โฆษกรัฐบาลเปิดผยความคืบหน้า Digital Wallet สมาคมธนาคารไทย ชี้ ทุกธนาคารยินดีให้ความร่วมมือเร่งเชื่อมระบบชำระเงิน Open loop พร้อมย้ำลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ให้ถูกต้องตามช่องทาง มีความปลอดภัย ข้อมูลไม่รั่วไหล ระวังอย่าเชื่อข่าวปลอม
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าที่ภาครัฐขอความร่วมมือภาคธนาคารในการเชื่อมระบบการชำระเงินลักษณะ Open loop ในโครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต นั้น สมาคมธนาคารไทย (TBA) เผยพร้อมเร่งเชื่อมระบบชำระเงิน หรือ Open loop โครงการดิจิทัลวอลเล็ตให้ทันกรอบเวลา โดยได้ระบุว่า ทุกแบงก์ยินดีให้ความร่วมมือ โดยสมาคมธนาคารไทย ได้มอบหมายให้กับทางสำนักงานระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย (Payment System Office : PSO) ร่วมกับประธานชมรม CIO ประสานงานกับทางสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA เป็นผู้พัฒนาระบบ เพื่อทำความเข้าใจสถาปัตยกรรมของระบบและการเชื่อมต่อระบบการชำระเงิน
ทั้งนี้ ภาครัฐได้ทยอยส่งแผนพัฒนามาให้กับคณะทำงาน PSO และ CIO เบื้องต้น แต่ยังมีคำถามและต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งเชื่อว่ายังเป็นไปตามช่วงเวลาที่ได้กำหนด
พร้อมกันนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกระทรวงดีอีโดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทยตรวจสอบ พบว่า มีการเผยแพร่ข่าวปลอมเรื่องการลงทะเบียนแอปฯ ทางรัฐ อาจมีความเสี่ยงทำให้ข้อมูลในบัตรประชาชนรั่วไหลไปสู่แอปฯ ใหม่ที่ชื่อว่า SupperApp ซึ่งกระทรวงดีอีได้ตรวจสอบแล้ว ยืนยันว่า แอปฯ ทางรัฐ ซึ่งพัฒนาโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) DGA ยืนยันว่า ทางรัฐ เป็นแอปพลิเคชัน ที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งโปร่งใสตรวจสอบได้ ดังนั้น ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือ ไม่ส่งหรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ โดยประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวข้องกับแอปฯ ทางรัฐ จากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้ที่เว็บไซต์ www.dga.or.th หรือ โทร. 02-612-6060
“โฆษกรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้า เพื่อยืนยันความตั้งใจของรัฐบาล ที่จะทำให้โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet สำเร็จ โดยรัฐบาลได้ดำเนินการในทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เดินหน้าก้าวข้ามทุกอุปสรรคอย่างถูกต้อง โปร่งใส รวมทั้งรับฟังทุกคำแนะนำตามหลักเหตุและผล เกิดความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ กระตุ้นเศรษฐกิจ วางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศและประชาชนไทย” นายชัย กล่าว