“พริษฐ์” ยังยิ้มได้ หลัง “ก้าวไกล” ขึ้นเขียงพรุ่งนี้ กระตุกเพื่อนร่วมพรรคเป็นเอกภาพ ลั่น ให้นึกถึงวันแรก เข้าพรรคด้วยเหตุผลอะไร ไม่ทราบมีการซื้อตัวกันแล้ว เข้าใจประชุมสภา พรุ่งนี้ คนจับตาคดีที่ศาลมาก แต่ขออย่าลืมกฎหมายที่ขับเคลื่อน
วันนี้ (6 ส.ค.) ที่อาคารอนาคตใหม่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า การประชุม ส.ส.พรรคก้าวไกล วันนี้ เหมือนกับการประชุม ส.ส.ทุกสัปดาห์ ที่จะมีการเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ หลายคนน่าจะจับตาไปที่การอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล แต่ก็อยากจะเชิญชวนประชาชน และสื่อมวลชนให้ความสำคัญกับวาระที่จะถูกพิจารณาในที่ประชุมเช่นกัน
โดยวาระที่จะพิจารณากันในวันพรุ่งนี้ คือ ร่างแก้ไข้ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก ซึ่งพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ และถือเป็นกฎหมายฉบับสำคัญฉบับหนึ่ง ที่พรรคก้าวไกลผลักดันต่อเนื่อง และเป็นฉบับแรกๆ ที่ยื่นเข้าสู่การพิจารณาของสภาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งหัวใจสำคัญคือ การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถจัดทำระบบขนส่งสาธารณะได้เองมากขึ้น เช่น การกำหนดเส้นทาง ค่าโดยสาร ซึ่งเชื่อว่า จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกให้ระบบขนส่งสาธารณะเกิดขึ้นได้ทั่วประเทศ อำนายความสะดวกในการเดินทาง ประหยัดค่าใช้จ่าย
นายพริษฐ์ ย้ำว่า เข้าใจดีว่า ประชาชน และสือมวลชน น่าจะพุ่งเป้าไปที่การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในเวลา 15.00 น. วันพรุ่งนี้ แต่อย่าลืมวาระการประชุมในสภาเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ ส.ส.ก็จะขับเคลื่อนต่อไป
ส่วนที่วิปฝ่ายค้าน และวิปฝ่ายรัฐบาล ตกลงถึงเวลาการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ ที่อาจจะเลิกประชุมเร็วกว่าเดิม นายพริษฐ์ ระบุว่า ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่ก็คงต้องทำหน้าที่ต่อไป ตามระเบียบวาระที่จะเข้าสู่การพิจารณา คงไม่ได้มีความจำเป็นต้องยุติอะไร หรือเร็วกว่าที่ตกลงร่วมกัน แต่ตัวเองก็เข้าใจว่า ทุกพรรคก็เข้าใจดีว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคู่ขนานกับการประชุมสภา คือ การอ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
นายพริษฐ์ ยังระบุถึงการโพสต์ถึงข้อต่อสู้ในคดียุบพรรคก้าวไกล ที่ถูกมองว่า เป็นการเตรียมการหากผลคดีออกมาเป็นโทษว่า ที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลต้องการจะสื่อสารกับประชาชน และสื่อมวลชนอย่างตรงไปไปตรงมา ว่า แนวทางการต่อสู้คดีนั้นเป็นเช่นไร และการสื่อสารนั้นก็ระมัดระวัง ยึดอยู่บนข้อเท็จจริง เอกสารข้อมูลที่ยื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้ถูกตีความว่า พยายามใช้เวทีสาธารณะในการกดดันศาลรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเหตุผลว่า แนวทางการต่อสู้ผ่านการแถลงจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็จะเป็นแนวทางการต่อสู้ที่ยึดจากเอกสารข้อมูลชุดเดียวกับศาลรัฐธรรมนูญ อย่างล่าสุดสัปดาห์ก่อนที่มีการแถลงข่าวจากนายพิธา และนายชัยธวัช ก็เป็นเนื้อหาของคำแถลงปิดคดี ซึ่งเป็นเอกสารชิ้นสุดท้ายที่ยื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ออกมาแฉว่า มีรัฐมนตรีแอบส่งคนมาติดต่อซื้อตัวเพื่อไปร่วมพรรคใหม่ นายพริษฐ์ ตอบว่า ไม่ทราบข้อมูลส่วนนี้ และ ส.ส.แต่ละคนอาจจะมีข้อมูลไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่ตัวเองคาดหวังคือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพรรคก้าวไกลในวันพรุ่งนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกล จะร่วมเดินหน้าร่วมกันเป็นเอกภาพ เชื่อว่า ส.ส.พรรคก้าวไกลทุกคน จำได้ดีว่า วันที่เราเดินเข้ามาที่พรรควันแรก ว่า เดินเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร การเปลี่ยนแปลงประเทศเป็นเช่นไร จึงเชื่อว่า ความทรงจำเกี่ยวกับวันนั้น จะเป็นเข็มทิศที่จะเดินหน้าต่ออย่างไรให้เป็นเอกภาพ เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่ได้ให้สัญญากับประชาชน โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวหยอกนายพริษฐ์ ว่า ยังยิ้มออกหรือไม่ นายพริษฐ์ ตอบว่า ยังยิ้มออก แต่ตอนนี้โดนประธานวิปฝ่ายค้านตามตัวแล้ว เพราะมาประชุมสาย ก่อนจะหัวเราะ