“เฉลิมชัย”ส่ง เต้ ลงพื้นที่ แพร่-พะเยา- สุโขทัย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แนะ รบ.ใหม่ ขุดคลองรอบภูเขาทุกอำเภอ

วันนี้ (28 ส.ค.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน) พร้อมด้วยนายสุรกิจ ศิริวาท ผอ.ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ ประจำจังหวัดแพร่ ,นายประสิทธิ์ คลังสีดา อดีตผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดอุตรดิตถ์ เขต 2 ,นายฉัตรชัย เข็มทอง อดีต ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดฉะเชิงเทรา เขต 3 ลงพื้นที่ภาคเหนือ อาทิ จ.พะเยา จ.แพร่ จ.สุโขทัย เพื่อให้กำลังใจเยี่ยมพี่น้องประชาชน พร้อมสำรวจความเสียหายจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วม จากฝนตกหนัก พร้อมหาทางบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในระยะสั้น เร่งรัดรัฐบาลใหม่ ให้เยี่ยวยาค่าซ่อมบ้านเรือนประชาชน ซ่อมโรงเรียน ซ่อมสถานที่ราชการ ชดเชยพื้นที่เกษตรกรรม พร้อมนำข้าวสาร-มาม่า น้ำดื่ม อื่นๆ จาก ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ มูลนิธิ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช มามอบให้พี่น้องประชาชน

วันนี้จุดแรก มาบ้านสบสาย อ.สูงเม่น จ.แพร่ จุดสอง บ้านป่าแมต ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ ทั้ง 2 จุด ท่วม 2 วัน น้ำท่วมสูงล้นแม่น้ำยมเลยเขื่อนกั้นตลิ่งถึง 2 เมตร บ้านเรือนเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเสียหาย รถยนต์-มอเตอร์ไซด์ จมน้ำ โรงเรียนเทศบาลตำบลป่าแมต อุปกรณ์การเรียน โต๊ะเก้าอี้ เสียหายหมด ฯลฯ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า สาเหตุน้ำท่วมหลายจังหวัดในภาคเหนือตอนบน (จ.เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) จากฝนที่ตกต่อเนื่องและมีตกหนักติดต่อหลายวัน นับตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.67 เป็นต้นมาถึงล่าสุดวันที่ 21 ส.ค.67 จากสถิติของจังหวัดที่เกิดอุทกภัยปรากฏว่าปริมาณฝนเฉลี่ยเริ่มสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ทั้งนี้เนื่องมาจากอิทธิพลของร่องมรสุมที่พาดผ่านทางตอนบนของภาคเหนือ และมรสุมมีกำลังปานกลางและค่อนข้างแรง ซึ่งขณะนี้แม้ฝนจะเริ่มซาลงแล้ว แต่ต้องระวังมวลน้ำที่ยังไหลในลุ่มน้ำต่างๆ ที่จะเริ่มทยอยลงมาเรื่อยๆ พี่น้องที่อยู่ใกล้ริมน้ำต้องเตรียมการ เอาใจช่วยให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ข้อมูลจากศูนย์ภูมิอากาศ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ

ณ 28 ส.ค.67 ปริมาณน้ำใน เขื่อนภูมิพล 6,014 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 44.67% ยังรับน้ำได้อีก 7,448 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนสิริกิติ์ 6,866 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 72.19% ยังรับน้ำได้อีก 2,644 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 273.14 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 28.45% ยังรับน้ำได้อีก 960.07 ล้าน ลบ.ม. เขื่อนแม่สรวย 57 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 78.08% ยังรับได้อีก 16 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนกิ่วลม 65 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 61.32% ยังรับได้อีก 41 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนกิ่วคอม้า 137 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 80.59% ยังรับได้อีก 33 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนแม่กวง 127 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 48.29% ยังรับได้อีก 136 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนแม่งัด 212 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 80% ยังรับได้อีก 53 ล้าน ลบ.ม. สังเกตุว่า ปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ยังพอรับได้ การระบายน้ำยังทัน ถ้าไม่มีพายุมรสุมเข้ามาแบบหลายๆลูกติดต่อกัน

ขณะนี้ปลายสิงหาคม 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเข้าสูฤดูฝน คาดสิ้นสุดกลางเตือน ต.ค. 67 เตือนพายุหมุนเขตร้อนเข้าไทย 1-2 ลูก เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลากช่วง ส.ค.-ก.ย.67 คาดว่าฤดูฝนจะสิ้นสุดกลางเดือน ต.ค. 2567 ปริมาณฝนรวมในช่วงฤดูฝนของทั้งประเทศในปีนี้จะใกล้เคียงค่าปกติ และใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา (ปี 2566 ปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติร้อย 1 )ดังนั้นในอนาคต หากรัฐบาลต้องการแก้ปัญหา ภาวะน้ำท่วม น้ำแล้ง ระยะยาว คงต้องดำเนินการทำโครงการขนาดใหญ่ วงเงิน 4-5 แสนล้านบาท เช่น ขุดคลองรอบภูเขา ทุกตำบล ทุกอำเภอ แล้วผันเข้าสู่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อชะลอน้ำไหลเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน เก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้งเพื่ออุปโภค บริโภค เกษตรกรรม อุตสาหกรรม ต่อไป ไม่ใช่พอน้ำมาก ก็เร่งปล่อยน้ำไหลลงแม่น้ำสายหลัก สุดท้ายก็ต้องเร่งระบายออกสู่ทะเล

”ผมขอเป็นกำลังใจให้กับประชาชนที่ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งนี้ ผมและพรรคประชาธิปัตย์ มีความห่วงใยประชาชนเป็นอย่างมาก โดยในช่วงที่ผมมาลงพื้นที่ในภาคเหนือนั้น จะมีการมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย มีการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ เพื่อที่จะนำเสนอให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งพิจารณาและลงมาแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็วและตรงจุดด้วย“นายมงคลกิตติ์ กล่าว