ส.ว.ถกร่างงบฯ ดิจิทัลวอลเล็ต นายกฯ นำ รมต.ร่วมชี้แจง ยืนยันจะทำตามกรอบวินัยการเงิน หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้

ส.ว.ถกร่างงบฯ เพิ่มเติมปี 67 เติมเงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต งดตั้ง กมธ.ศึกษา นายกฯ ขน รมต.ร่วมชี้แจง ยืนยันจะทำตามกรอบวินัยการเงินและกฎหมาย กระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (6 ส.ค.) ได้มีการประชุมสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเพิ่มเติมรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2567 จำนวน 122,000,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านการลงมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยวุฒิสภาต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาร่างดังกล่าว
ขณะที่ นายนิรุตติ สุทธินนท์ ส.ว. เสนองดใช้ข้อบังคับ 138 เป็นการชั่วคราวเฉพาะกรณีโดยไม่ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าวโดยมีผู้รับรองตอนนี้มีจำนวน 192 คน แต่ นางสาวรัชนีกร ทองทิพย์ ส.ว. เห็นแย้งว่า การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ที่มีงบประมาณถึง 1.22 แสนล้าน และเป็นเงินกู้เกือบทั้งหมด ตนจึงเห็นว่าไม่ควรยกเว้นข้อบังคับข้อนี้ ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาร่างฉบับนี้

ดังนั้น ที่ประชุมจึงให้มีการลงมติว่าเห็นชอบให้งดใช้ข้อบังคับตามข้อเสนอของนายนิรุตติหรือไม่ ผลปรากฏว่า สมาชิกเห็นด้วย 161 ต่อ 17 เสียง งดออกเสียง 15 เสียง ดังนั้น ที่ประชุมจึงไม่ต้องมีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้

จากนั้น นายมงคล ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาร่วมฟังการประชุมและคณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง และ นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายจักรพงศ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาร่วมประชุมด้วย

ด้านนายกรัฐมนตรีได้รายงานหลักการและเหตุผล โดยสรุปว่า งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 122,000 ล้านบาท มีที่มาจากรายได้รัฐบาล จำนวน 10,000 ล้านบาท และเป็นการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 112,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับกรอบวงเงินเดิม ตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 3,480,000 ล้านบาท จะทำให้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 มีงบประมาณรายจ่ายรวม 3,602,000 ล้านบาท แม้ว่างบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 67 เมื่อรวมกับกรอบวงเงินเดิมตาม พ.ร.บ.บประมาณงบปี 67 จะมีการขาดดุลเพิ่มขึ้น แต่รัฐบาลได้จัดสรรรายจ่ายลงทุนไว้ในงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 97,600 ล้านบาท โดยเมื่อรวมกับรายจ่ายลงทุนตาม พ.ร.บ.งบปี 67 จำนวน 710,080.5 ล้านบาท จะทำให้มีรายจ่ายลงทุน จำนวน 807,680.5 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายจ่ายลงทุนในปีงบประมาณ ปี 66 ร้อยละ 17.1 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.4 ของวงเงินงบประมาณรวม

“การบริหารงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดนี้ จะเป็นการใช้จ่ายเพื่อดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล และกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลจะดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐ ใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด กระตุ้นเศรษฐกิจให้เม็ดเงินไหลไปสู่ประชาชนและภาคธุรกิจ สร้างการเจริญเติบโตให้กับประเทศพัฒนาศักยภาพอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามกฎหมาย” นายกฯ กล่าว