นักวิชาการอิสระ ยื่น ป.ป.ช.สอบ “มนพร” ยื่นทรัพย์สินเท็จหรือไม่ เล็งยื่นสอบอีกมากกว่า 3 มีชื่อในโผ ครม.ใหม่ ปูดอักษรย่อ “พ” จี้ นายกฯ ตรวจให้ชัด ฝืนตั้งล่อแหลมถูกสอบจริยธรรม
วันนี้ (21 ส.ค.) นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ยื่นหนังสือขอให้ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ตรวจสอบการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และในฐานะ สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ว่า มีการยื่นเอกสารอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงให้ควรทราบหรือไม่
นายสมคิด กล่าวว่า นักการเมืองท่านหนึ่งที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงคมนาคม ได้ยื่นรายงานต่อ ป.ป.ช.ว่า มีเงินติดบัญชี 6,819 บาท แต่จากการตรวจสอบย้อนหลังในปี 2562 และ 2566 พบว่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม ก็ยังมีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ โดยยังมีกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม 2 แห่ง ไม่มีการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงการถือครองที่ดินในจังหวัดนครพนมและกรุงเทพฯ อีก 14 แปลง ซึ่งได้ยื่นเอกสารทั้งหมดต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่
พร้อมกันนี้ ก็ฝากไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างสรรหาคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ หากยังมีบุคคลนี้ร่วมในคณะรัฐมนตรี ก็จะทำให้ล่อแหลมถูกยื่นตรวจสอบจริยธรรม เป็นปัญหาข้อกฎหมายต่อไป โดนในวันพรุ่งนี้ ตนก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ให้ตรวจสอบ ซึ่งมีนักการเมืองอีกประมาณ 2-3 ราย ที่มีลักษณะเช่นเดียวกันที่จะถูกยื่นให้ตรวจสอบการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
นายสมคิด ระบุว่า จะต้องมีการตรวจสอบการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินย้อนหลังทั้งในฐานะเป็น สส.และในฐานะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย เนื่องจากรัฐมนตรีช่วย รายนี้ ดำรงตำแหน่งต่อเนื่อง เป็นนายก อบจ.นครพนม 2 สมัย และเป็น สส. นครพนม ในปี 2562 และปี 2566
“ตามเอกสารที่ยื่่นต่อ ป.ป.ช. เธอมีที่ดินครอบครอง 14 แปลง แม้จะแจ้งต่อสาธารณชนว่าจดทะเบียนหย่ากับสามีแล้ว แต่โดยข้อเท็จจริงยังคงใช้นามสกุลสามีโดยเปิดเผย แม้ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดังนั้น แม้หย่าแล้วถือว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน และยังอยู่บ้านเดียวกัน ดังนั้น ทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครพนม สส.นครพนม ก็ต้องแสดงทรัพย์สินด้วย รวมทั้งกิจการโรงแรมที่จังหวัดนครพนม ที่ดิน และทรัพย์สินอื่นๆ”
นายสมคิด ยังกล่าวอีกว่า กรณี รมช.คมนาคม แม้ว่าจะจดทะเบียนหย่าแล้ว แต่โดยพฤตินัยยังคงอยู่บ้านเดียวกัน และยังโพสต์ภาพประกอบกิจกรรมโรงแรม รวมทั้งแสดงความเป็นเจ้าของในที่ดินทั้ง 14 แปลงอยู่ ซึ่งที่ดินทั้ง 14 แปลง ไม่ปรากฏว่ามีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ดังนั้น ภาษาทางกฎหมายเรียกว่ารายงานทรัพย์สินอันเป็นเท็จ
เมื่อถามว่า มายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.วันนี้จะเป็นการสกัดกั้นไม่ให้รัฐมนตรีช่วยคมนาคมคนดังกล่าวให้เข้ารับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่ใช่การสกัดกั้น แต่เป็นการยื่นตามปกติ เพื่อตรวจพบหลักฐานข้อมูล ซึ่งอาจจะไม่ใช่ รมช.คมนาคม รายนี้เพียงรายเดียว อาจจะมีรายอื่นด้วยที่มีลักษณะยื่นแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ซึ่งตนกำลังรวบรวมข้อมูลแต่ขอยังไม่เปิดเผยรายชื่อ มีมากกว่า 3 ราย โดยมีบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และบุคคลมีอักษรย่อ “พ” ด้วย
นายสมคิด ย้ำว่า มีเอกสารหลักฐานชัดเจน เพราะตนมายื่นจะต้องรับผิดชอบ หากยื่นเรื่องเท็จก็เข้าข่ายมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326 และมาตรา 328 อยู่แล้ว ตนยื่นตามสิทธิในรัฐธรรมนูญมาตรา 285 ที่ให้สิทธิบุคคลในการยื่นตรวจสอบหน่วยงานของรัฐ บุคคลของรัฐโดยสุจริตและเปิดเผย ย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมายอาญา มาตรา 239 เพื่อปกป้องประโยชน์สาธารณะไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้