มท. ชี้ช่องท้องถิ่นทั่ว ปท. เพิ่ม “เด็กเรียนนอกระบบ” มีสิทธิเข้าถึง “นมโรงเรียน” ในปีการศึกษาล่าสุด ตามข้อเสนอ กสม. ยกสารพัดกฎกระทรวง หากข้อเท็จจริงพบ “ศูนย์การเรียน” จัดตั้งถูกต้อง ให้ถือว่าเป็นองค์กรการกุศล สามารถเสนอโครงการขอรับเงินอุดหนุนนมโรงเรียนได้ ตามวัตถุประสงค์เพื่อจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เผย รัฐบาลที่แล้ว เพิ่งอนุมัติงบกลาง 2566 รวม 2.3 พันล้านอุดหนุนนมโรงเรียม เทอมก่อนที่ไม่เพียงพอ
วันนี้ (20 ส.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ ที่มีความพร้อม เตรียมเข้ามาอุดหนุนค่าอาหารกลางวัน และค่าอาหารเสริม (นมโรงเรียน)
“กลุ่มผู้เรียนของศูนย์การเรียน” ที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยบุคคล องค์กรวิชาชีพ องค์กรชุมชนและองค์กรเอกชน ตามกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิของ องค์กรชุมชนและองค์กร ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. 2555
ซึ่งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) มีข้อเสนอและแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครอง สิทธิมนุษยชน เกี่ยวกับแนวทางการอุดหนุนฯ นมโรงเรียน ให้กับผู้เรียนของศูนย์การเรียน ดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้ดำเนินการลักษณะ “การสงเคราะห์ช่วยเหลือ” เด็กนักเรียนในศูนย์การเรียน เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพซีวิตเด็กที่ขาดสารอาหาร หรือทุพโภชนาการ
ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป โดยถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2559 และที่แก็ไขเพิ่มเติม
ล่าสุด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เวียนหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ แจ้งให้ อปท.ทราบและถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
โดยเฉพาะให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินอุดหนุน อปท. ข้อ 3 ที่กำหนดว่า “หน่วยงานที่ขอรับเงินอุดหนุน” ที่เป็น องค์กร ประชาชน ได้แก่
องค์กรซึ่งเป็นการรวมของประชาชน ที่จัดตั้งโดยถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับ ของหน่วยงานของรัฐ หรือหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์สาธารณะ และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
รวมถึงเป็น “องค์กรการกุศล” ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อดำเนินงานการกุศล หรือบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ มิใช่การมุ่งแสวงหากำไร ที่จัดตั้งตามกฎหมาย ระเบียบหรือข้อบังคับของหน่วยงานของรัฐ
เช่น มูลนิธิ เหล่ากาชาดจังหวัด กฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิขององค์กร ชุมชน และองค์กรเอกขนในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในศูนย์การเรียน พ.ศ. 2555
ซึ่ง หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า “ศูนย์การเรียน” ที่จัดตั้งถูกต้องตามกฎกระทรวง ที่จะได้รับการอุดหนุนมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก็ถือว่าเป็นองค์กรการกุศล ที่สามารถเสนอโครงการเพื่อขอรับสนับสบุนคำอาหารกลางวันและอาหารเสริม (นม) ได้
รัฐบาลที่แล้ว เพิ่งอนุมัติงบกลาง 2566 รวม 2,310,262,300 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอาหารเสริม (นม) ให้กับหน่วยงาน มท. ที่งบประมาณไม่เพียงพอ สำหรับไตรมาสที่ 4 (ห้วงเดือน ก.ย. 66) ให้ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาลนคร (ทน.) เทศบาลเมือง (ทม.) และ สถ.
ก่อนหน้านั้น กสม. มีข้อเสนอแนะไปยัง สพฐ. ให้แก้ไขระเบียบที่อาจลิดรอนสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัวและศูนย์การเรียน โดยเฉพาะเด็กเรียนนอกระบบ จะต้องเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างเท่าเทียม