xs
xsm
sm
md
lg

พปชร.ทวงคำมั่น “อุ๊งอิ๊ง” ให้ร่วมรัฐบาล ห่วงโดนร้องจริยธรรมปมไม่ซื่อสัตย์ ย้ำไม่ขับ “กลุ่มธรรมนัส” ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไพบูลย์” แถลงทวงคำมั่นนายกฯ เคยประกาศต่อสาธารณะ จะให้ พปชร.ร่วมรัฐบาล สส. 39 คน ก็ไปโหวตให้แล้ว ยก กม.แพ่ง ม.362 ออกคำโฆษณาว่าจะให้รางวัลผู้ใดก็ต้องให้ ย้ำ เป็นเรื่องของ พปชร.กับนายกฯ ไม่เกี่ยวเพื่อไทย ห่วงมีคนร้องฟันจริยธรรม เหตุไม่ซื่อสัตย์ แต่ พปชร.จะไม่ยื่นเอง เพราะเป็นผู้ใหญ่พอ ยืนยันไม่ขับกลุ่ม “ธรรมนัส” เป็นครอบครัวเดียวกัน ยังอยู่กันมีความสุข
วันนี้ (29 ส.ค.) เมื่อเวลา 10.20 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรค ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบกำหนดการประชุมใหญ่สามัญของพรรคพลังประชารัฐ ครั้งที่ 2/2567 ในวันที่ 6 ก.ย. เวลา 10.30-13.00 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ อาคารสำนักงานใหญ่พรรคพลังประชารัฐ โดยมีวาระพิจารณา คือ แต่งตั้ง กก.บห.พรรคเพิ่มเติม และแต่งตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครเลือกตั้งเพิ่ม นอกจากนี้ มีเรื่องแจ้งเพื่อทราบอีกเล็กน้อย

เมื่อถามว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยประกาศไม่เอาพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล จะเป็นอย่างไรต่อไป นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ไม่เกี่ยวอะไรกับพรรคเพื่อไทย แต่เกี่ยวกับนายกฯ โดยตรง เรื่องที่นายกฯ ได้มีสัญญาประชาคม เสมือนหนึ่งเป็นคำมั่นกับพรรคพลังประชารัฐ แสดงออกต่อสาธารณะอย่างครบถ้วนแล้ว พรรคพลังประชารัฐได้เห็นชอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ และ น.ส.แพทองธาร ได้ให้คำมั่นว่า จะให้พรรคพลังประชารัฐมีที่นั่งในคณะรัฐมนตรีตามสัดส่วนเดิมและตำแหน่งเดิม

นายไพบูลย์ กล่าวว่า หลังจากให้คำมั่น ทางพรรคพลังประชารัฐ ได้ให้ สส.ไปออกเสียงสนับสนุนให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ทั้งหมด 39 เสียง อาจจะมีหัวหน้าพรรคคนเดียวที่ติดภารกิจ มีเหตุจำเป็น ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้ทำครบแล้วตามคำมั่นที่นายกฯ ให้ไว้ เราก็ตอบสนองไปโหวตให้เรียบร้อย จึงเป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องดำเนินการตามคำมั่นที่ให้ไว้


นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า อยากจะให้ความรู้ทางกฎหมาย ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 362 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า “บุคคลออกโฆษณาให้คำมั่นว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซึ่งกระทำการอันใด ท่านว่าจำต้องให้รางวัลแก่บุคคลใดๆ ผู้ได้กระทำการอันนั้น แม้ถึงมิใช่ว่าผู้นั้นจะได้กระทำเพราะเห็นแก่รางวัล” ซึ่งนายกฯ ได้ให้คำมั่นแล้ว หลังจากนั้น นายกฯ ก็บอกว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล มีการโฆษณาเผยแพร่ผ่านสื่อ ยืนยันว่า ไม่มีอะไรที่เราไปเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย แต่เกี่ยวกับนายกฯ โดยเฉพาะ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า ส่วนที่สื่อมวลชนไปพูดว่าพรรคพลังประชารัฐจะมีปัญหา ขอเรียนว่า พรรคเราสบายมาก หัวหน้าพรรคมีความสุขและมีความเข้มแข็ง แนวแน่ที่จะดูแลพรรคพลังประชารัฐไปตลอด ไปจนไม่ไหว ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ได้พิจารณาในเรื่องนั้นเลย ไม่มีอะไรที่เราต้องเป็นห่วง

“ที่ท่านควรจะห่วง ควรจะห่วงท่านนายกฯ มากกว่า เพราะการไปให้คำมั่นมาแล้ว ทำครบถ้วนสมบูรณ์แบบนั้นแล้ว และนายกฯ เล่นไม่ปฏิบัติตามคำมั่น วิญญูชนโดยทั่วไปเขาก็จะว่าได้ว่านายกฯ อาจจะมีปัญหา จะโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ อาจจะขาดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ สื่อควรไปห่วงนายกฯ มากกว่า เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์เป็นเรื่องสำคัญ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ต้องไปดูกันว่า เจตนารมณ์เพื่อไม่ให้ผู้บริหารขาดคุณธรรม จริยธรรม เข้ามามีอำนาจในการปกครองบ้านเมือง ซึ่งน่าเป็นห่วง เพราะเป็นคำวินิจฉัยด้วย ผมยืนยันว่ากำลังพูดตามหลักวิชาการ ไม่ได้ขู่ใคร”

เมื่อถามว่า หากมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วไม่มีรายชื่อรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐที่เสนอไป จะยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ในข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคผู้ใหญ่ เราไม่ไปทำอะไรอย่างนั้นหรอก เราเพียงแค่บอกถึงเรื่องราวว่าเป็นเรื่องของคำมั่น คำมั่นไม่ต้องมีสัญญา ไม่ต้องลงลายมือชื่อ เป็นการแสดงเจตนา ตนต้องถามกลับ ในระดับนายกฯ นั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้วางบรรทัดฐานไว้ชัดเจนเมื่อไม่กี่วันมานี้ เมื่อมีคำมั่นแล้วไม่ปฏิบัติตามคำมั่น มันก็จะเป็นเรื่องครหา สังคมอาจจะติเตือน รวมทั้งอื่นๆ ก็แล้วแต่ แต่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ไปหวังอะไร ว่าจะต้องไปเปลี่ยนอะไร ท่านทำไปแล้ว ท่านทำไปเถอะ ทำไปให้มันจบ เพราะพรรคพลังประชารัฐเรามั่นคง เราพร้อมจะทำหน้าที่ทุกอย่างเพื่อเป็นประโยชน์ประเทศชาติและเป็นประโยชน์ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานของ สส.ของพรรคเราก็จะยังมั่นคงสถาพรตลอดไป

“แต่เป็นห่วง ผมอยากจะฝากย้ำอีกครั้ง เป็นห่วงท่านนายกรัฐมนตรีเถอะครับ อย่ามาห่วงพรรคพลังประชารัฐเลย และย้ำอีกครั้งไปถึงพรรคเพื่อไทย เราไม่ได้ไปเกี่ยวอะไรกับพรรคท่าน ท่านไม่ต้องมามีมติเรื่องอะไรกับเรา เราเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี” นายไพบูลย์ กล่าว


เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า คนบ้านป่าฯ มีคลิปวิดีโอของคนบ้านจันทร์ส่งหล้าในวันที่เรียกพรรคต่างๆ ไปหารือ หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายไพบูลย์ หัวเราะ แล้วกล่าวว่า ตนไม่ทราบ ถึงทราบก็ไม่รู้จะบอกทำไม ดังนั้น ตอนนี้ถือว่าไม่ทราบก็แล้วกัน

เมื่อถามว่า หากมีคลิปจริงจะถือเป็นหลักฐานเด็ดเรื่องครอบงำพรรคการเมืองหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ในเรื่องต่างๆ มันไม่ได้มีแค่เรื่องนี้หรอก

เมื่อถามอีกว่า มีหลักฐานหลายเรื่องใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนแค่ดูจากสื่อสารมวลชน ก็มีเรื่องเยอะแยะไปหมด

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ที่ตนห่วงที่สุดตอนนี้ คือ สถานะของรัฐบาล ถ้าเริ่มต้นอย่างนี้แล้วจะไปได้สักเท่าไหร่ และถ้าไม่ชื่อรัฐมนตรีจากพรรคพลังประชารัฐก็เป็นเรื่องดี จะได้รู้ว่านายกฯ ผิดคำมั่นไปแล้ว ส่วนพรรคเรามีความสุข จะได้ทำงานอย่างมีอิสระ อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ประเทศชาติ จะออกเสียงแสดงความเห็นได้อย่างเต็มที่ การเป็นฝ่ายค้านเสียหายตรงไหนก็แค่ไมีมีคนของพรรคเป็นรัฐมนตรีก็ถือว่าเป็นฝ่ายค้าน แต่พรรคพลังประชารัฐก็ยังทำงานตามอุดมการณ์ของตัวเอง พรรครัฐบาลตอนนี้ก็เป็นอดีตฝ่ายค้าน ไปอยู่ร่วมกับนายกฯ ซึ่งยังไม่ทันไรก็มีปัญหาเรื่องคำมั่น ปฏิบัติไม่ได้แล้ว หากพลังประชารัฐไปอยู่ด้วย พรรคก็เสียชื่อ ประชาชนจะมองเราในด้านไม่ดี ลองไปสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อนายกฯ ดู โดยส่วนตัวดีใจที่ไม่ได้ไปยุ่งเกียวด้วย แต่ที่พูดก็เป็นเรื่องคำมั่นที่นายกฯ ไม่ปฏิบัติตาม

เมื่อถามว่า ในการประชุมใหญ่พรรค จะมีการขับ สส.ในกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่มี ใครจะไปขับครอบครัวตัวเอง เป็นครอบครัวเรา อยู่ด้วยกันหมด ไม่มีเรื่องนั้น สื่อขอให้ไปเคลียร์เลย ไปลือกันโน่นนี่นั่นต่างๆ ไม่มีทั้งสิ้น เรามีความสุขที่จะอยู่ด้วยกัน

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าเป็นครอบครัวได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส แล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนก็คุย ร.อ.ธรรมนัส ก็คุยเหมือนกัน ก็อยู่กันแบบมีความสุขอยู่แล้ว ย้ำอีกครั้งเป็นเรื่องของครอบครัวเรา พรรคพลังประชารัฐ สส.ก็ทานข้าวกัน คุยกันมีความสุขเป็นปกติ คนนอกทำไมชอบไปหวังอะไรก็ไม่รู้ ประสงค์ร้ายกับครอบครัวเราหรือเปล่า


กำลังโหลดความคิดเห็น