เมืองไทย 360 องศา
เริ่มเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นสำหรับการ “เปิดบ่อนเสรี” หรือ บ่อนถูกกฎหมาย รวมไปถึงเรียกว่า “สถานบันเทิงครบวงจร” หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยกำลังผลักดันอย่างเต็มที่ในเวลานี้ และดูเหมือนว่ากำลังเข้าใกล้ความจริงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีแนวโน้มที่มีคนเห็นด้วย และสนับสนุนให้เกิดขึ้นในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้นี้
ที่ผ่านมา หากพิจารณากันแบบที่จับต้องได้ก็คือ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 มีการตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตั้งสถานกาสิโน และการพนันพื้นบ้านให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยคราวนั้นเป็นส.ส.จากพรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอญัตติดังกล่าวขึ้นมา และมีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยอ้างถึงเรื่องการ “ลดส่วย” และการเก็บเงินรายได้เข้ารัฐ รวมไปถึงการกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้มหาศาล สารพัด
ต่อมาที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ลงมติเห็นชอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯดังกล่าว และเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป จากนั้นเมื่อ วันที่ 9 เมษายน 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติรับทราบผลการพิจารณาศึกษา เปิด “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ ผลการศึกษา ออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการมีสถานบันเทิงครบวงจร โดยศึกษาถึงผลกระทบในภาพรวม ทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่จะส่งผลต่อนโยบายของการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา และด้านศาสนาและจริยธรรม จากการมีสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย
2. ด้านโครงสร้างทางธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและการเก็บรายได้เข้ารัฐ การศึกษาถึงโครงสร้างทางธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันกันสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาตต่างๆ จากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือสถานบันเทิงที่มีสถานกาสิโนรวมอยู่ด้วย เพื่อนำมาเป็นรายได้เข้ารัฐ สำหรับนำไปขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ต่อไป
3. ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจร การศึกษาถึงรูปแบบ วิธีการ รวมถึงระเบียบหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง สถานประกอบการ ตลอดจนการเล่นการพนันที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เพื่อนำมาพัฒนาหรือแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย หรือยกร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพการณ์ และบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
ล่าสุดเรื่อง “บ่อนพนันถูกกฎหมาย” หรือแหล่งบันเทิงครบวงจร ดังกล่าวก็มีความคืบหน้าจนมีความเป็นไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรัฐบาล โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำคนสำคัญจากพรรคเพื่อไทย ได้นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหารือกันในการเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสภาต่อไป
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานการประชุมมีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง อาทิ นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. นายภราดร ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภท. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายซูการ์โน มะทา เลขาธิการพรรคประชาชาติ (ปช.) รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นต้น
อย่างไรก็ดี นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ในการประชุมวันนี้ ไม่ได้หารือเรื่อง ร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …แต่เป็นการหารือร่วมกันของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลประจำเดือนตามปกติ
ทั้งที่ก่อนหน้านั้น นายสรวงศ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า วันนี้จะมีการประชุมเกี่ยวกับกฎหมายที่ยังค้างในสภา และทำความเข้าใจที่จะส่งกฎหมายในส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับหลายกระทรวง และแต่ละพรรคการเมือง
“ฉะนั้นจึงต้องทำความเข้าใจก่อนที่จะเสนอกฎหมายเข้าสู่สภา ซึ่งรวมไปถึงกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร ที่เคยผ่านสภามาแล้ว ในเรื่องข้อสังเกต แล้วจะมาถกกันว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ ครม.เมื่อใด รวมไปถึงมีอะไรที่เห็นต่างกันหรือไม่”
เมื่อพิจารณาจากท่าทีที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่นายภูมิธรรม นัดประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ก็มีรายงานมาล่วงหน้าแล้ว เขาต้องการหารือเกี่ยวกับการเสนอร่างกฎหมาย การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ “บ่อนพนันถูกกฎหมาย” เข้าสภา โดยรัฐบาล แต่เมื่อเริ่มมองเห็นว่าน่าจะเป็น “เรื่องอ่อนไหว” จึงต้อง “หยุด” เอาไว้ก่อน เพื่อรอดูปฏิกิริยาจากสังคมว่าจะเห็นไปทางใดสักระยะหนึ่งก่อน
อย่างไรก็ดี สำหรับเรื่อง สถานบันเทิงครบวงจร หรือ “บ่อนการพนันถูกกฎหมาย” เป็นเรื่องถกเถียงกันมานาน และกลายเป็นเรื่องอ่อนไหวกับสังคมทุกครั้ง และเสียงส่วนใหญ่ที่ผ่านมามักแสดงความเห็นคัดค้าน เนื่องจากได้ไม่คุ้มเสีย เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่อง “อบายมุข” หลายประเทศที่มีการเปิดบ่อนตามกฎหมาย ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ไม่ได้ทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น มีแต่การสร้างปัญหาอื่นตามมาอีกมากมาย
แต่ขณะเดียวกันหากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วในตอนนี้ถือว่าการเสนอให้มีการ “เปิดบ่อน” ดังกล่าวมีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากหากเสนอเป็นกฎหมายเข้าสภาก็น่าจะได้เสียงสนับสนุน เพราะที่ผ่านมามีทั้งพรรคฝ่ายค้าน และรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพียงแต่ว่าอย่างที่บอกถึงอย่างไรมันก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เสี่ยงต่อเสียงวิจารณ์จากสังคมในวงกว้าง เพิ่มความเสี่ยงให้กับรัฐบาลในภาวะที่ความนิยมเริ่มถดถอย ซึ่งมองเห็นได้จากการเลื่อนหารือในวงพรรคร่วมฯ ออกไปก่อนนั่นแหละ
ล่าสุด พรรคภูมิใจไทย ได้หารือกันเป็นการภายในพรรคถึงเรื่องนี้ แล้วมีมติออกมาว่า ไม่เอาด้วยกับการเปิดสถานกาสิโน เพราะไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน
โดยนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แถลงว่าพรรคไม่เห็นด้วยใน 4ประเด็น คือ 1.พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะไม่แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และอาจทำให้มีการพนันทั้งบนดิน และใต้ดินจนเกิดปัญหาเพิ่ม 2.เรื่องผลประโยชน์ต่อรัฐ และประชาชน ยังไม่มีความชัดเจนมากพอที่จะลงทุนทำเรื่องแบบนี้ 3.ไม่มั่นใจว่ากาสิโน จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยได้ และ 4.เท่าที่ดูยังไม่เห็นมาตราไหนของร่างกฎหมายดังกล่าว ระบุเรื่องการช่วยเหลือแรงงานชาวไทยในการจ้างงาน ซึ่งเชื่อว่า พรรคร่วมอื่นๆ คงมีความเห็นเช่นกัน และหวังว่ารัฐบาลจะนำประเด็นต่างๆ เหล่านี้ไปพิจารณาทบทวน
พรรคภูมิใจไทย หักรัฐบาลเต็มๆ ในนโยบายเปิดเสรีกาสิโน