xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ทหาร สัมมนา “พลทหารปลอดภัย” เชิญ 3 เหล่าทัพร่วม ปลื้มข่าวซ้อมน้อยมุ่งลดช่องว่างกองทัพ-พลเรือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กมธ.ทหาร จัดสัมมนา “พลทหารปลอดภัย” เชิญบุคลากรสามเหล่าทัพตบเท้าร่วมฟังพรึ่บ “วิโรจน์” พอใจข่าวซ้อมทหารเกณฑ์น้อยลง หวังยกระดับโครงการต่อ ลดช่องว่างกองทัพ-พลเรือน


วันนี้ (13 ส.ค.) ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับกองทัพบก และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม จัดโครงการสัมมนา “พลทหารปลอดภัย” โดยมีบุคลากรจากทั้งสามเหล่าทัพเข้าร่วมการสัมมนาในครั้งนี้อย่างคับคั่ง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการการทหาร ระบุว่า แม้ปัจจุบันจะมีข่าวการทำร้ายร่างกายพลทหารและนายทหารระดับปฏิบัติการเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่จากสถิติก็พบว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นเหล่าทัพต่างๆ ก็พร้อมจัดการกับปัญหาโดยทันที โดยไม่ปล่อยปละละเลย หรือมีการปกป้องผู้ที่กระทำการเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้ มาตรฐานทางการแพทย์และนายทหารเสนารักษ์ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทำให้การปฐมพยาบาลและการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพทำได้อย่างรวดเร็วเป็นระบบมากขึ้น อย่างไรก็ตาม โครงการพลทหารปลอดภัย ก็ยังคงต้องถูกยกระดับต่อไป เพื่อให้การดูแลเอาใจใส่สวัสดิภาพของพลทหารและนายทหารระดับปฏิบัติการได้รับการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ให้กลายเป็นความปกติใหม่ที่จะไม่ย้อนกลับไปเป็นเช่นเดิมอีก

นายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ข้อเสนอเพิ่มเติมของคณะกรรมาธิการการทหาร คือ เหล่าทัพควรมีการประเมินสุขภาวะทางจิตของผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการควบคุมการฝึกอย่างสม่ำเสมอ เพราะจากที่คณะกรรมาธิการการทหารได้รับเรื่องร้องเรียนมา ปัญหาการทารุณกรรมและการลงโทษกำลังพลที่เกินกว่าเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากปัญหาสุขภาพจิตของผู้ควบคุมการฝึก
.
นอกจากนี้ การลดช่องว่างระหว่างกองทัพกับพลเรือนก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน การนำหลักสูตรฝึกอบรมเกี่ยวกับการคิดในเชิงบวก การยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับประชาชนทั่วไป มาปรับและเปิดโอกาสให้ทหารได้เข้ารับการฝึกอบรมเฉกเช่นกับพลเรือน ก็จะทำให้ทหารเข้าใจแนวคิดของพลเรือน และเข้าใจบทบาทในการพัฒนาองค์กรที่สอดคล้องกับยุคสมัยมากขึ้นด้วย
.
“เมื่อทหารและพลเรือนมีความเข้าใจกันมากขึ้น ความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีต่อกันก็จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้การผลักดันแนวคิดสำคัญในการปกป้องสวัสดิภาพและสิทธิมนุษยชนของพลทหารและนายทหารระดับปฏิบัติการ ได้รับการตอบรับจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงมากขึ้น หัวใจสำคัญคือการใส่ความเป็นพลเรือนเข้าไปในค่ายทหาร เพราะถ้าทหารเข้าใจหัวอกพลเรือน ปัญหาการใช้อำนาจโดยมิชอบในการทำร้ายร่างกายและจิตใจก็จะมีแนวโน้มลดน้อยถอยลง” นายวิโรจน์ กล่าว

สำหรับงานสัมมนาวันนี้ มีการบรรยายและร่วมอภิปรายในหลากหลายหัวข้อ ที่เกี่ยวข้องกับการเกณฑ์ทหารและการยกระดับคุณภาพชีวิตของพลทหาร เช่น การบรรยายเรื่อง “การมองโลก การคิดบวก และการเข้าใจในความเห็นที่แตกต่าง” โดย สมปอง นครไธสง (อดีตพระมหาสมปอง) การบรรยาย “ชีวิตทหารเกณฑ์และสิ่งที่ควรปรับปรุงในระบบการเกณฑ์ทหาร” โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และการอภิปราย “กองทัพไทยกับภารกิจการเกณฑ์ทหาร” โดยวิทยากรจากคณะกรรมาธิการการทหาร เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น