xs
xsm
sm
md
lg

ก่อนนี้ “มีเรา ไม่มีลุง” วันนี้ฝ่ายค้าน “มีเรา มีลุง” เหตุพปชร. ถูกเขี่ยทิ้ง เพราะ "ประวิตร" หมกมุ่นเล่นเกมแทงข้างหลัง อยากเป็นนายกฯตลอด ** ปชป.ได้เวลาเสียบ“ครม.อุ๊งอิ๊ง1” แต่ “เฉลิมชัย-เดชอิศม์”จะผ่านการสกรีนเข้มหรือไม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - ทักษิณ ชินวัตร - เฉลิมชัย ศรีอ่อน -เดชอิศม์ ขาวทอง
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ ก่อนนี้ “มีเรา ไม่มีลุง” วันนี้ฝ่ายค้าน “มีเรา มีลุง” เหตุพปชร. ถูกเขี่ยทิ้ง เพราะ "ประวิตร" หมกมุ่นเล่นเกมแทงข้างหลัง อยากเป็นนายกฯตลอด

ฟอร์มครม."อุ๊งอิ๊ง1”ที่ผ่านมายังไม่นิ่ง ต้องบอกว่า เพราะพรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงหยุม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
สุดท้ายไม่ได้ไปต่อ โดนดีดออกแบบเจ็บๆ ช้ำๆ จะต้องไปทำหน้าที่ฝ่ายค้านแทน

แม้ว่า “ลุงหยุม” หรือ “ลุงป้อม” จะงัดทุกกระบวนท่ามาใช้ เพื่อให้ได้อยู่ต่อ ทั้งส่งคนเคลียร์"ทักษิณ ชินวัตร" ทั้งปลุกปลอบลูกพรรค ระดมพลัง แต่ดูเหมือนพปชร.ของลุงจะไม่มีค่า ไม่มีราคา ในสายตาของ “ทักษิณ”

สัญญานออกจะชัดว่า “ทักษิณ” ไม่เอา “ลุงป้อม”ตั้งแต่แรก จะส่งโผมาก็รับตามมารยาท แต่ไม่ส่งเอกสารกรอกประวัติ รมว.ให้ จนพปชร.ต้องออกมาตีโพยตีพาย ไม่ได้รับเอกสารเหมือนพรรคร่วมอื่นๆ ที่สุดพรรคต้องออกหนังสือทวงถามจาก นายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ให้อายชาวบ้านเขา

คนเขาไล่ทางอ้อมแล้วยังดื้อด้าน ทำมึนไม่รู้ตัว !

แถมความระริกระรี้เป็น "ปลาหมอคางดำ" ได้น้ำของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีจะได้รับเทียบเชิญเสียบแทนยิ่งตอกย้ำสัญญาณเด่นชัดนี้

เพราะฉะนั้นแล้ว น่าสนใจว่า พปชร.ถูกถีบออก กระเด็นไปอยู่เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านกับพรรคประชาชน จะเป็นยังไง!?

งานนี้คงดูไม่จืดเลยจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง สองพรรคนี้เป็นดั่งศัตรูคู่อาฆาต ที่ไม่ยอมอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
แคมเปญหาเสียงของ “พรรคธนาธร”ตอนที่เป็นก้าวไกลจึงชูวลีที่ว่า “มีเรา ไม่มีลุง” หรือ ถ้ามีลุงก็ต้องไม่มีเรา ให้ประชาชนเลือกกันไปข้าง ปรากฏว่า ก้าวไกลได้คะแนนเสียงถล่มทลาย ทำให้ชนะการเลือกตั้ง เพราะ ตอนนั้นใครๆ ก็เบื่อรัฐบาลลุง รวมไปถึงพรรคการเมืองที่สร้างขึ้นมารองรับลุงๆ

 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - ทักษิณ ชินวัตร -แพทองธาร ชินวัตร
จากมีเรา ไม่มีลุงวันนั้น มาวันนี้การเมืองเล่นตลก พรรคประชาชน “มีเรา” แล้วกำลังจะ “มีลุง”พปชร.มาอยู่ด้วยซะงั้น!
เบื้องหลังที่แสนว้าวุ่นของพปชร. โดนเทอย่างไม่เหลือเยื่อใยนี้ ก็ต้องโทษว่า “ลุงหยุม” พลเอกประวิตร แต่เพียงผู้เดียว

เริ่มจาก ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในพรรคก็เป็น พลเอกประวิตรที่ “หลง” อยู่ในกับดักความคิดของตัวเองว่าจะได้เป็นนายกฯ

ประกอบกับหลงเชื่อกลุ่มคนใกล้ชิดที่ชอบ “อวยยศ” ลุงด้วยคำป้อยอ ไม่ดูพื้นฐานความเป็นจริง คิดแต่หลอกล่อ ล้วงตังค์ลุง ทำให้แผนดันลุงป้อมขึ้นเป็นนายกฯ เดินเกมผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า

สุดท้ายลงเอยด้วยความ“บ่มิไก๊”ของลุง พปชร.โดนทั้งคนนินทา หมาดูถูก

นี่เป็นปัญหาที่สมาชิกกลุ่มใหญ่ในพรรครู้สึกถึงความ “เลอะเลือนงมงาย" ของหัวหน้าพรรคที่เล่นการเมืองอยากเป็นนายกฯ อย่างลมแล้งๆ กับหาตำแหน่งให้น้องชายเท่านั้น ไม่สนการบริหารพรรคให้เป็นพรรคจริงๆ

ดังนั้น จึงเป็นที่มาของคำกล่าวของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ว่า “ผมรับใช้คนๆหนึ่งมากว่า 6 ปีแล้ว ผมพอแล้ว” ซึ่งก็ถูกตีความกันว่า เพราะ ลุงทำตัวเองให้เสื่อม สส.ก็เสื่อมศรัทธา ไม่เชื่อมั่นว่า พปชร.ภายใต้ ลุงหยุม จะเป็นพรรคการเมืองที่ฝากอนาคตไว้ได้อีกต่อไป

ว่ากันว่า จุดหักเหให้ พปชร.จะกระเด็นไปเป็นฝ่ายค้านที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อศูนย์รวมอำนาจ “คัมแบ็ก” มาอยู่ที่ “ทักษิณ ชินวัตร”เต็มตัว ก็ได้เวลาชำระบัญชีกับ พลเอกประวิตร ในหลายๆเรื่อง ทั้งอดีตเมื่อนานมาแล้วและอดีตที่เพิ่งผ่านพ้นไป

เช่น การโหวตเลือก “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ที่ความลับแตก พปชร.ภายใต้คำสั่ง “ลุงป้อม” สั่งเดินเกมใต้ดินหวังตลบหลังเพื่อไทย เพื่อจะเป็นนายกฯเอง

จนมาถึงโหวตเลือก “อุ๊งอิ๊ง” ก็ยังเล่นเกมการเมืองแทงข้างหลังแบบเดิม โดย “ลุงป้อม” เชื่อสนิทใจจะถูกเสนอให้เป็นนายกฯ
แต่ก็อย่างที่รู้กัน "ลุง" มโนหมกหมุ่นจากคำเยินยอของคนรอบข้าง เพราะความจริงไปไม่ได้ เมื่อผิดหวังก็โกรธระบายด้วยการ “หยุมหัวนักข่าว”อย่างที่เห็นกัน

ระหว่างทักษิณ กับ พลเอกประวิตร ว่าเป็นแก้วที่มีรอยร้าวยากประสานแล้ว สำหรับกับ “อุ๊งอิ๊ง” หนักกว่า

แว่วว่า “อุ๊งอิ๊ง” เกลียดลุงยิ่งกว่าสิ่งปฏิกูล เพราะพฤติการณ์ของลุงๆ ที่แพทองธารแค้นฝังใจ ที่คนของตระกูลชินวัตรโดนกระทำ ยื่นคำขาด หารือขอบิดาว่า หัวเด็ดตีนขาดก็จะไม่ยอมรับ“ลุง”และพรรคลุงให้อยู่ร่วมครม.

เรียกว่า งานนี้เพื่อไทยเอาคืนทั้งต้นทั้งดอก เป็นที่มาว่า “ครม.อุ๊งอิ๊ง 1”ต้องไม่มีลุง!

เฉลิมชัย ศรีอ่อน - เดชอิศม์ ขาวทอง
++ ปชป.ได้เวลาเสียบ“ครม.อุ๊งอิ๊ง1” แต่ “เฉลิมชัย-เดชอิศม์”จะผ่านการสกรีนเข้มหรือไม่

แน่ชัดแล้วว่าพรรคเพื่อไทย ไม่เอาพรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าร่วมรัฐบาล พร้อมเตรียมเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์มาเสียบแทน ตามที่ “พ่อของนายกฯ” ทักษิณ ชินวัตร ส่งสัญญาณเปิดไฟเขียวไว้

ตามกระบวนการของประชาธิปัตย์ เมื่อได้รับเทียบเชิญ ก็ต้องนำเข้าที่ประชุมสส.และกรรมการบริหารพรรค เพื่อขอมติก่อนที่จะมีคำตอบให้พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ประชาธิปัตย์มี สส. 25 เสียง และในเสียงข้างมาก 21 เสียงนั้นอยากร่วมรัฐบาลจนเนื้อเต้น มีเพียงกลุ่มสส.อาวุโส 3 คน ที่เป็นคู่แค้นกับมามากว่า 20 ปี และสส.รุ่นใหม่อีก 1 คน ที่ไม่เห็นด้วย ประกอบด้วย “ชวน หลีกภัย-บัญญัติบรรทัดฐาน-จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สส.บัญชีรายชื่อ และเป็น 3 อดีตหัวหน้าพรรค และ “สรรเพชญ บุญญามณี” สส.สงขลา ลูกชาย “นิพนธ์ บุญญามณี” ที่มีจุดยืนไม่เอา “ระบอบทักษิณ”

ใน 21 เสียงที่อยากร่วมรัฐบาลนั้น อยู่ในอาณัติ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน และ “เดชอิศม์ ขาวทอง” หรือ “นายกชาย”เลขาธิการพรรค

ในโผ “ครม.อุ๊งอิ๊ง1” ที่ปรากฏในหน้าสื่อก่อนหน้านี้ จึงมีชื่อ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” และ“เดชอิศม์ ขาวทอง” ว่าจะได้เป็นรัฐมนตรี
จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยว่า ชื่อของ “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” จะสามารถฝ่าด่านสแกน สกรีน ประวัติ-คุณสมบัติรัฐมนตรี เข้มข้นขั้นสุด คือนอกจากไม่มีประวัติติดคุก ติดตะราง แล้วยังต้องไม่มีความด่างพร้อยในด้าน “จริยธรรม” อีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อปิดจุดเสี่ยงไม่ให้ “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” ต้องตกม้าตาย เหมือน “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ที่ตั้ง “พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี

สำหรับตัว “เฉลิมชัย”นั้น แม้ไม่มีคดีความติดตัว แต่ก็ยังมีประเด็นข้อสงสัย เป็น“บุคคลในข่าว” ที่มีความเกี่ยวพันกับขบวนการ หมูเถื่อน-ตีนไก่เถื่อน ในสมัยที่เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลลุงชุดก่อนหน้าโน้น

แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่วายถูกแกะรอย ว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกับ 5 ผู้ต้องหาที่ถูก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกหมายจับ ในคดีตีนไก่เถื่อน ประกอบด้วย “เฮียเก้า“ หลี่ เซิ่งเจียว นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย, “กรินทร์ ปิยพรไพบูลย์” บุตรชายของนายหลี่, หยาง ยา ซุง - นวพร เชาว์วัย สองสามีภรรยา นักธุรกิจส่งออกตีนไก่ไปประเทศจีน และยังมี “เฮียเกียรติ” สมเกียรติ กอไพศาล อดีตเลขาฯ ส่วนตัวของ “เฉลิมชัย” รวมอยู่ด้วย
ว่ากันว่า ในสำนวนคดี มีการพาดพิงว่า “ทั่นรัฐมนตรี” มีส่วนรู้เห็น ตรงกับเสียงลือเสียงเล่าอ้าง จากคนในวงการค้าชิ้นส่วนไก่ในขณะนั้นว่า ต่างได้รับสัญญาณว่า “ผู้ใหญ่” ต้องการระดมทุนไปใช้ในการเลือกตั้ง

ส่วนในรายของ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง นี่ก็ไม่เบา เพราะที่ผ่านมา มีภาพลักษณ์เป็นขาใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยมักมีชื่อไปพัวพัน ข้องแวะ กับผู้ทำผิดกฎหมายหลายเรื่อง ทั้งกรณีบุกรุกโบราณสถาน เขาแดง-เขาน้อย ในพื้นที่ จ.สงขลา ที่ “เจ๊อ้อย” ณัฐณรันต์ จันทร์สว่าง พี่สาวของ “เดชอิศม์” ถูกฟ้อง ซึ่งคดีอยู่ในชั้นศาล และยังถูกทาง ปปง. เข้าตรวจสอบทรัพย์สิน ส่วน “จันทิมา จันทร์สว่าง” บุตรสาวของเจ๊อ้อย ที่มีศักดิ์เป็นหลานสาว “เดชอิศม์” ก็ถูกพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญาไปแล้ว

ไม่เพียงเท่านั้น “เดชอิศม์” ยังถูกเชื่อมโยงว่า รู้จักใกล้ชิด กับ “เตียว วุย ฮวด” หรือ “โทนี่ เตียว” นักธุรกิจหมื่นล้านชาวมาเลเซีย เจ้าของอาณาจักรเอ็มบีไอ กรุ๊ป ซึ่งเข้ามาลงทุนที่ด่านนอก อ.สะเดา จ.สงขลา และบุคคลผู้นี้ ถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดด้วย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างสองตัวอย่างที่คนในพื้นที่สงขลารู้กันดี

แม้ว่าทั้ง “เฉลิมชัย -เดชอิศม์” จะไม่ถูกดำเนินคดี หรือมีประวัติอาชญากรรม แต่จะผ่านมือสกรีนของ “รัฐบาลอุ๊งอิ๊ง” ในเรื่อง “มาตรฐานจริยธรรม”หรือไม่ต้องรอดูกัน

แต่เชื่อว่า เมื่อใดที่ทั้งสองคนนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี บรรดา“นักร้อง”ก็จะมีงานทำอีกหนึ่งเรื่องแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น