ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ เช็กสัญญาณชีพ พปชร."ลุงหยุม" เหลือแต่ "นักรบชาวเกาะ"-"เสธ.ประสงค์แต่ทรัพย์ไม่ประสงค์ออกหน้า" แล้วจะสู้ต่ออย่างไร!?
ประโคมภาพ "ลุงหยุม" พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ถูกถีบออกจากพรรคร่วมรัฐบาลยังยิ้มได้ ออกสื่อ
ตามด้วยลีลาวาจาที่คิดว่าเชือดเฉือนฝ่าย "ทักษิณ ชินวัตร" และเพื่อไทย ได้จากพลพรรคที่ยังเหลือห้อมล้อมลุง เรียงหน้ากระดานเปิดเครื่องพ่นน้ำลายใส่ฝ่ายตรงข้าม
อย่าง "ชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์" ประดิษฐ์สำนวนโวหาร ฟาดเพื่อไทยที่หลอกให้โหวตนายกฯ แต่ไม่ให้ร่วมรัฐบาล เขาเรียกว่า "กะล่อน" แล้วขุดเอาตำนาน "บ่าวสาวถูกหลอกให้แต่งกัน" มาเปรียบเปรย
ตบด้วยคำตระบัดสัตย์ ขอรอติดตามซีรีส์ต่อไป บารมี “ลุงป้อม” ยังทำได้อีกมาก!
นอกจากแสดงเป็นสัญลักษณ์ว่า "หัวหน้า" ข้ายังมีบารมีอยู่ สร้างขวัญกำลังใจให้พวกเดียวกันเองฮึดสู้ ยังอยากส่งไปถึงฝ่ายตรงข้ามว่า รอได้เลย
งานนี้ พปชร.ไม่ยอมแพ้แน่
รวมกับที่มีข่าวว่า “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรค พปชร. ได้ส่งหนังสือเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) ในวันนี้( 29 ส.ค. ) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 5 ที่ทำการพรรคพปชร. ซึ่งหน้าเสื่อทำทีหารือกำหนดท่าทีในการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน
แต่ความตั้งใจหลัก คือ เรียกลูกพรรคมาถก "วาระแค้นต้องชำระ" ปล่อยข่าวออกมาแว่วๆ ว่า จะมีไม้เด็ดจะเอาคืนเพื่อไทยด้วย
แพลมๆ ออกมาว่า หนึ่งในนั้นจะแฉคลิปวงเจรจาตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เป็นอาทิ
เอาเป็นว่า "ลุงหยุม" เรียกลูกพรรคมาหลักๆ นอกจากเช็กสัญญานชีพแล้วต้องการถกกลยุทธ์แค้นต้องชำระ ก็ไหนๆ สู้มาแล้ว-สู้อยู่ และ "สู้ต่อ" จะเป็นไรไป !?
ว่ากันว่า คนที่ดันหลัง “ลุงหยุม” ให้สู้สุดฤทธิ์ คือ น้องชายสุดที่รัก "บิ๊กป๊อด" พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ และบุตรสาว นั่นเอง
แต่ “ลุงป้อม”จะรู้หรือเปล่าสงครามครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ตรวจแถวเช็กขุมกำลังพลของตัวเองมาดีหรือยัง !? นั่นคือคำถาม
ที่ผ่านๆ มาลุงมี "ผู้กอง" ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น"ขุนพล" ใช้งานหลัก ใช้ให้ไปรบทั่วทิศ แม้แต่พี่น้อง 3 ป.ด้วยกันก็ไม่เว้น แต่ลุงตบรางวัลด้วยการ "เสร็จนาฆ่าโคถึก"
วันนี้ “ลุงหยุม”แตกหักกับผู้กอง กำลังพลที่จะขึ้นชั้นเป็น"ขุนพล"นั้นไม่มี ที่เหลืออยู่ต้องบอกว่า ไม่ใช่นักรบเสื้อเกราะหากเป็นนักรบประเภท "ชาวเกาะ" ทั้งสิ้น
วงในสมาชิกพรรคพปชร.รู้กันดีว่า "นักรบชาวเกาะ" พวกนี้มีใครบ้าง !? ชื่อเสียงเรียงนามใดหาไม่ยาก เข้ามาเกาะ ลุงหยุม เพียงหลอกสูบเงินทองจากลุง
บ้างก็คิดแผนดูด "งูเห่า" พรรคโน้นพรรคนี้ บ้างก็คิดแผน "ฝากเลี้ยง" สส.ไว้กับพรรคอื่น สนนราคาต่อหัวต่อเดือนก็คิดบัญชีเอากับลุง คนละล้านบ้าง สองแสนต่อเดือนบ้าง !
นักรบชาวเกาะพวกนี้ ฆ่าให้ได้ ไล่ก็ไม่ไป ตราบเท่าที่เชื่อว่าลุงยังมีกระสุน และกล้วยในคลังอยู่
ขุมกำลังอีกส่วนเป็นนักรบรับจ้างกลุ่มที่ "พร้อมมาก" พร้อมจะไปอยู่ข้างไหนก็ได้ที่ชนะ
และยังมี เสธ.คนใกล้ตัวของลุง ที่มุ่งแต่ "ประสงค์ทรัพย์ ไม่ประสงค์ออกหน้า" ผลงานที่ฝากไว้เมื่อเร็วไปนี้ คือ "วัดครึ่งกรรมการครึ่ง" บอกลุงจะหิ้วกล้วยไป 1 หวี แต่หักไว้กินเองครึ่งหวี ซะงั้น
สรุปว่างานนี้ ลุงเช็กกำลังตัวเองก่อนดีมั้ย !? ก่อนที่จะงัดไม้เด็ด กลายเป็นงัดไม่รู้ ไม่แคล้วสู้ไปโดนไถไปอีกนั่นแหละ!
++ เบื้องหน้า เบื้องหลัง และเบื้องลึก ในการเข้าร่วมรัฐบาลของประชาธิปัตย์
หลังจากที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย มีมติ เตะโด่งพรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม”ออกจากการร่วมรัฐบาลเมื่อวันก่อน
ช่วงสายใกล้เที่ยง วานนี้ (28 ส.ค.) “สรวงศ์ เทียนทอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทยก็เดินทางไปที่รัฐสภา เพื่อส่ง “เทียบเชิญ”ให้ “เดชอิศม์ ขาวทอง”เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พาพรรคประชาธิปัตย์ มาเข้าร่วมรัฐบาล โดยมี สส.ของทั้ง 2 พรรคร่วมเป็นวอลเปเปอร์ สักขีพยาน
สองเลขาฯพรรคต่างยิ้มแย้ม อ้อนคำหวานต่อกัน
โดย “สรวงศ์”บอกว่า ผู้ที่เป็นส.ส. ทุกคน ล้วน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติเดินหน้าไปได้ด้วยดี ในอดีตแม้ทั้งสองพรรคจะเป็นคู่ต่อสู้ทางการเมือง แต่วันนี้มาถึงยุคของคนรุ่นใหม่ ที่เข้ามาดูแลพรรค ส่วนอุดมการณ์ทางการเมือง ก็เป็นเรื่องของอุดมการณ์ไป แต่แนวทางการทำงาน เชื่อว่าเราไปด้วยกันได้แน่นอน อะไรที่เคยไม่เข้าใจกัน หรือความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง และนี่ไม่ใช่แผน “ปิดสวิตช์ 3 ป.” แต่อย่างใด
ส่วน “เดชอิศม์” ถึงกับบอกว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ ไม่มีความขัดแย้ง เรามีแต่ความรัก ความเข้าใจ และการให้อภัยกัน เหตุการณ์เมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมา กับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ปัญหาของประเทศ แนวคิด การพัฒนาประเทศ ไม่เหมือนกัน ดังนั้น ถึงเวลาที่เราพูดคุยกันได้ เรารักกัน เป็นสิ่งที่ดีงาม ส่วนคนที่เห็นต่างภายในพรรค ก็ต้องปฏิบัติตามมติพรรคอยู่แล้ว
ที่เห็นนั่นเป็นเบื้องหน้า...ที่ว่าประชาธิปัตย์ เป็นพรรคการเมืองที่รักษา กฎ กติกา มารยาท อย่างเคร่งครัด คือถ้าจะร่วมรัฐบาล พรรคแกนนำต้องมีเทียบเชิญมาเสียก่อน จากนั้น นำเข้าสู่ที่ประชุม สส.และกรรมการบริหารพรรค เพื่อขอมติว่าจะร่วม หรือไม่ร่วม รวมทั้งถ้าร่วมแล้วจะส่งใครไปเป็นรัฐมนตรี
แต่เบื้องหลังนั้น เป็นที่รู้กันว่า แกนนำ “แมลงสาบ” เป็นฝ่ายโร่ ไปหาผู้มีอำนาจในพรรคเพื่อไทย เจรจาขอเข้าร่วมรัฐบาล ตามที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ได้เปิดแบล็กไลต์ ล่อเอาไว้
จึงมีข่าวออกมาตามหน้าสื่อว่า “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรค จะได้เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ ส่วน “เดชอิศม์”เลขาพรรค ได้เก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการ
มีข่าวซุบซิบกระทั่งว่า มีคนสนิทของ แกนนำพรรค แอบไปส่งชื่อบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรี ที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก่อนหน้าที่จะได้รับเทียบเชิญเสียอีก
เรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่ข่าวมโน เพราะแม้แต่ผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง “ชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตประธานสภา ยังออกมาคอนเฟิร์มว่า ที่เห็นเขามาส่งเทียบเชิญนั้น ความจริง คนของเราไปติดต่อเขา ก่อนที่เขาจะมาเชิญ หรืออาจไปขอให้เขามาเชิญด้วยซ้ำ จนทำให้ถูกมองว่า ประชาธิปัตย์ เป็นพรรคพรรคอีแอบ พรรครอเสียบอะไรทำนองนั้น ทั้งที่เป็นพฤติกรรมของคนส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่คนส่วนใหญ่
ยิ่งพวกที่อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่นั้น ไม่คิดที่จะทำให้พรรคเติบโต คิดเพียงว่าได้เป็นรัฐมนตรีสัก 2-3 คน ก็พอแล้ว
คนเหล่านี้ ไม่เคยทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคเลย เพียงแต่อาศัยชื่อพรรคเพื่อเข้ามาเป็นนักการเมือง หวังเข้ามาใช้ตำแหน่งในพรรค เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วมาอ้างว่าเป็นคนเข้ามายุติความขัดแย้งที่ยาวนานกว่า 20 ปี
“นายหัวชวน” ตวัดใบมีดโกนใส่พวกที่อ้างเป็นคนรุ่นใหม่ในพรรคอย่างไม่ยั้งมือ
นั่นเป็น เบื้องหน้า เบื้องหลัง ของการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่รู้ ที่เห็น
แต่ยังมีเบื้องลึกที่ซุบซิบในเชิงตั้งข้อสังเกตว่า ใครที่เป็นคนควักกระเป๋าเปิดเวทีดินเนอร์ทอล์ก ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” แถลงนโยบายรัฐบาล แทน “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” ใครส่ง “มาดามเดียร์” เข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ...คนนั้นก็น่าจะมีส่วนในการประสาน ผลักดัน ให้ประชาธิปัตย์ เข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้
