ชาติไทยพัฒนาระส่ำ ผู้บริหารพรรคแห่ลาออกจากสมาชิกพรรค ล่าสุด “รัฐชทรัพย์“ ที่ปรึกษา “ประภัตร” คลังสมองของพรรคประกาศไขก๊อก หลังประเมินพรรคมีสิทธิ์ถูกยุบเหตุร่วมเข้าหารือจัดตั้งรัฐบาลที่บ้านจันทร์ส่องหล้าโดยไม่ผ่านมติกรรมการบริหารพรรค และปล่อยให้ “ทักษิณ” บุคคลต้องห้ามครอบงำพรรคการเมือง
รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนาแจ้งว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า กรรมการยุทธศาสตร์ และประชาสัมพันธ์ อดีตที่ปรึกษาของนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกชาติไทยพัฒนาและตำแหน่งต่างๆ ในพรรคทั้งหมด โดยมีการยื่นใบลาออกต่อนายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา โดยให้เหตุผลเพียงสั้นๆ ว่า ต้องการไปทำงานในธุรกิจส่วนตัว
ทั้งนี้ จากการสอบคนใกล้ชิดนายรัฐชทรัพย์คนหนึ่ง บอกว่า สาเหตุการลาออกในครั้งนี้ เนื่ิองจากผู้บริหารพรรคและสมาชิกพรรคหลายคน มีการหารือกันอย่างไม่เป็นทางการ หลังจากที่ทางพรรคชาติไทยพัฒนาได้ส่งตัวแทนไปหารือในการจัดตั้งรัฐบาลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในช่วงเย็นวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา ทางกลุ่มผู้บริหารเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ได้ผ่านคณะกรรมการบริหารพรรค และมีความสุ่มเสี่ยงถูกยุบพรรค ซึ่งอาจส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคตัดสิทธิ์ทางการเมืองได้
เนื่องจาก นายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นผู้เชิญแกนนำพรรคการเมืองมาหารือเพื่อเสนอชื่อนายกฯ คนใหม่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใด ๆ ได้ เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ประกอบรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 98 เพราะเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีทุจริต ดังนั้น การที่นายทักษิณเทียบเชิญพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มาร่วมหารือเพื่อตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่และจัดตั้งรัฐบาล จึงเข้าข่ายกระทำความผิดตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งไม่ใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม โดยมาตรา 108 กำหนดให้ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าถึงสิบปี
นอกจากนี้ แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ปล่อยให้นายทักษิณซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคเข้ามากระทำการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคตัวเอง ก็มีความผิดตามมาตรา 28 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน ซึ่งมาตรา 92 กำหนดให้พรรคการเมืองที่ฝ่าฝืนต้องถูกยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคด้วย
จากสาเหตุดังกล่าว สมาชิกพรรคหลายคนจึงเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะมีการลาออกจากสมาชิกพรรคก่อนถูกร้องในเรื่องดังกล่าว โดยก่อนหน้านึ้ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผศ.ดร.สันติ กีระนันทน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้มีการประกาศ ในกลุ่มไลน์ของคณะกรรมการบริหารพรรค ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคมาแล้ว และมีสมาชิกพรรคอีกหลายคน กำลังเดินทางไปยื่นในลาออกจากสมาชิกพรรคด้วย
“หลังจากหัวหน้าพรรคและเลขาฯ พรรค ไปพบคุณทักษิณ ทางสมาชิกพรรคหลายคนก็ไม่ค่อยสบายใจ เพราะการเข้าไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ทางพรรคการเมืองที่เข้าไปมีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกร้อง และอาจนำไปสู่การยุบพรรคได้ ซึ่งหากยุบพรรค คนที่โดนตัดสิทธิ์ทางการเมืองมันคือกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ สส.พรรคที่ไปยกมือสนับสนุนเขา เราพัง ยอมรับว่า ไม่สบายใจ “รัฐชทรัพย์” จึงมาคุยกับผม หลังจากอาจารย์สันติลาออก เขาคิดว่าอยู่ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์ต่อพรรคต่อไป เขาเลยบอกผมว่าจะไปยื่นใบลาออก ตอนนี้ก็มีหลายคนจะไปยื่นในลาออก” แหล่งข่าวกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐชทรัพย์ ถือเป็นคนหนึ่งที่เป็นคลังสมองของพรรคชาติไทยโดยนายรัฐชทรัพย์ เป็นประธานที่ปรึกษานายประภัตร โพธสุธน สมัยเป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ที่ตรวจสอบจัดสรรงบเพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าววงเงินสูงถึง 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่อไปยังการทุจริตมาแล้ว จนในที่สุดต้องยกเลิกโครงการและในปี 2566 ยังได้มีท้วงติงการขอใช้งบกลางของกรมการข้าวที่กำลังเตรียมเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.) รวมถึงโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติเพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางปี 2566 ที่กรมข้าว”ของบกลางกว่า 4,400 ล้านบาท ส่อเค้าผิดปกติเพราะขบวนการขั้นตอน ผิดปกติในการบริหารราชการแผ่นดินที่เสนองานไม่ผ่าน รมช.ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล และไม่ผ่านความเห็นสภาพัฒน์-สำนักงบประมาณด้วย