รองเลขานายกฯ เผย ครม.ตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย “ภูมิธรรม” เป็นประธาน ดูแลตั้งแต่ป้องกัน แก้ไข เยียวยา และฟื้นฟู
วันนี้ (27ส.ค.) เมื่อเวลา 12.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ก่อนเริ่มการประชุม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้หารือถึงสถานการณ์น้ำที่ส่งผลกระทบวงกว้างในขณะนี้ โดยมองว่าน้ำท่วมเป็นปัญหาซ้ำซากเรื้อรังมานานจากหลายปัจจัย ทั้งการบริหารจัดการน้ำ การกักเก็บน้ำ การไม่มีที่รองรับน้ำในภาคเหนือทำให้มีปัญหาน้ำท่วมทุกปี ซึ่งปีนี้มีฝนและมวลน้ำมาก เพราะเกิดจากภาวะโลกร้อน และนับวันจะยิ่งหนักขึ้นไปเรื่อยๆ โดยที่ประชุมหารือว่าการแก้ปัญหาต้องแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ 1.ปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องการระบายน้ำ 2.หลังน้ำลดจะเกิดการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนอย่างไร และ3.การแก้ปัญหาในระยะยาวที่เป็นวาระแห่งชาติในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเมื่อมี ครม.เข้ามาบริหารประเทศแล้วจะนำเรื่องนี้บรรจุเป็นวาระเร่งด่วนเพื่อดำเนินการรับสถานการณ์ได้ทันต่อไป
น.ส.นัทรียา กล่าวว่า ที่ประชุมยังคาดการณ์สถานการณ์ว่าขณะนี้พื้นที่บางส่วนคลี่คลายและในหลายพื้นที่ยังมีสถานการณ์หนักอยู่ เช่นที่ จ.สุโขทัย ยอมรับว่าค่อนข้างหนัก เพราะเป็นที่รองรับก่อนระบายน้ำออกสู่แม่น้ำต่างๆ และคันกั้นน้ำต่างๆเมื่อมาเจอมวลน้ำมากก็ไม่สามารถรับได้ พังทลายก็มี และคันน้ำที่กำลังสร้างอยู่ก็เกิดปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดิน นายภูมิธรรม จึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบไปแก้ไข และยังได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย ในรูปแบบคณะกรรมการ แต่มีอำนาจหน้าที่และการใช้งบประมาณที่ชัดเจน มี นายภูมิธรรม เป็นประธาน และมีรองประธาน คือ รมว.มหาดไทย และรมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนองค์ประกอบเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ศูนย์ฯดังกล่าวมีหน้าที่ตั้งแต่การป้องกัน แก้ไข เยียวยา และฟื้นฟู จะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย รวมถึงการใช้แหล่งเงินที่ถูกต้องตามระเบียบด้วย
น.ส.นัทรียา กล่าวด้วยว่า ภายใต้คำสั่งนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญคือ 1.เรื่อง การบริหารจัดการน้ำ การระบายน้ำ การแจ้งเตือน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข่าวและไม่ตื่นตระหนก ส่วนกระแสข่าวว่าน้ำจะมาเหมือนปี 54 นั้นที่ประชุมยืนยันว่าไม่เหมือนปี 54 แน่นอน โดยในส่วนการบริหารจัดการน้ำนี้ รมว.เกษตรฯจะรับดำเนินการ และ2.เรื่องการช่วยเหลือดูแลประชาชน รมว.มหาดไทย จะเป็นหลักในการบูรณาการความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงานทั้งนี้สำหรับเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของศูนย์ฯดังกล่าว จะใช้จ่ายจากงบฯกลางเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน โดยนายภูมิธรรม จะเป็นผู้พิจารณา แต่ทั้งนี้ในสถานการณ์ปัจจุบันจังหวัดที่ประกาศภัยพิบัติจะมีงบฯทดลองจ่ายที่สามารถใช้ได้ในจำนวน 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลือหากไม่เพียงพอต้นสังกัดจะขอมาที่งบฯกลางตามระเบียบขั้นตอนต่อไป แต่ทั้งนี้เมื่อมีคณะกรรมการฯขึ้นมาแล้วการดำเนินการจะรวดเร็ว ตอบสนองความเดือดร้อนของประชาชนได้ทันท่วงที ไม่ใช่ทำงานเชิงรับ