อดีต สส.ปชป. เห็นแย้ง “วิษณุ” แนะ “เศรษฐา” ควรมีมารยาท ทางการเมืองอย่าคว่ำโต๊ะยุบสภา หากถูกศาลเขี่ยพ้นเก้าอี้ มองกลับไปนั่งนายกฯอีกหรือไม่ อยู่ที่นายใหญ่
วันนี้ (13 ส.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช กล่าวว่า กรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (นายเศรษฐา ทวีสิน) ได้ออกมาแสดงความเห็นในประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดี 40 สว. ยื่นคำร้องถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในข้อหาการแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ว่า ถ้าหากนายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้นั้น
ซึ่งในข้อเท็จจริงไม่มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตราใดห้ามไว้ แต่ในสภาพความเป็นจริง การที่ นายเศรษฐา จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายทักษิณ เพราะในอดีตที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ข้อหาการรับจ้างทำอาหารออกทีวี ซึ่งสามารถกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่นายทักษิณไม่ยินยอม กลับไปสนับสนุนให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน
ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากนายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไป ยังมีคนที่รอคิวต่อจากนายเศรษฐา คือ คุณอุ๋งอิ๋ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของนายทักษิณเอง เว้นแต่หัวหน้าฝ่ายอนุรักษนิยมไม่ยินยอม และไม่ยอมรับให้คุณอุ๋งอิ๋งขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ส่วนประเด็นที่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าหาก นายเศรษฐา พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปแล้ว ก็เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ และสามารถใช้อำนาจยุบสภาได้ ซึ่งเรื่องนี้ในอดีตที่ผ่านมา ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีรักษาการคนใดใช้อำนาจยุบสภาเลย เพราะโดยมารยาททางการเมืองเขาไม่ทำกัน
“ถ้าคุณเศรษฐาจะยุบสภา ก็ควรยุบสภาก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาให้พ้นจากตำแหน่งแล้ว ก็ไม่ควรที่จะใช้อำนาจยุบสภาในลักษณะที่ไร้มารยาททางการเมือง เพราะเมื่อตัวเองหลุดพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จะให้ สส.ทั้งสภาพ้นจากตำแหน่งไปพร้อมกันด้วย เป็นการรื้อนั่งร้านหรือภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า “คว่ำโต๊ะ” คนที่นักเลงเขาไม่ทำกัน” นายเทพไท กล่าว