xs
xsm
sm
md
lg

“ทักษิณ”พังเร็ว เสี่ยงคุก อยู่ไม่เป็นสุข !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - แพทองธาร ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

แม้ว่าสภาพการเมืองเวลานี้จะอยู่ในสภาพเละตุ้มเปะ สร้างความเสื่อมศรัทธาให้ชาวบ้านมากแค่ไหนก็ตาม โดยเฉพาะการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เพราะภาพความแตกแยก การขับพรรคนี้ออก ดึงพรรคการเมือง ดึงกลุ่มการเมืองเข้ามาเสียบแทน และยังถูกมองว่าเป็นการฉวยโอกาสกำจัดศัตรูทางการเมือง

แต่ในภาพรวมแล้วกำลังมองว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย กำลัง “ครอบครอง” หมดทุกอย่างในมืออย่างเบ็ดเสร็จ แต่ขณะเดียวกันก็เริ่มส่อเค้าเขากำลังตกที่นั่งลำบาก จนถึงขั้นทำให้รัฐบาลพังเร็วขึ้น และตัวเขาก็อาจต้องเข้าคุกจริงๆ ก็เป็นได้

แน่นอนว่าเสียงของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หากนับจำนวนแล้ว ถือว่ามั่นคงมาก เนื่องจากมีเสียงสนับสนุนมากกว่า 300 เสียงขึ้นไป อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาจากปัจจัยภายนอก ในเรื่อง “ความศรัทธา” และในเรื่อง “จริยธรรม” ที่ถูกบั่นทอนอย่างหนัก ทำให้ทุกอย่างมีภาพในทางลบมากขึ้นทุกวัน

เวลานี้ “จุดอ่อน” อาจกลายเป็น นายทักษิณ ชินวัตร เองก็เป็นได้ รวมถึง “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ด้วยก็ได้ เพราะกำลังถูกตั้งคำถามในเรื่องจริยธรรม และมีหลายกรณีที่เข้าข่ายหมิ่นเหม่ทางกฎหมาย และกำลังเกิดปัญหาร้องเรียนตามมามากมาย ซึ่งทุกเรื่องเป็นเรื่องที่พวกเขาเคยก่อขึ้นทั้งสิ้น แต่เมื่อ “ความลับ” ไม่มีในโลก วันหนึ่งก็ต้องเปิดเผยขึ้นมาจนได้

กรณีการออกมาแถลงเปิดโปงของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม หลังการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล แม้ว่าเนื้อหาบางส่วนพอจับความได้ว่า เขาผิดหวังไม่ได้รับการตอบแทนน้ำใจกลับมาจาก นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ที่รับใช้มานานกว่า 50 ปี ก็ตาม แต่ก็มีอีกส่วนที่พรั่งพรูออกมาว่าเขา “กำหลักฐานเด็ด” อยู่ในมือ และทำให้นายทักษิณ และอีกหลายคนที่เกี่ยวข้องติดคุกได้

“ที่ผ่านมาผมไปหานายทักษิณ 2 ครั้ง เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้วและเดือน ก.พ.ปีนี้ ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ผมช่วยเหลือ โดยการถอนฟ้อง นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีกรณีแต่งตั้งตำรวจมิชอบ แต่มาวันนี้ผมขอตัดสัมพันธ์คุณทักษิณ คบมา 51 ปีแล้ว ทำได้แค่นี้ จะคบต่อไปทำไม หลังจากนี้ให้รอดู ป.ป.ช.จะเชิญผมไปให้ข้อมูลหรือไม่ ขอบอกเลยว่าจะต้องคิดคุกกันทั้งหมด ตั้งแต่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการ รมว.ยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผบ.เรือนจำ และแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งจะมีภาคสองต่อไปขอให้ติดตาม” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุ

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังกล่าวว่า ชัดเจนว่านายทักษิณ ครอบงำพรรค และเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ไม่ถึงปี อายุรัฐบาลสั้นกว่ารัฐบาลเศรษฐาเสียอีก รวมถึงน.ส.แพทองธาร ก็จะมีเรื่องร้องเรียนเยอะ เพราะมีคนเตรียมร้องเรียนมากมาย แต่ส่วนพรรคเสรีรวมไทย คงไม่ดำเนินการใดๆเพราะเห็นเป็นลูกหลาน

คำเปิดโปงดังกล่าวของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย่อมทำให้หลายคนต้องหวั่นไหวแน่นอนโดยเฉพาะ นายทักษิณ รวมไปถึงคนอื่นดังกล่าวที่หากมีการพิสูจน์ความจริงออกมาแล้ว มันก็เป็นไปได้ที่จะต้องติดคุกกันกราวรูด

เพราะต้องไม่ลืมว่า เวลานี้ทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ได้รับคำร้องของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ที่ร้องว่า นายทักษิณ ใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลเหนือนักโทษรายอื่น และเรือนจำพิเศษ และโรงพยาบาลตำรวจเลือกปฏิบัติ ซึ่งในเวลาต่อมาทาง ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือขอภาพวงจรปิดจากโรงพยาบาลตำรวจ ในชั้นที่ 14 ระหว่างที่ นายทักษิณนอนพักรักษาอาการ เพียงแต่ว่าเวลานี้ยังไม่มีความคืบหน้าเปิดเผยออกมาให้เห็นเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังมีการระบุว่า มีคนจากบางพรรคการเมืองมีหลักฐานเด็ดที่ระบุว่า นายทักษิณ ชินวัตร “ครอบงำ” พรรคเพื่อไทย จากกรณีที่เรียกแกนนำจากพรรคร่วมรัฐบาลไปหารือกัน หลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยครั้งนั้นมีการเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่เพียงชั่วข้ามคืน ก็เปลี่ยนมาเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นมาแทน

นี่ยังไม่นับที่มีบรรดา “นักร้อง” มีชื่อทั้งหลายที่เข้าคิวจ่อร้องเอาผิด ทั้งนายทักษิณ และน.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเท่าที่เห็นถูกร้องไม่ต่ำกว่า 5 คดีแล้ว มีทั้งเรื่องเก่าและใหม่ และมีแนวโน้มจะตามไม่หยุด ถึงได้บอกว่าทั้งพ่อทั้งลูก มีความเสี่ยงคุกตะราง และเสี่ยงกับการพ้นจากตำแหน่งในอีกไม่นาน

นั่นเป็นเรื่องการกล่าวหาเพื่อให้เอาผิดทางกฎหมาย แต่อีกด้านหนึ่งจากพฤติกรรมจากการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา ประกอบกับผลงานของรัฐบาลที่พวกเขาเป็นแกนนำก็ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ยังไม่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ มันก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยง ความเสื่อศรัทธาถดถอยลงไปเรื่อยๆ

อย่างน้อยเท่าที่เห็นในคราวนี้ที่แม้จะมองว่า นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย สามารถ “จัดการ” กับศัตรูทางการเมืองได้อย่างเด็ดขาด สามารถทำลายพรรคการเมืองไปพร้อมๆ กัน แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ฝ่ายที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และครอบครัว นายทักษิณมานาน มีความไม่พอใจและถอยออกไปมากขึ้น ดังที่เห็นจากการดึงเอาพรรคประชาธิปัตย์ มาร่วมรัฐบาล ทำให้มวลชนคนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยผิดหวัง หลังจากผิดหวังมาแล้วอย่างต่อเนื่อง

ปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ หลังจากที่พรรคเพื่อไทย “หักดิบ” เปิดศึกแก้แค้นทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามแบบนี้ มันก็เกิดคำถามตามมาว่าพวกเขาจะไปได้สักกี่น้ำ เพราะแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ล้วนแล้วแต่ “มือเก๋า” ทั้งนั้น ไม่อาจดูเบาได้เลย ที่สำคัญพวกเขามีเครือข่ายไม่น้อยเหมือนกัน ประมาทไม่ได้เป็นอันขาด

ที่สำคัญด้วยสถานการณ์ในเวลานี้เรื่อง “ศรัทธา” กำลังมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่กรณีตั้งรัฐบาล “ข้ามขั้ว” ผิดคำพูดกรณี “ปิดสวิตซ์ 3 ป.” มาบัดนี้หันมาจูบปากกับพรรคประชาธิปัตย์ ทุกอย่างย่อมไม่เป็นผลบวก มีแต่เร่งให้ถึงจุดจบเร็วขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ผลงานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่เคยคุยว่า “เหนือ” กว่าคนอื่น แต่ที่ผ่านมากลับทำได้น่าผิดหวัง มีแต่เสียงบ่น ชาวบ้านวิจารณ์ ค่าครองชีพสูง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ธุรกิจ โรงงานทยอยปิดตัว สิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นตัวเร่งทั้งสิ้น

ดังนั้นสำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าตอนนี้เหมือนกับเขาได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด สามารถควบคุม ครอบครองได้ทุกอย่างในมือแล้ว แต่อีกด้านมันกลับเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดหายนะมากขึ้น เสี่ยงคุกมากขึ้น เพราะความย่ามใจ ไม่แคร์กฎหมาย เพราะคิดว่าตัวเองควบคุมได้ทุกอย่างแล้ว แต่มันก็ต้องมีช่องให้พลาดจนได้ และกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งย่อมส่งผลกระทบไปถึง “ลูกสาว” ของเขาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่อาจต้องล้มครืนไปพร้อมๆ กันด้วย !!


กำลังโหลดความคิดเห็น