รองนายกฯ “ภูมิธรรม” ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบิน พร้อมประสานทุกฝ่ายเร่งให้สำเร็จโดยเร็ว เผย สกพอ.ส่งมอบพื้นที่เรียบร้อย ทำระบบประปาเสร็จแล้ว ระบบไฟฟ้าคืบหน้ากว่า 95% เริ่มก่อสร้างงานสำคัญ เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง ภายในปี 67 เปิดบริการในปี 72
วันที่ 7 ส.ค. 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคณะ ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ณ สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยมี ดร.ธาริศร์ อิสสระยั่งยืน รองเลขาธิการ สายงานโครงสร้างพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พร้อมด้วยผู้แทนจากกองทัพเรือ และผู้แทนจากบริษัทเอกชนด้านงานก่อสร้างและสาธารณูปโภคในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภาฯ ร่วมบรรยายสรุป ถึงความก้าวหน้าการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ในด้านต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่อีอีซี สร้างความมั่นใจและดึงดูดการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายให้เข้าสู่พื้นที่อีอีซีต่อเนื่อง
รองนายกรัฐมนตรี ภูมิธรรม กล่าวว่า การมารับฟังในส่วนของการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในพื้นที่อีอีซี โดยเฉพาะโครงการสนามบินอู่ตะเภา ในวันนี้ ถือเป็นการมาร่วมขับเคลื่อนสนามบินอู่ตะเภา ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาพื้นที่อีอีซี และมีความยินดีที่วันนี้ ได้เกิดความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐโดย กองทัพเรือ และภาคเอกชน ที่จะร่วมกันสร้างความร่วมมือผลักดันให้โครงการ ได้เดินหน้าต่อเนื่อง โดยในฐานะรองนายกฯ และในบทบาทประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ เพื่อแก้ไขข้อติดขัดของโครงการในทุกด้าน เพื่อให้โครงการสำเร็จโดยเร็ว ผลักดันการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ความก้าวหน้าการพัฒนา โครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ในส่วนของหน่วยงานรัฐ ที่สำคัญๆ อาทิ ด้านงานก่อสร้างทางวิ่งที่ 2 และทางขับ ปัจจุบันกองทัพเรือได้รับอนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 16,210 ล้านบาท และ สกพอ.ได้ส่งมอบพื้นที่เขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อให้ดำเนินการก่อสร้างโครงการฯ เป็นที่เรียบร้อย และอยู่ระหว่างกระบวนการคัดเลือกผู้รับเหมางานก่อสร้าง และที่ปรึกษาเพื่อควบคุมงานก่อสร้าง ด้านงานระบบสาธารณูปโภคที่จัดทำโดยภาครัฐ เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำเย็น โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ ขนาด 15 เมกะวัตต์ มีความก้าวหน้า 95.13% งานระบบประปาและน้ำเสีย กำลังผลิตน้ำประปา 10,000 ลูกบาศเมตรต่อวัน (เฟสแรก) ก่อสร้างแล้ว 100% ระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน มีความก้าวหน้าภาพรวม 50.16%
ในส่วนการประสานแจ้งให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการฯ (NTP) คาดว่า จะสามารถแจ้ง NTP ได้ภายในปี 2567 นี้ เพื่อเริ่มก่อสร้างงานสำคัญๆ เช่น อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 อาคารเทียบเครื่องบินรอง และศูนย์ธุรกิจการค้า เป็นต้น ซึ่งคาดว่าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา จะสามารถเปิดให้บริการในปี 2572 โดยการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา จะก้าวสู่ศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาค เป็นสนามบินนานาชาติที่ได้มาตรฐานโลก รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน เชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่ภาคธุรกิจ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และขนส่งทางอากาศแห่งภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นใจ และเป็นปัจจัยสำคัญดึงดูดให้นักลงทุนเข้าสู่พื้นที่อีอีซี