"ธนกร” เสนอสภาพิจารณาร่างกฎหมายสื่อลามกเสรีฉบับ “เท่าพิภพ ก้าวไกล” ให้ตกผลึก รอบคอบ หวั่น เกิดผลกระทบกับลูกหลานในอนาคต ลดทอนคุณค่าผู้หญิงเป็นวัตถุ ชี้ เก็บภาษีได้แต่ต้องนำงบเยียวยารักษาสังคมระยะยาว มอง ได้ไม่คุ้มเสีย
วันที่ 7 ส.ค.2567 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 7สส.แบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวเสนอแนะต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ส่วนตัวชอบพอกันกับนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคก้าวไกล แต่เรื่องการเสนอร่างพรบ.เเก้ไขประมวลกฎหมายอาญา ม.287 เกี่ยวกับการปลดล็อกสื่อผู้ใหญ่ หรือ สื่อลามกให้เสรีกับ ผู้มีอายุ 20 ปีขึ้นไปนั้น เรื่องนี้ตนมีข้อกังวลหลายอย่าง ถ้ากฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาให้ถูกต้องตามกฎหมาย จะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย เพราะแค่ทุกวันนี้ที่ยังผิดกฎหมายก็มีมากจนเกลื่อนเมืองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น หากทำให้ถูกกฎหมายจะยิ่งหนักกว่าเดิมหรือไม่ จะส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนโดยตรง เพราะการเข้าถึงสื่อลามกง่ายหากขายอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาล ลูกหลานเราไปเรียนได้เห็นสิ่งเหล่านี้ทุกวันจะทำอย่างไร
ขณะเดียวกัน สื่อลามกเสรี ยังส่งผลกระทบไปถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมที่มองผู้หญิงเป็นวัตถุหรือไม่ ตนได้ฟังการอภิปรายของเพื่อนสมาชิกส.ส.ก้าวไกลก็ต้องยอมรับว่าทำการบ้านมาดี แต่เรื่องนี้ตนมีข้อกังวลมากกว่าที่จะเห็นด้วย เพราะถ้าปล่อยให้ถูกต้องตามกฎหมายอาจจะเพิ่มความรุนแรงทางเพศมากขึ้น เกิดปัญหาในครอบครัว ในสังคมขึ้นอีก ซึ่งตรงนี้เราจะแก้อย่างไร
ทั้งนี้นายธนกร ยังยกผลการวิจัยจากสหรัฐอเมริกา ที่ปลดล็อคหนังโป๊ให้เสรี ส่งผลทำให้พฤติกรรมของคนก้าวร้าวขึ้น และยังมีงานวิจัยถึง 42 ประเทศ ระบุว่าการใช้สื่อลามก มีผลทำให้เกิดภาวะจิตตก ซึมเศร้า ซึ่งในที่ประชุมสภายังไม่มีใครจิตตกและซึมเศร้า แต่ถ้าผ่านร่างกฎหมายนี้ จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้คำนึงถึง ผลกระทบตรงนี้ด้วย ส่วนที่สส.ฝ่ายที่เสนอบอกว่า อุตสาหกรรมผู้ใหญ่หากถูกต้องตามกฎหมายจะสร้างรายได้เข้าประเทศมากมายนั้น ตนอยากให้ไปมองในผลกระทบเรื่องคดีทางเพศ คดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กและผู้หญิง มีคดีเกิดขึ้นมากมาย เกิดปัญหาครอบครัว ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณมากกว่าที่จะได้รายได้หรือไม่ ขอให้สภาพิจารณาอย่างรอบคอบทุกด้านทั้งผลดีผลเสียจนกังวลว่าจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี
“เรื่องเพศเป็นเรื่องที่ปกติในวิถีชีวิตของมนุษย์ แต่ถ้าทำสื่อลามกให้ถูกกฎหมาย ผลิตขายกันได้นั้น ผลกระทบจะมีมากกว่าหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ที่ยังไม่ถูกกฎหมายยังมีเกลื่อนเมือง ผมไม่ได้จะสุดโต่ง ยอมรับในบางอย่างได้ แต่หากผลเสีย ที่จะเกิดกับลูกหลานเด็กเยาวชนโดยโดยเฉพาะเพศหญิงนั้นจนมีข้อกังวล และขอให้สภาพิจารณาอย่างครบถ้วนรอบด้าน ควรไปศึกษาให้มากกว่านี้ และดูกรณีศึกษาจากต่างประเทศมาเทียบเคียงได้ การจะจัดเก็บภาษีได้เท่าโน้นเท่านี้ ต้องยอมรับว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมหรือยัง ผมยังเป็นห่วง ผมก็มีลูกสาวเชื่อว่าทุกคนที่มีลูกสาว มีคนในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง ก็เป็นห่วง จึงขอให้สภาตกผลึกทางความคิดศึกษาให้ละเอียดเพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อลูกหลานเรา ต่อครอบครัวในอนาคตได้“ นายธนกร กล่าว