"แดดดี้ส้ม" มั่นใจแต่ไม่ประมาท เลือกตั้งซ่อม อบจ.ราชบุรี โยนถาม “พรรคปชช.” ถอดบทเรียนกระสุนมากกว่ากระแส เชื่อระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน "ชัยรัตน์" ผู้สมัคร ห่วงปชช.ไม่สนเวทีท้องถิ่น เตรียมจัดระเบียบองค์กร หากชนะ
วันนี้ (11 ส.ค. 2567) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในการช่วยผู้สมัครนายกอบจ.ราชบุรี หาเสียง ว่า ที่น่าติดตามมากกว่าคือวันที่ 1 ก.ย. มีเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี เราก็ส่งนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ หมายเลข 1 จะทำงานร่วมกับพรรคประชาชนต่อเนื่องแน่นอน
ส่วนกรณีมองอย่างไร วันนี้เห็นประชาชนในพื้นที่และกระแสแล้ว มั่นใจหรือไม่ว่าวันที่ 1 ก.ย. นี้ จะเป็นต่อหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า มั่นใจแต่ไม่ประมาท ตนคิดว่าเราต้องยืนอยู่กับความเท็จจริงว่าเราไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย ทุกครั้ง ทุกสนามเราต้องทุ่มเทจิตวิญญาณ นายชัยรัตน์ก็ทำงานอย่างหนัก ทุ่มเทจิตวิญญาณในการที่จะชนะใจพี่น้องประชาชนในแต่ละสนาม คราวนี้อีกอย่างก็คือว่าพอสนามชาติกับสนามท้องถิ่นมันคนละเกมส์กัน เพราะว่าเลือกตั้งล่วงหน้า เลือกตั้งข้ามเขต เลือกตั้งต่างประเทศไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อกี้ก็ลองถามหลายคนว่ามีครอบครัวอยู่กี่คน เขาก็ตอบตัวเลขมา ถามว่าอยู่ในราชบุรีกี่คน เขาก็ตอบมาว่าหนึ่งคน คราวนี้ถ้าทำแบบนี้พอไปเรื่อย ๆ
ทั้งนี้ ตนก็พอเห็นตัวเลขแล้วว่าเมื่อเทียบกับตอนเลือกตั้งปี 2566 ที่เรามาเป็นอันดับหนึ่งของบัญชีรายชื่อ สัดส่วนจะหายไปเท่าไหร่ แต่เราก็คงขอความช่วยเหลือให้ชาวราชบุรีที่อาจจะไม่ได้อยู่ในราชบุรีกลับมาใช้สิทธิ์กันเยอะ ๆ
ส่วนมีการถอดบทเรียนอย่างไรบ้างนั้น คงต้องถามพรรคประชาชน แต่สำหรับตนเองก็คงจะต้องตั้งใจทำวานเพื่อพิสูจน์ตัวเองกับพี่น้องประชาชน บางทีสุภาษิตไทย “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” คงเป็นบทเรียนของตนเอง
ส่วนอีก 2-3 สัปดาห์ จุดอ่อนอะไรที่จะต้องเร่งทำในการหาเสียงนั้น มองว่า การทำให้ประชาชนตื่นตัวแล้วกลับมาเลือกตั้ง เพราะตนเองมีความกังวลเล็กน้อย เพราะการถอดบทเรียน ความสนใจการเลือกตั้งน้อยลงไปเยอะ เพราะมีความไม่เถนตรง การกีดกันประชาธิปไตย แต่ละประเทศออกมาใช้สิทธิเหลือ50% ตนเองจึงกังวลจะเกิดปรากฎการณ์นี้กับการเมืองไทยไม่ว่าจะที่นี้หรือ จ.พิษณุโลก จุดประสงค์ของการเมืองดูสิ้นหวังเพราะคนทิ้งการเมือง ดังนั้นจึงต้องเรียกร้องให้ห้ออกมาใช้สิทธิกันเยอะๆ เพราะกระบวนการเลือกตั้งแสดงให้เห็นอำนาจของประชาชนถ้ามาใช้สิทธิน้อยก็ทำให้เจตจำนงของประชาชนไม่ได้รับการตอบสนอง
ขณะที่ นายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยด้วยว่า สิ่งสำคัญ พวกเราที่ลงพื้นที่อยู่ตลอดเวลาหลายวันที่ผ่านมาตั้งแต่ได้รับเบอร์หนึ่ง เท่าที่ฟังจากพี่น้องประชาชนก็ยังมีข้อเป็นกังวลแบบนายพิธาว่าพี่น้องประชาชนยังให้ความสำคัญน้อยกับการเลือกตั้งสนามท้องถิ่น เกรงว่าประชาชนจะมาเลือกตั้งวันที่ 1 กันยายน น้อย อยากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดได้กลับมาเลือกตั้ง ได้กลับมาเลือกผู้นำที่จะมาบริหารราชบุรี ตนคิดว่าตนมีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงราชบุรี และมั่นใจว่าประชาชนอยากจะเปลี่ยนราชบุรีให้ดีกว่าเดิม และมั่นใจว่าครั้งนี้เราจะชนะ
เมื่อถามว่ามีความมั่นใจหรือไม่เพราะนี่ถือว่าเป็นสนามแรกของการเลือกตั้งในนามพรรคประชาชน นายชัยรัตน์ยอมรับว่า ตอนแรกรู้สึกกดดัน เพราะตนถือเป็นหน้าใหม่ในการเมืองจังหวัดราชบุรี แต่เมื่อเดินทางไปได้ซักระยะหนึ่งแล้วก็รู้สึกว่าพี่น้องประชาชนอยากจะออกกับความเจ็บปวดทั้งหลายที่ได้รับในหลาย 10 ปีที่ผ่านมา อยากจะออกจากตรงนี้ อยากจะเปลี่ยนแปลงตรงนี้ให้ดีขึ้นในชีวิตของพวกเรา เพราะฉะนั้นพวกเขากำลังมองหาใครสักคนหนึ่งที่อยากเป็นผู้นำ ซึ่งตนคิดว่า ตนเป็นผู้นำของพวกเขาได้ และหากได้รับเลือกให้เป็นนายก อบจ.สิ่งแรกที่จะทำคือการเข้าไปจัดการองค์กรใน อบจ.ก่อน เพราะตอนนี้มีความระส่ำระสายสำหรับข้าราชการใน อบจ.ราชบุรี อาจไม่มีใครทราบว่า อบจ.ราชบุรี ไม่มีปลัดมานาน 3 ปี แล้ว วันแรกที่เราเข้าไปคงต้องประชุมกับทีมงาน ประชุมกับกองการเจ้าหน้าที่ว่าเรามีพนักงาน มีข้าราชการเหลืออยู่เท่าไหร่ เพราะหลายคนเจ็บปวดกับการบริหารงานที่ผ่านมาแล้วขอย้ายออกจากท้องถิ่นอปท.ไปมากมายทีเดียว เรายังขาดบุคลากรในองค์กรเยอะ เราอาจจะต้องจัดองค์กรสักนิดหนึ่ง สิ่งเหล่าที่ต้องให้เวลาเรานิดเดียว เราทำการบ้านไว้เรียบร้อย