“ประวิตร” ชู ความสำเร็จนักกีฬาไทยกวาด 6 เหรียญ สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการกีฬาไทย พร้อมมอบ “สันติ” ถกพรรคร่วม รบ.เคาะ พปชร.ส่งชิงสนามเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลกหรือไม่
วันนี้ (13 ส.ค.) เวลา 15.30 น. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษก พปชร.ฝ่ายกิจการพรรค เปิดเผยถึงผลการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ประจำสัปดาห์ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานในที่ประชุม โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรค นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค และรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ เหรัญญิกพรรค และนายทะเบียนพรรค นายวราเทพ รัตนากร ผู้อำนวยการพรรค และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ประธานกรรมการด้านวิชาการ
โดย พล.อ.ประวิตร ได้รายงานความสำเร็จของไทยในการจัดส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน นับเป็นประวัติศาสตร์การกีฬาของไทย ที่ได้รับเหรียญรวมมากที่สุดถึง 6 เหรียญ ได้แก่ เหรียญทอง 1 เหรียญ เหรียญเงิน 3 เหรียญ และเหรียญทองแดง 2 เหรียญ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีกับนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันทุกประเภทกีฬา ซึ่งถือว่าการแข่งขันโอลิมปิกในปีนี้ ไทยได้รับสิทธิในการส่งนักกีฬาสูงถึง 52 คน สะท้อนถึงความสนใจที่คนไทยให้ความสนใจในการเล่นกีฬา จึงเห็นว่า ควรมีการส่งเสริม และเชิญชวนให้ เยาวชนหันมาใส่ใจกีฬามากขึ้นเพื่อป้องกันเยาวชนเข้าสู่วงจรยาเสพติด
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ฝากให้ สส. และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ให้ช่วยกันคิดและสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่พี่น้องประชาชนและช่วยกันแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ และที่ประชุมได้มีการหารือถึงการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เขต 1 แทนพรรคก้าวไกล โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้นายสันติ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง เป็นผู้พิจารณาว่าจะตัวแทนของพรรคในการลงแข่งขันเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ โดยจะต้องประเมินสถานการณ์จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ที่ พปชร.ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 2 มาประกอบการตัดสินใจ และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพิจารณาอีกครั้ง
ด้าน นายสันติ กล่าวว่า ในการแข่งขันเลือกตั้งซ่อมสนามพิษณุโลก จะต้องหารือในพรรคร่วมอีกครั้ง เพราะตามปกติพรรคร่วมจะส่งตัวแทนจากพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อไปแข่งขันกับพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งระหว่างที่รอการประกาศจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็คงจะมีการหารือกับพรรคเพื่อไทยในเร็วๆ นี้