“สรวงศ์” เผย พท.เห็นตรงกันจับมือ ปชป.เพื่อประโยชน์ของชาติ ทิ้งความขัดแย้งไว้ข้างหลังเดินหน้าประเทศ ลั่น ปชป.ยุคนี้จับมือกันได้ ยันไม่ใช่แผนปิดสวิตซ์ 3 ป. ด้าน “เดชม์อิศม์” รับเทียบเชิญ หวานเจี๊ยบบอกวันนี้เรารักและให้อภัยกัน ไม่กังวลโดนร้อง ป.ป.ช.ไม่รู้เรื่องอะไร บอกถ้ามัวห่วงปมร้องเรียน ก็ไม่มีใครเป็น รมต.กันได้
เมื่อเวลา 11.25 น. ที่รัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลแก่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกันนี้ ได้มี สส.ของทั้ง 2 พรรคร่วมเป็นสักขีพยาน
นายสรวงศ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายเดชอิศม์ ว่า วันนี้จะยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการให้กับพรรคประชาธิปัตย์เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารประเทศ และเป็นรัฐบาลร่วมกัน
เมื่อถามถึงโควตารัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบไปด้วย รมว. 1 ตำแหน่ง รมช. 1 ตำแหน่ง หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ที่จะแต่งตั้งและทูลเกล้าฯ ต่อไป และตนไม่ขอก้าวล่วงในเรื่องนี้ เมื่อถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ จะทำงานร่วมกันได้จริงหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า อย่างที่นายเดชอิศม์เคยกล่าวไว้ เมื่อก่อนก็คือเมื่อก่อน แต่ปัจจุบันมั่นใจว่าในสภาผู้แทนราษฎรทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติไปได้ด้วยดี ทั้งนี้ไม่มี สส.พรรคเพื่อไทยคัดค้าน ขอให้นำคำสัมภาษณ์ของนายเดชอิศม์เป็นที่ตั้งว่าประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ ทุกอย่างผ่านไปแล้ว ประเทศชาติต้องเดินหน้าต่อ พรรคของพวกเราร่วมต่อสู้กันมานาน แต่วันนี้มาถึงคนรุ่นใหม่ที่มาดูแลพรรค ส่วนอุดมการณ์ทางการเมืองก็เป็นเรื่องของอุดมการณ์การ แนวทางการทำงานเราไปด้วยกันได้แน่นอน
เมื่อถามต่อว่า เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ทั้ง 2 พรรค หักหลังประชาชน เพราะที่ผ่านมา เคยพาประชาชนออกไปชุมนุมแล้วเกิดการบาดเจ็บล้มตาย แต่สุดท้ายกลับมาจับมือกันตั้งรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในอดีตอุดมการณ์ทางการเมืองของเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ไม่เหมือนกันเลย แต่วันนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารพรรค หัวหน้าทั้ง 2 พรรค รวมถึงเลขาฯ และสมาชิกพรรคทุกคนมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ว่า ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนต้องได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้นเพราะประเทศชาติถอยหลังไปมาก ดังนั้น จึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเดินหน้าร่วมกัน อะไรไม่เข้าใจกันหรือความขัดแย้งต้องทิ้งไว้ข้างหลัง
เมื่อถามว่า พี่น้องเสื้อแดงได้สะท้อนความคิดเห็นถึงการเข้าร่วมรัฐบาลในครั้งนี้หรือไม่ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่ และเห็นตรงกันว่าถ้าเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมทุกคนเข้าใจได้
เมื่อถามถึงเหตุผลในการเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวว่า การบริหารประเทศก็เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร แต่พวกเราที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติจะต้องทำให้เสียงในสภามั่นคง เราไม่ได้เชิญเพียงแค่พรรคประชาธิปัตย์ แต่เชิญหลายส่วนให้เข้าร่วมรัฐบาลด้วย เพื่อร่วมพัฒนาประเทศต่อไป ต่อข้อถามว่าเป็นแผนปิดสวิตช์ 3 ป.ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า
“ไม่ใช่แผน ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ แต่พอถึงวันนี้เราทำงานร่วมกัน 1 ปีแล้ว เราเห็นถึงคำอภิปรายต่างๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ เราก็ดูการทำงานของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนี้ คิดว่าก็สามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ จะทำให้ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยไม่พอใจหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขอให้ดูที่ผลงาน มั่นใจหากร่วมกันทำงานแล้วผลงานออกมาดี และมองอีกมุมหนึ่งความขัดแย้งได้หายไปแล้ว และร่วมมือกันทำงานจะเป็นสิ่งที่ดีมากกว่า
ด้าน นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ให้ความไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์ และเห็นความสำคัญของพรรคในการที่จะช่วยกันดูแลประเทศ หลังจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะต้องนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและที่ประชุม สส.ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 29 ส.ค. นี้
เมื่อถามถึงการทำความเข้าใจกับผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า วันนี้ประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้ง เรามีแต่ความรักความเข้าใจ และการให้อภัยกัน อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่า เหตุการณ์เมื่อ 20-30 ปีที่ผ่านมา กับปัจจุบันไม่เหมือนกัน ปัญหาของประเทศ แนวคิด การพัฒนาประเทศไม่เหมือนกัน ดังนั้น พอถึงเวลาที่เราพูดคุยกันได้ ที่เรารักกัน เป็นสิ่งที่ดีงาม
เมื่อถามว่า กลุ่มของ นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คัดค้านการร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ อาจมีความคิดเห็นเป็น 2 ฝ่าย แต่เมื่อมีมติของพรรคก็ต้องปฏิบัติตาม จากนี้ถ้ามีคนในพรรคโหวตแตกต่างจากมติของพรรคคงทำเช่นนั้นไม่ได้
เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่มีคนเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคสำรอง นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เราไม่ได้เป็นพรรคสำรอง รอบที่แล้ว สส.จำนวน 16 คน ก็ได้โหวตให้ หลายคนบอกว่าเราต้องไปร่วมรัฐบาลในเวลานั้น แต่เราก็ไม่ได้ไปร่วม เพราะเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วกับวันนี้ก็ไม่เหมือนกัน จึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และย้ำว่าไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นเรื่องของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า นโยบายใดที่พรรคประชาธิปัตย์จะนำไปร่วมผลักดันกับรัฐบาล นายเดชอิศม์ กล่าวว่า อยู่ที่นายกฯ ว่าจะให้กระทรวงใด เราสบายใจที่ได้ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เรามีความรักและการให้อภัยซึ่งกันและกัน เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี นายเดชอิศม์ กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่กังวล และตนก็ยังไม่ทราบเลยว่าเรื่องใน ป.ป.ช.ของตน คือ เรื่องอะไร น่าจะไม่เกี่ยวอะไรกับตน ถ้ามีเรื่องร้องเรียนทุกคนก็ไม่มีใครเป็นกันได้ เพราะคนนั้นคนนี้ก็ไปร้องเรียน ส่วนรายชื่อบุคคลที่พรรคจะส่งไปเป็นรัฐมนตรีนั้น ต้องรอที่ประชุมพรรคก่อน
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์นั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า คำนี้ฮิตเหลือเกิน ก็แล้วแต่ ทุกอย่างมองกันที่ผลงาน ต่อจากนี้ไปอีก 3 ปี ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตนขออย่างเดียวให้โอกาสนายกฯ และ ครม.ชุดใหม่ได้ทำงาน ถ้าทำอะไรผิดหรือไม่ดีค่อยร้องเรียน ไม่ใช่ออกมาพูดเพียงอย่างเดียว ขอให้ดูที่ผลงาน
เมื่อถามถึงกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นร้องเรียนกรณีซุกหุ้นของ น.ส.แพทองธาร นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรามีทีมกฎหมายดูอยู่แล้ว และคิดว่าจะไม่เป็นประเด็น
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยกับพรรคไทยสร้างไทย หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เดี๋ยวต้องพูดคุยกัน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุย