“พริษฐ์” เผย กมธ.การเมือง เชิญ “เศรษฐา” แจงเกณฑ์ตัดสินใจรับรองร่าง พ.ร.บ.การเงิน แต่ส่งรองเลขาธิการนายกฯ มาแทน คาใจใช้เกณฑ์อื่นนอกจากภาระงบประมาณ ปัดตกหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน ได้นัดประชุมวันที่ 15 ส.ค. โดยมีวาระพิจารณาสำคัญ คือ ศึกษาสถานะและกระบวนการขั้นตอนการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการเงิน และกำหนดเชิญ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
โดย นายพริษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีการตอบรับมาแล้วว่า นายกฯ ได้ส่งรองเลขาธิการนายกฯ มาร่วมพิจารณา ซึ่งประเด็นที่จะพิจารณา คือ ปัจจุบัน ประธานสภา ใช้เกณฑ์อะไรวินิจฉัยว่าเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินหรือไม่ เมื่อวินิจฉัยและตัดสินว่าเป็น นายกฯ ใช้เกณฑ์อะไรตัดสินใจว่าจะให้คำรับรองและส่งเข้าสภาหรือไม่ ซึ่งเป็นการตรวจสอบและกรอบเวลา ทั้งนี้ ในขั้นตอนที่เกี่ยวกับนายกฯ มีร่างการเงินหลายยฉบับใช้เวลาพิจารณานานเกินกว่า 6 เดือน โดย กมธ.ต้องการให้มีตัวแทนายกฯ ชี้แจงและหาทางออกร่วมกัน
“ในขั้นตอนของนายกฯ ใช้เกณฑ์อะไรตัดสินใจรับรองหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญให้อำนาจนายกฯ พิจารณาเพื่อประเมินว่า เมื่อกฎหมายผ่านแล้วจะเป็นภาระทางงบประมาณแก่รัฐบาลหรือไม่ แต่ปัจจุบันนายกฯ มีเกณฑ์อื่นหรือไม่ หรือใช้เกณฑ์อื่นพิจารณาหรือไม่ เช่น กรณีเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับสาระของกฎหมายหากมีร่างกฎหมายซึ่งไม่ได้เพิ่มภาระงบประมาณมาก แม้ไม่เห็นด้วยเนื้อหาต้องรับรองพิจารณาในสภา” นายพริษฐ์ กล่าว
ประธาน กมธ.การเมือง กล่าวด้วยว่า สำหรับกรอบระยะเวลาได้ความชัดเจนในขั้นตอนพิจารณาตัดสินใจอย่างไร เพราะหากนายกฯ ใช้เวลาพิจารณานานทั้งในร่างกฎหมายที่เสนอโดย สส. หรือประชาชนเสนอ อาจจะทำให้ทำงานต่อลำบาก อย่างไรก็ดีเมื่อนายกฯ ไม่มาเอง รวมถึงเลขาธิการนายกฯ ไม่มา แต่ส่งรองเลขาธิการนายกฯ มาแทน ต้องรอดูว่าจะให้คำตอบได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามขั้นตอนของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นั้น หากถูกพิจารณาว่าเป็นกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน สภาต้องส่งให้นายกฯ ลงนามรับรองก่อน โดยที่ผ่านมา พบว่า สภาส่งร่างกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินให้นายกฯ พิจารณา รวม 56 ฉบับ พบว่ารอลงนามรับรอง 40 ฉบับ และไม่ลงนามรับรอง 16 ฉบับ ซึ่งแบ่งเป็นของ สส. 8 ฉบับ และของประชาชน 8 ฉบับ.