สภาตีตก ร่าง กม.เพศพาณิชย์ หลังก้าวไกลเสนอปลดล็อกเซ็กซ์ทอย-หนังโป๊ อ้างสร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจ ฝ่าย รบ.รุบสับ หนุนคุกคามทางเพศ หวั่นโฆษณาจู๋-จิ๋ม โจ๋งครึม ลั่นยังหน้าบาง มีหน้าด้านเป็นบางคน ส.ส.มุสลิม ชี้หลักศาสนา ห้ามประเวณีเด็ดขาด
วันนี้ (7 ส.ค.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... มาตรา 287 ของ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร กับคณะ เป็นผู้เสนอ โดยมีสาระสำคัญ คือ ให้การแจกจ่ายหรือแสดงแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้า หรือส่งออก ซึ่งเป็นภาพเขียน ภาพพิมพ์ สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ สิ่งอื่นใดอันลามก ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือที่เป็นการใช้ความรุนแรง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากกฎหมายปัจจุบันที่ห้ามกระทำทั้งหมดไม่ว่าจะเกี่ยวกับบุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือไม่ก็ตาม
ที่ประชุมได้เปิดให้ ส.ส.ได้อภิปรายกันหลากหลาย โดย ส.ส.พรรคก้าวไกล ต่างสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะเห็นว่าการห้ามไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ อีกทั้งเห็นว่าของเล่นผู้ใหญ่ เซ็กซ์ทอย มีข้อดี ช่วยอาชญากรรมทางเพศ ลดความเครียด และแก้ปัญหาชีวิตครอบครัวได้
นายสรพัช ศรีปราชญ์ ส.ส.สระบุรี พรรคก้าวไกล อภิปรายสนับสนุนว่า การกำหนดกฎหมายแบบที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นว่า เราอยู่ในโลกแห่งการไม่ยอมรับความจริง เมื่อเราอยู่ในประเทศหน้าไหว้หลังหลอก มือถือสากปากถือศีล ไม่ยอมรับความจริง โดยเอาคำว่าศีลธรรมจริยธรรมเป็นเสื้อคลุมกาย ทำให้เรากลายเป็นคนดีขึ้นมาทันที และเป็นข้ออ้างที่ทำให้เซ็กซ์ทอยผิดกฎหมาย และเป็นกำลังทำลายความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่มีความรู้สึกทางกามอารมณ์ที่ต้องการใช้งาน แต่เราผลักใสให้เขาไปหาสิ่งอื่นๆ ทดแทน เมื่อต้องการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ หากเป็นคนไม่มีจิตสำนึกก็จะนำไปสู่การข่มขืน
นายภัณฑิล น่วมเจิม ส.ส.กทม.ก้าวไกล กล่าวว่า การแก้กฎหมายให้ผู้ผลิตสื่อทางเพศ ไม่ถือว่าเป็นผู้ทำผิดกฎหมายหรือส่งผลเสียต่อสังคม เนื่องจากเราไม่ได้เยาวชนเข้ามา และได้กำหนดให้ผู้ผลิตมีอายุ 20 ปีขึ้นไป ถือว่ามีวุฒิภาวะ และไม่เรียกว่ามอมเมาประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ผลิตและผู้รับสื่อมีอยู่ทั่วไปอยู่ตลอด จะไม่ดีกว่าหรือที่เราจะเรียกรับผลประโยชน์ ทำให้ขึ้นมาอยู่บนดินแล้วดูแลควบคุม ให้เสรีภาพแก่ผู้ผลิตสื่อซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคล จะใช้ร่างกายเลี้ยงชีพไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ส่วนเซ็กซ์ทอยขณะนี้มีอยู่แล้ว ทำไมไม่ควบคุมออกกฎหมาย เพื่อดูแลมาตรฐาน
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลต่างอภิปรายคัดค้าน อาทิ นายดวงฤทธิ์ เบญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ตนไม่ได้มีอคติ แต่เห็นว่ามีผลเสียมากกว่าผลดี หากมีการแก้ไขในเรื่องนี้ ปัญหาครอบครัว ผลของการกระทำ เราอาจเห็นว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในอนาคตเสี่ยงเกิดปัญหาภายในครอบครัว และเกิดการคุมคามทางเพศมากขึ้น และยังก่อให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบ ว่า การใช้ความรุนแรงทางเพศเป็นเรื่องปกติ และอาจมีผลต่อการค้ามนุษย์ข่มขืนใจ ที่สำคัญ จะมีปัญหาด้านสาธารณสุข ในแง่ของโรคติดต่อตามมา
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สาระสำคัญของการขอแก้ไขครั้งนี้ คือ ถ้าเป็นสื่อลามกที่เกี่ยวข้องกับคนอายุต่ำกว่า 20 ปี หรือใช้ความรุนแรง ให้มีความผิด ตนเห็นว่าฟังแล้วดูเหมือนจะดี แต่เจตนาของมาตรา 287 ต้องการคุ้มครองประชาชน ผู้อภิปรายพูดแต่เรื่องศีลธรรม แต่เราก็ต้องทำเหมือนเดิม เพราะในสังคมมีความหลากหลายมาก โดยเฉพาะการโฆษณาให้เห็นอวัยวะเพศ ภาพโป๊เปลือย หรือกิจกรรมทางเพศ บางคนมองมากกว่าเป็นศิลปะ และจะทำให้เกิดปัญหาล่วงล้ำสิทธิคนอื่น
นพ.เชิดชัย กล่าวต่อว่า การมองว่าเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญนั้น ความจริงก็ต้องมีบ้างเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ เพื่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งรัฐต้องมีมาตรการทางกฎหมายออกมาเพื่อคุ้มครอง ในการเข้าถึงสื่อลามกก็ต้องมีการป้องปราม ที่สำคัญ ปัจจุบันเรายังไม่ได้มีกฎหมายว่าด้วยการให้บริการทางการเพศ ซึ่งน่าห่วงใย ถ้าให้มีสื่อลามกเผยแพร่ออกไป เพราะฉะนั้นตนจึงไม่สนับสนุน
นพ.เชิดชัย กล่าวด้วยว่า เซ็กซ์ทอยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เป็นวัตถุช่วยเหลือทางเพศ เป็นการผ่อนคลายอารมณ์ อาจใช้กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ มีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ควรพูดให้ชัดเจน อาจมีประโยชน์ช่วยให้คู่ชีวิตดีขึ้น ลดการข่มขืน ลดความเครียด ประเด็นนี้ต้องทำให้ถูกกฎหมาย และเป็นคนละเรื่องกับมาตรการป้องกันสื่อลามก เซ็กซ์ทอยน่าจะเสนอเป็นกฎหมายเฉพาะ แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้คลุมเครือไม่ชัดเจน เกิดปัญหามากกว่าข้อดี อยากให้ผู้เสนอนำไปร่างใหม่เป็นการเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ทอย
นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า สมาชิกอาจจะมองตนเป็นหัวโบราณ แต่การแก้ไขกฎหมายนี้ อย่ามองเรื่องธุรกิจอย่างเดียว ต้องมองขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมของสังคมไทยเป็นอย่างไร ถึงแม้มันทันสมัย แต่ควรจะเป็นทันสมัยเรื่องอื่น คนในสังคมไทยไม่ว่าหญิงชายมีความขี้อาย แม้ว่าจะหน้าด้านเป็นบางคนเท่านั้น ผู้หญิงผู้ชายมีการสืบพันธุ์กัน แต่เป็นเรื่องของธรรมชาติจะเอามาเปิดเผยการค้าธุรกิจ ตนยังไม่เห็นด้วย กฎหมายนี้ควรคงอยู่เพื่อเป็นหลักประกันให้กับสังคม แม้วันนี้จะไม่ถูกกฎหมายแต่ยังสื่อลามกยังออกไปทางโซเชียลทุกวัน
นายธีระชัย กล่าวต่อว่า หากทำเซ็กซ์ทอยไปค้าขายตนเห็นด้วย เพราะจะได้ขายยางได้ราคาสูงขึ้น ถือเป็นผลผลิตต่อเนื่อง แต่สื่อลามกเป็นคนละเรื่อง เช่น ภาพยนตร์มีการเคลื่อนไหว ไม่ได้อยู่นิ่งเหมือนศิวลึงค์ หรือโยนี ปลัดขิก ซึ่งถือเป็นศิลปะที่มีมานานแล้ว
“ขนาดเรามีกฎหมายข้อห้าม ก็ยังมีสื่อลามกเต็มบ้านเมือง พ่อยังข่มขืนลูก พระยังข่มขืนเณร สองวันก่อนผมดูข่าวเด็ก ป.6 อายุ 12 ปี ถูกเรียงคิว 11 คน ผมไม่เห็นด้วยที่จะต้องให้ผ่านไป ไม่อยากให้ยกเลิกมาตรานี้ เพราะเป็นหลักประกันให้กับพวกเราคนขี้อายได้ ยกตัวอย่าง สมมติครอบครัวหนึ่งพ่อแม่เป็นดาราหนังโป๊ ถ่ายหนังแล้วเอาไปขายในตลาดมืด พอลูกโตขึ้นไปมีครอบครัวได้ดูหนังเก่าที่เห็นพ่อแม่แสดงหนังโป๊จะมีความรู้สึกอย่างไรกับสังคม จะเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่” นายธีระชัย กล่าว
นายธีระชัย กล่าวด้วยว่า เรามีวัฒนธรรม ศีลธรรม และบ้านเราไม่เหมือนตะวันตก ที่เขามีมานานแล้ว เราไม่ได้ล้าสมัย เรายังมีเกจิอาจารย์ คนนับถือศีลห้ามากมาย หากออกไปไม่รู้ประเทศนี้จะเป็นประเทศเซ็กซ์กันทั้งบ้านทั้งเมือง ขนาดบางประเทศเขาก็หวนกลับขนบธรรมเนียมที่ดี หากอยากสร้างเศรษฐกิจดีควรทำอย่างอื่นได้ ตอนนี้มีหลายฉบับอยู่ในสภา ไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมายเรื่องเซ็กซ์
นายวรวิทย์ บารู ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปรายว่า เรื่องเซ็กซ์ เพศศึกษาตามความเชื่อที่ตนศรัทธาในศาสนาอิสลาม ไม่ได้ห้าม มีความจำเป็น สามารถศึกษาได้ ในบทเรียนคำสอนก็มี แต่ถ้าเราตั้งคำถามว่าสิทธิเสรีภาพทางเพศ หรือสิทธิเสรีภาพตามอารมณ์ที่เราคิดว่าสนองตอบได้ ปัญหาต่างๆ ในเชิงสังคมก็จะหมดไป เราชอบอ้างประเทศที่มีความเจริญ แน่นอนว่า ปัญหาในเรื่องเพศ หรือแม้แต่การข่มขืน ไม่ได้สูญหายไป สิ่งที่จะกำกับได้คือศีลธรรม ศาสนาอิสลามไม่มีการซื้อขายทางเพศ ผลิตไม่ได้ สร้างไม่ได้ เรียกว่า เป็นการห้ามค้าประเวณีอย่างเด็ดขาด แต่จะใช้ศีลธรรมกำกับ คือ สามารถที่จะมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่เป็นที่อนุมัติได้ แต่ถ้าหากไม่เป็นที่อนุมัติ ถึงจะมีสิทธิเสรีภาพอย่างไรก็ตามก็จะไปกดทับสิทธิเสรีภาพอีกฝ่าย
“การสอนเพศศึกษาให้กับลูกหลานเป็นสิ่งจำเป็น ทุกความเชื่อไม่ห้าม แต่ถ้าหากไปกีดกันการนำเสนอเรื่องเพศศึกษา เป็นเรื่องน่าเป็นห่วงมากกว่าจะมาสร้างเสรีภาพในการให้เยาวชนได้รับรู้ แต่ตามหลักของศาสนาอิสลามได้ห้ามเข้าใกล้การค้าประเวณี หากเกิดมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้รับการอนุมัติแล้ว ทำให้เกิดทายาทขึ้นมา เพราะมันเกี่ยวโยงไปถึงเรื่องมรดกอะไรอีกมากมาย ดังนั้น สิ่งที่ปลอดภัยที่สุดคือการกำกับโดยศีลธรรม หากไม่ถูกกำกับโดยสิ่งเหล่านี้ จะแก้อย่างไร มนุษย์จะเก่งอย่างไร ก็แก้ไม่จบ ผมและพรรคประชาชาติจึงไม่อาจเห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายนี้” ผศ.วรวิทย์ กล่าว
หลังจากสมาชิกอภิปรายกันหลากหลาย ที่ประชุมลงมติ พบว่า เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับหลักการของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ด้วยคะแนน 284 ต่อ 145 งดออกเสียงไม่มี ส่งผลให้ร่างฉบับนี้ต้องตกไป