เลขาฯ ก้าวหน้า ลั่น “อนาคตใหม่-ก้าวไกล” สถาปนาเป็นกลุ่มความคิดในทางการเมือง ยัน รักษาสถาบันฯ ต้องแก้ไข 112 ชี้ “ส.ส.ก้าวไกล“ กำลังใจยังดี เหตุ สู้ทุกมุมที่ถูกกล่าวหา
วันนี้ (7 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.25 น. ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลในวันนี้ ว่า ในฐานะที่ตนเคยถูกยุบพรรค เคยถูกตัดสิทธิมาก่อน พรรคจึงเชิญตนมาเล่าให้ฟัง เท่าที่สังเกต ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ขวัญกำลังใจยังดี แต่ละคนก็ไปทำงานที่สภา ก็ยังปฎิบัติหน้าที่ได้ดี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ลุกขึ้นอภิปราย และคงกำลังจะเดินทางไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ
นายปิยบุตร กล่าวอีกว่า เท่าที่ได้คุยกัน ก็ยังมั่นใจว่า ข้อต่อสู้ต่างๆ ที่ต่อสู้ไปนั้นดีที่สุดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องทำในการสู้คดี ก็ทำไปหมดแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าอย่างไร ในฐานะที่สอนวิชานิติศาสตร์ เมื่อไหร่ที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ก็จะอธิบายทุกครั้ง ว่า ให้เป็นเรื่องของกฎหมาย เป็นเรื่องของหลักการที่ถูกต้อง อย่าเอาความรู้สึก เหตุปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเป็นส่วนผสมในการตัดสิน
แต่เข้าใจดีว่า ประสบการณ์ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยเรามีการยุบพรรคเกิดขึ้นหลายครั้ง มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจำนวนมาก ที่ส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นธรรมดาที่สังคมและประชาชนจำนวนมาก จะประเมินเรื่องนี้ จากแง่มุมในทางการเมือง ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา หากมองในแง่ประเด็นทางข้อกฎหมาย ตนยังยืนยันว่า กรณีดังกล่าวไม่ถึงขนาดต้องมีการยุบพรรค แต่สุดท้ายก็ต้องดูว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร
นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนได้อ่านเอกสารการสู้คดีของพรรคก้าวไกล รวมถึงข้อกล่าวหาต่างๆ ยังมองว่า ไม่ใช่การกระทำของพรรค แต่เป็นการกระทำของปัจเจกบุคคล ส่วนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นกระบวนการนิติบัญญัติ ไม่ใช่เรื่องการล้มล้างการปกครอง อะไรก็ตามที่มีอยู่ในศาล อำนาจศาลก็จะเป็นผู้ตัดสิน และวินิจฉัย ซึ่งในท้ายที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องตอบประเด็นข้อโต้แย้งเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ใช่เป็นการตอบเฉพาะแค่ของพรรคก้าวไกล หรือของ กกต. แต่เป็นการตอบประชาชน และสังคมด้วย เพราะเป็นคดีที่เกี่ยวกับการยุบพรรคที่ชนะการเลือกตั้ง โดยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนถึง 14 ล้านเสียง
อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูคำวินิจฉัยก่อน หากมีการยกคำร้อง หรือยุบพรรค ก็ดี ก็ต้องนำคำวินิจฉัยนั้น มาศึกษา โดยหลังการจบการบรรยายพิเศษ ตนก็จะขึ้นไปนั่งฟังคำวินิจฉัยด้วย ซึ่งคงมีข้อวิจารณ์ตามมา เพราะหากเราจะจรรโลงประชาธิปไตย หลักนิติรัฐ นิติธรรม รักษาสถาบันองค์กรตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ ต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
นายปิยบุตร กล่าวในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ว่า รุ่นน้องที่มาอยู่พรรคก้าวไกล ก็ตั้งใจทำงาน กลุ่มขั้วความคิดแบบอนาคตใหม่ ก้าวไกล ตอนนี้ สถาปนาขึ้นเป็นกลุ่มความคิดในทางการเมืองแล้ว และจะพัฒนาเป็นการเมืองแบบใหม่ชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว คนที่จะขึ้นมารับบทบาทต่อไป ทั้งในวันนี้ และวันหน้า คงจะต้องยึดตามแนวทางของอนาคตใหม่ และก้าวไกลต่อไป
“สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่เรื่องของคนไม่กี่คน ไม่ใช่เรื่องของแกนนำพรรค แต่สัมพันธ์กับความคาดหวังของประชาชนด้วย ไม่ว่าวันนี้อะไรจะเกิดขึ้น ผมหวังว่า พี่น้องในพรรคก้าวไกล จะนำพาอาสาเดินหน้าทำความหวังประชาชนให้สำเร็จ”
นายปิยบุตร ยืนยันความเห็นมาตลอด ว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มันมีปัญหา จำเป็นต้องถูกปรับปรุงแก้ไข แต่ความเป็นจริงในแง่การเมือง สุดท้ายจะเป็นอย่างไร ถ้าวันนี้คดี 3/2567 ที่ผ่านมา ดูเหมือนการแก้มาตรา 112 จะถูกตีกรอบจำกัดมากขึ้น แต่จากที่ตนดูคำวินิจฉัย ก็ไม่เห็นมีตรงไหนที่บอกว่า จะแก้ไม่ได้ ตนยังยืนยันว่า การรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ มีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไข