ่มลุยงาน
เมื่อถามว่าอยากแก้ไขปัญหานี้ในอนาคตอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวตอบทันทีว่า แน่นอน ซึ่งขณะนี้มีการรับทราบข้อมูลว่าเขื่อนไหนที่แตก และปัญหานี้ในอนาคต ถ้าถูกแก้ในระยะยาว ก็จะไม่ต้องมาคอยแก้ หรือเสียงบประมาณในช่วงสั้นๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก นี่คือสิ่งที่เรามีความตั้งใจอยากทำในอนาคต
“ถ้าจะพูดถึงเรื่องความตั้งใจ มีแน่นอน เรามีความตั้งใจแน่นอนที่จะทำให้ตรงนี้สามารถแก้ไขปัญหาในระยะยาวได้ เพื่อไม่อยากให้เสียงบประมาณที่เล็กๆ และบ่อยๆ“ น.ส.แพทองธาร กล่าว