การเมืองสุราษฎร์ พื้นที่กาญจนดิษฐ์ แย่งชิงฐานเสียงกันดุเดือด เจ้าของพื้นที่เดิมอาจถอดใจสนามเล็ก เปลี่ยนสู้ศึกเลือกตั้งสนามใหญ่ วัดกำลัง! ตระกูล ‘จ่าแก้ว’ หรือ ‘นวลวัฒน์’ ใครจะเข้าวิน?
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของสนามเลือกตั้ง อบจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นช่วงต้นปี 2568 กำลังมีการซุ่มปรับกระบวนทัพกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะทีมคนรักสุราษฎร์ โดยมี กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว เป็นหัวหน้าทีม แสดงท่าทีถอดใจ และมีข่าวแว่วว่า น่าจะถอนตัวจากการแข่งขัน นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ที่กำลังจะมาถึง แล้วตัดสินใจลงแข่งขันเลือกตั้ง สส. ในสนามใหญ่แทน
สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากถูกปัญหาต่างๆ รุมเร้าเข้ามาทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวน สจ. ที่สนับสนุนลดลงไปจากเดิมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่า วันนี้เหลือ สจ. อยู่เคียงข้างกายเพียงแค่ไม่กี่คน และ สจ.ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดได้ย้ายค่ายย้ายสังกัดไปอยู่กับคู่แข่ง ซึ่งก็คือ ป้าโสภา กาญจนะ หญิงแกร่งมากความสามารถแห่งเมืองร้อยเกาะ ภรรยาอดีต สส.หลายสมัย ชุมพล กาญจนะ ส่งผลให้แต่ละอำเภอขาดแม่ทัพหลักที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนหาเสียง
รวมถึงผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ในแต่ละตำบลและอำเภอเกือบทั้งจังหวัด ต่างเห็นพ้องต้องกันที่จะสนับสนุนป้าโสภาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเก้าอี้นายก อบจ. เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง เนื่องจากที่ผ่านมาหลายพื้นที่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี กลับไม่ได้รับการพัฒนาอะไรเลยจากเจ้าของพื้นที่เดิม อีกทั้งนโยบายต่างๆ ที่เคยให้ไว้ตอนหาเสียงเลือกตั้งครั้งก่อนก็ยังไม่ได้ดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งที่วันนี้เหลือเวลาแค่ 3 เดือนกว่าก็จะหมดวาระแล้ว
นอกจากปัญหาเรื่องตัวขุนศึกเคียงบ่าเคียงไหล่ที่จะมาช่วยรบขับเคลื่อนเดินเกม ดูเหมือนเรื่องของกระสุน เสบียงกรัง และทุน ก็เป็นปัญหาที่น่าหนักใจไม่น้อย และไม่แน่ใจว่า จะเหลือเพียงพอถึงการรบที่จะเกิดขึ้นหรือไม่
เมื่อกองทัพขาดแม่ทัพ และเสบียงในการรบ นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้กำนันพงษ์ศักดิ์ไม่เดินหน้าหาเสียงสู้ศึกเลือกตั้ง นายก อบจ. เหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความวิตกกังวลใจให้กับลูกน้อง และทีมงานเป็นอย่างมาก เพราะในวันนี้ทีมมีสภาพเป็นรองคู่แข่งในทุกด้าน ที่สำคัญตอนนี้ทีมบริหารของกลุ่มคนรักสุราษฎร์ ยังหาคนที่มีศักยภาพมาร่วมทีมไม่ได้สักคน
แหล่งข่าวในพื้นที่รายงานว่า จนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถหารอง นายก อบจ. ที่มีคุณภาพมาร่วมงานสู้ศึกกับคู่แข่งในการเลือกตั้งที่จะมาถึงได้เลย ทำให้อะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป
ผนวกกับช่วงเวลานี้ อำเภอกาญจนดิษฐ์ ที่เคยเป็นเสมือนฐานที่มั่นหรือเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของทีมกำนันพงษ์ศักดิ์ กลับไม่มั่นคงเหมือนเดิม ทุกวันนี้ฐานเสียงแตกเป็น 2 ส่วนชัดเจน ส่วนหนึ่งเป็นของ “ตระกูลจ่าแก้ว” ของกำนันพงษ์ศักดิ์ อีกส่วนหนึ่งเป็นของ “ตระกูลนวลวัฒน์” ที่วันนี้ สส.ธานินทร์ นวลวัฒน์ สส.เจ้าของพื้นที่เขตนี้ ส่งพี่ชายแท้ๆ สจ.นิโรธ นวลวัฒน์ นั่งเป็นรอง นายก อบจ. ในทีมของป้าโสภา
เมื่อ สส.ธานินทร์ นำทัพเอง ทำให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น หลายตำบลในกาญจนดิษฐ์ย้ายค่ายจากกำนันพงษ์ศักดิ์ขอมาร่วมรบเคียงข้าง สส.ธานินทร์ ที่สำคัญตระกูลนวลวัฒน์ ขึ้นชื่อเรื่องรักพี่รักน้อง รักพวกพ้อง เป็นคนจริงใจ และเสมอต้นเสมอปลาย เมื่อ สส.ธานินทร์ และ สจ.นิโรธ นำทัพ ส่งผลให้ทุกวันนี้ ฐานเสียงที่เคยมั่นคงของกำนันพงษ์ศักดิ์ กลับไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะจากกระแสข่าวที่ออกมาตามหน้าสื่อก่อนหน้านี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนชาวกาญจนดิษฐ์ เริ่มมีการตั้งคำถามถึงความไม่เท่าเทียมในการพัฒนาที่กำนันพงษ์ศักดิ์มักเห็นพื้นที่นี้เป็นของตาย มีโครงการ มีงบประมาณอะไรก็จะนำไปพัฒนาพื้นที่อื่นก่อนเสมอ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้มีกระแสข่าวจากคนใกล้ชิดของกำนันพงษ์ศักดิ์ เริ่มแพร่กระจายออกมาว่า อาจจะถอยไม่สู้ศึกเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่กำลังจะมาถึง แต่จะขอถอยไปรบในสนามแข่งขันเลือกตั้งสนามใหญ่ สส. เขต 7 ชนกับ สส.ธานินทร์ นวลวัฒน์ แทน
เมื่อกำนันพงษ์ศักดิ์ ชนกับ สส.ธานินทร์ คงเป็นเรื่องที่สนุกแน่! เพราะจะได้วัดกันว่า พื้นที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ จะเป็นของตระกูล “จ่าแก้ว” หรือ “นวลวัฒน์” ที่สามารถสร้างความศรัทธาและครองใจประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่ได้มากกว่ากัน
