“ธนวัช ”แนะ แก้ปัญหาแนวป้องกันตลิ่งเกาะพีพีพัง หลังพบสร้างทับแนวชายหาดเดิม ด้านนักวิชาการ เสนอ 2 แนวทาง รื้อถอนซาก ก่อนสร้างใหม่ต้องรับฟังความเห็นรอบด้านก่อน
นายธนวัช ภูเก้าล้วน นักธุรกิจและสมาชิกพรรคประชาชน เปิดเผยถึงปัญหาแนวป้องกันตลิ่งเกาะพีพีพังเสียหายว่า ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจของพื้นที่เป็นอย่างมาก เป็นปัญหาที่ต้องการแก้ไขในระยะยาว ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยที่ผ่านมาก็เห็นถึงความตื่นตัวของทุกฝ่ายที่จะร่วมกันแก้ปัญหา มีการจัดประชุมระดมความเห็น มี ผศ.ดร.สมปรารถนา ฤทธิ์พริ้ง ด้านวิศวกรรมชายฝั่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, อาจารย์ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร สส.บัญชีรายชื่อ, นายประเสริฐ วงษ์นา
รองนายก อบต.อ่าวนาง, นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี, ตัวแทนกรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกระบี่, ตัวแทนกรมทรัพยากรชายฝั่งจังหวัดกระบี่ และตน ร่วมหารือ และยังลงพื้นที่ตรวจสอบแนว ป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ตั้งแต่บริเวณท่าเรือต้นไทรไปจนสุดแนวบริเวณโรงพยาบาลเกาะพีพี ระยะทางประมาณ 400 เมตร ตลอดแนว พบความเสียหายจากการถูกคลื่นซัด มากกว่า 200 เมตร ซึ่งเป็นความเสียหายค่อนข้างหนัก ไม่สามารถซ่อมเเซมให้กลับสู่สภาพเดิมได้ โดยพบว่าน่าจะมีการสร้างทับแนวชายหาดเดิมด้วย ทั้งนี้การแก้ปัญหาควรทำอย่างยั่งยืนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการสัญจรของประชาชน ขณะเดียวกันก็ไม่ปล่อยให้ใครฉวยโอกาสใช้งบหลวงเพื่อปกป้องแนวเขตที่ดินของตัวเอง
ผศ.ดร.สมปรารถนา เปิดเผยว่า จากการสำรวจหาดต้นไทร บริเวณถัดจากช่วงที่ไม่มีแนวป้องกันการกัดเซาะหาดฝั่ง พบว่ามีแนวชายหาดที่กว้างและลึกสวยงามเป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานที่ว่าแนวป้องกันฯ เดิมจุดที่ได้รับความเสียหาย เป็นการก่อสร้างทับแนวชายหาดเดิมหรือไม่ และพบว่ายังมีทางเดินคู่ขนานอีกทางที่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งในเกาะพีพีมีทางสัญจรลักษณะนี้ทั่วทั้งเกาะ มีแนวทางแก้ปัญหาสองอย่างคือ ควรรื้อถอนซาก แนวกัดเซาะชายฝั่งที่เสียหายออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวพบว่ามีเรือหางยาวจอดรับส่งนักท่องเที่ยวบริเวณนี้ แม้จะมีสัญลักษณ์แสดงแนวเขตอันตรายแต่ก็ไม่สามารถปิดกั้นได้จริง และแนวทางในการก่อสร้างใหม่ ควรฟังความคิดเห็นรอบด้านก่อนดำเนินการ ทั้งนี้หากก่อสร้างแบบเดิม เชื่อว่าก็จะพบปัญหาเดิมอีก เสนอให้มีวิธีการชะลอความรุนแรงของคลื่นในช่วงมรสุม เช่น โดมทะเลหรือการปักไม้เพิ่มพื้นที่ให้ชายหาดตามหลักวิชาการ เพื่อความยั่งยืนทางทรัพยากรธรรมชาติต่อไป
ผศ.ดร.สมปรารถนา เปิดเผยว่า จากการสำรวจหาดต้นไทร บริเวณถัดจากช่วงที่ไม่มีแนวป้องกันการกัดเซาะหาดฝั่ง พบว่ามีแนวชายหาดที่กว้างและลึกสวยงามเป็นธรรมชาติ ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานที่ว่าแนวป้องกันฯ เดิมจุดที่ได้รับความเสียหาย เป็นการก่อสร้างทับแนวชายหาดเดิมหรือไม่ และพบว่ายังมีทางเดินคู่ขนานอีกทางที่สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งในเกาะพีพีมีทางสัญจรลักษณะนี้ทั่วทั้งเกาะ มีแนวทางแก้ปัญหาสองอย่างคือ ควรรื้อถอนซาก แนวกัดเซาะชายฝั่งที่เสียหายออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและนักท่องเที่ยวพบว่ามีเรือหางยาวจอดรับส่งนักท่องเที่ยวบริเวณนี้ แม้จะมีสัญลักษณ์แสดงแนวเขตอันตรายแต่ก็ไม่สามารถปิดกั้นได้จริง และแนวทางในการก่อสร้างใหม่ ควรฟังความคิดเห็นรอบด้านก่อนดำเนินการ ทั้งนี้หากก่อสร้างแบบเดิม เชื่อว่าก็จะพบปัญหาเดิมอีก เสนอให้มีวิธีการชะลอความรุนแรงของคลื่นในช่วงมรสุม เช่น โดมทะเลหรือการปักไม้เพิ่มพื้นที่ให้ชายหาดตามหลักวิชาการ เพื่อความยั่งยืนทางทรัพยากรธรรมชาติต่อไป